โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

หุ้นร่วง9.35จุด รับแรงกดดันจากปัจจัยตปท.

[invalid]

อัพเดต 22 ต.ค. 2561 เวลา 10.47 น. • เผยแพร่ 22 ต.ค. 2561 เวลา 10.22 น. • tnnthailand.com
หุ้นร่วง9.35จุด รับแรงกดดันจากปัจจัยตปท.
ตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 1,658.56 จุด ลดลง 9.35 จุด มูลค่าการซื้อขาย 40,735.29 ล้านบาท ปิดตัวลดลงหลังถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศและตัวเลขส่งออกไทย

วันนี้ (22 ต.ค. 61) ตลาดหลักทรัพย์ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,658.56 จุด ลดลง 9.35 จุด (-0.56%) มูลค่าการซื้อขาย 40,735.29 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผย ตลาดหุ้นไทยวันนี้ถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ตัวเลขส่งออกไทยออกมาผิดจากตลาดคาดไว้มาก อีกทั้งเทคนิคหลุดแนว 1,665 ทำให้มีโอกาสอ่อนลงได้อีก

โดยตลาดบ้านเราลงสวนทางตลาดภูมิภาคหลังประธานาธิบดีจีนออกมาให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะสนับสนุนภาคเอกชนอย่างจริงจังเพื่อบรรเทาความวิตกกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมแนะติดตามงบประมาณอิตาลี,ตัวเลข GDP สหรัฐงวด Q3/61 และการประชุม ECB ส่วนบ้านเราติดตามการทยอยประกาศงบฯ Q3/61 พรุ่งนี้ (23 ต.ค.) ตลาดฯปิดทำการเนื่องในวันปิยมหาราช โดยทิศทางวันถัดไปมีโอกาสเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังร่วงหลายวัน แต่ยังมีความเสี่ยงอ่อนตัวลงด้วย ให้แนวรับ 1,650-1,655 แนวต้าน 1,675 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,658.56 จุด ลดลง 9.35 จุด (-0.56%) มูลค่าการซื้อขาย 40,735.29 ล้านบาท การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,674.25 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,654.90 จุด ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 351 หลักทรัพย์ ลดลง 1,108 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 380 หลักทรัพย์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ถูกกดดันจากปัจจัยต่างประเทศและตัวเลขส่งออกของไทยที่ออกมาผิดไปจากที่ตลาดคาดไว้มาก อีกทั้งในทางเทคนิคก็อ่อนแอหลังจากที่ดัชนีฯหลุดแนว 1,665 จุด ทำให้มีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงได้อีก

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียในช่วงเช้าส่วนใหญ่จะติดลบกัน แต่พอตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นจีนเปิดเทรดมาอยู่ในแดนบวกได้หลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ออกมาให้คำมั่นว่ารัฐบาลจีนจะให้การสนับสนุนภาคเอกชนอย่างจริงจัง เพื่อบรรเทากระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียกลับมาเคลื่อนไหวในแดนบวก ส่วนตลาดบ้านเราก็ยังคงติดลบอยู่เพียงแต่ลดช่วงลบจากช่วงเช้า

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามเรื่องงบประมาณของอิตาลี ที่ทางสหภาพยุโรป (อียู) ให้อิตาลีชี้แจงถึงงบประมาณที่ขาดดุลมากภายในวันนี้, ติดตามตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) งวดไตรมาส 3/61 ของสหรัฐฯที่จะออกมาในวันที่ 26 ต.ค.นี้ และให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 25 ต.ค.นี้ ส่วนบ้านเราติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/61 ต่อไป

ทั้งนี้ แนวโน้มการลงทุนในวันพุธที่ 24 ต.ค.นี้ นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากปรับตัวลงไปหลายวัน แต่ตลาดฯก็ยังมีความเสี่ยงที่จะอ่อนตัวลงได้ พร้อมให้แนวรับ 1,650-1,655 จุด ส่วนแนวต้าน 1,675 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

OSP มูลค่าการซื้อขาย 3,009.64 ล้านบาท ปิดที่ 23.70 บาท ลดลง 1.55 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,518.88 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,290.29 ล้านบาท ปิดที่ 50.25 บาท ลดลง 0.25 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,067.80 ล้านบาท ปิดที่ 61.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 994.63 ล้านบาท ปิดที่ 140.50 บาท ลดลง 1.50 บาท

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0