โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

หุ้นพลังงานพ้นจุดต่ำสุด "โรงกลั่น-ปิโตรฯ"เด่นสุด

efinanceThai

เผยแพร่ 26 พ.ค. 2563 เวลา 10.26 น.

โบรกฯ ฟันธงหุ้นน้ำมัน-โรงกลั่น-ปิโตรเคมี พ้นจุดต่ำสุดไปแล้วในเดือนเม.ย. เริ่มเห็นการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในครึ่งหลังปีนี้ ตอบรับคลายมาตรการล็อกดาวน์-กำลังผลิตทั่วโลกลดลงช่วยหนุน ระบุหุ้นโรงกลั่น-ปิโตรเคมี เด่นสุด ขณะที่บล.ทิสโก้ กังวลหุ้นพลังงานฟื้นตัวเร็วเกินพื้นฐานทำอัพไซด์จำกัด

*** กูรูฟันธงหุ้นพลังงาน-ปิโตรฯพ้นจุดต่ำสุด

หลังจากที่ภาพรวมอุตสาหกรรมพลังงาน และปิโตรเคมีตกต่ำอย่างมากในไตรมาส 1/63 จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รัฐบาลในหลายประเทศออกมาตรการล็อกดาวน์(Lockdown) ทำให้ตลาดน้ำมันดิบไม่สมดุลอย่างมาก

อย่างไรก็ดีบริษัทหลักทรัพย์(บล.)หยวนต้า(ประเทศไทย) ได้ระบุว่า ในเดือนพ.ค.เริ่มเห็นการฟื้นตัวของอุปสงค์น้ำมันแล้ว ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ เป็นผลจากการทยอยคลายมาตรการล็อกดาวน์ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการใช้รถยนต์เร่งตัวขึ้นแทนการใช้รถสาธารณะ ทำให้อุปทานมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่้อง

ขณะที่การผลิตใหม่ลดลงจากการเริ่มปรับลดการผลิตน้ำมันจาก OPEC+ 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน จากซาอุดีอาระเบีย 1 ล้านบาร์เรล/วัน และ Non-OPEC+ อีก 3.7 บาร์เรล/วัน รวมถึงจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐฯเหลือเพียง 337 แท่น ต่ำสุดตั้งแต่เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 2530

ดังนั้นเดือนเม.ย.63 จะเป็นจุดต่ำสุดของอุตสาหกรรม เนื่องจากได้รับผลกระทบมาตรการล็อกดาวน์เข้ามาเต็มไตรมาส ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันทั้งไตรมาส 2/63 หดตัว QoQ จากไตรมาสแรก

*** ครึ่งปีหลังฟื้นตัวแบบ "ค่อยเป็นค่อยไป"

บล.หยวนต้า ระบุว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง ความต้องการใช้น้ำมันจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปจากอุปสงค์น้ำมันที่จะกลับมาสูงกว่าอุปทาน จากการคลายมาตรการล็อกดาวน์ทั่วโลก แม้อุปสงค์ในส่วนน้ำมันอากาศยานจะยังถูกกดดันจากการเดินทางระหว่างประเทศ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวช้า  แต่การเดินทางในประเทศที่ฟื้นตัวเร็วจะเพียงพอต่อการหนุนอุตสาหกรรมฟื้นตัวแล้ว

จะเห็นได้จากล่าสุดสัญญาล่วงหน้าน้ำมัน Brent ได้ลดระดับภาวะตลาด Cotango(ราคาสัญญาล่วงหน้าในอีกหลายเดือนสูงกว่าราคาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า) ลงสู่ระดับปกติแล้ว ดังนั้นจึงได้คงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยปี 63 ไว้ที่ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล

*** ชูกลุ่มโรงกลั่น - ปิโตรเคมี เด่นสุด

บล.หยวนต้า ระบุเพิ่มเติมว่า กลุ่มโรงกลั่น-ปิโตรเคมีผ่านจุดที่แย่ที่สุดในไตรมาส 1/63 มาแล้ว ทำให้แนวโน้มกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนโดย

1) การขาดทุนสต็อกน้ำมันสูง ๆ จะไม่เกิดขึ้นซ้ำ และยังมีโอกาสบันทึกกำไรสต็อกเข้ามาในครึ่งหลังของปีด้วย

2) ได้ประโยชน์จากต้นทุนน้ำมัน(Crude premium) และต้นทุนวัตถุดิบ Naphtha ที่ลดลงทำให้ TOP SPRC IRPC จะได้ประโยชน์ ค่าการกลั่นในไตรมาส 2/63 จะสูงขึ้น QoQ ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 2/63 ขยายตัว QoQ ตาม ส่วน PTTGC และ IRPC อาจไม่เด่นนักเราะราคา HDPE และ PP ลดลงตามราคาน้ำมัน

3) อุปสงค์น้ำมันสูงขึ้นจากการทยอยเปิดเมือง โดยเฉพาะน้ำมันเบนซินจากการใช้รถยนต์เดินทาง 

อย่างไรก็ตามด้วยราคาหุ้นที่ปรับขึ้นแรงกว่าคู่แข่งในกลุ่มทำให้มีอัพไซด์ไม่มากนัก และอาจได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า จึงอาจใช้จังหวะสะสมในช่วงหุ้นอ่อนตัว โดยมีหุ้นแนะนำดังนี้ 

 

หุ้นคำแนะนำราคาเหมาะสม(บ.)SPRCซื้อ6.80TOPซื้อ50PTTGCซื้อ48IVLเก็งกำไร30

*** PTTEP - PTT ไม่เด่น 

แนวโน้มกำไรของกลุ่มอุตสาหกรรมต้นน้ำอย่าง PTTEP และ PTT จะไม่โดดเด่น เพราะราคาน้ำมันดิบยังอยู่ในระดับต่้ำโดยแนวโน้มผลประกอบการจะอ่อนแอลง QoQ ในไตรมาส 2/63 กดดันจากราคาขายเฉลี่ยที่ต่ำลงตามราคาน้ำมันดิบ ซึ่งช่วง 2QTD ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ที่ 31 ดอลลาร์/บาร์เรล (-39% QoQ และ -53% YoY)

ซึ่ง PTTEP อาจอ่อนตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีจากประเด็นเฉพาะตัว เช่น ราคาขายก๊าซที่คิดเป็น 70% ของรายได้ ยังมีแนวโน้มลดลง เพราะขายตามสัญญาที่มี Lag-time 6 - 12 เดือน และปริมาณขายที่ลดลง จากการที่ผู้ใช้ก๊าซหันไปนำเข้า LNG ที่มีอุปทานล้นตลาดและราคาถูกกว่าแทน

*** หวั่นราคาหุ้นฟื้นเร็ว สวนทางพื้นฐาน ทำอัพไซด์จำกัด

บล.ทิสโก้ ระบุว่า หุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวได้เร็วเกินไป และกำลังการผลิตที่กลับมาสูงเกินอุปสงค์ไปมาก โดยเฉพาะน้ำมันของเครื่องบินที่มีสต็อคอยู่สูง ทำให้อัตรากำไรถูกกดดัน และในเชิงของปัจจัยพื้นฐานนั้นอุตสาหกรรมก็อยู่ในสภาพที่อ่อนแออยู่แล้ว

โดยที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกลับไประดับก่อนโรคระบาดแล้ว และการปรับตัวที่ดีกว่าตลาด 10 – 23% จากกลางเดือน มี.ค. คิดเป็น PBV เฉลี่ยที่ 0.83 เท่า จากระดับปกติที่ 0.88 เท่า ทำให้การปรับประมาณการทำได้จำกัด ขณะที่ดาวไซด์(ความเสี่ยงขาลง)ยังมีสูง

ส่วนประเด็นบวกจาก Crude Premium เชื่อว่าได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และด้วยสงครามราคากับการลดกำลังการผลิตของ OPEC+ ได้ผ่านไปแล้ว แม้ว่าจะยังมีสถานะที่อ่อนแอ แต่ด้วยราคาที่มีเสถียรภาพเพิ่มขึ้น ทำให้ตะวันออกกลางไม่จำเป็นต้องขายน้ำมันในราคาต่ำต่อไปด้วยส่วนลด 7.3 ดอลลาร์ สำหรับน้ำมันดิบส่งมอบเดือน พ.ค. OSP สำหรับน้ำมันดิบ Arab Extra Light ในเดือน มิ.ย.มีส่วนลด เพิ่มขึ้น 5.9 ดอลลาร์/บาร์เรล

*** มีเพียง TOP ที่ยังมีอัพไซด์

บล.ทิสโก้ ระบุต่อว่า มีเพียง TOP ที่น่าสนใจด้วย PBV ที่ 0.77 เท่าเทียบกับปกติที่ 0.90 เท่า ซึ่งต่ำกว่า SPRC และ IRPC ที่ซื้อขายที่ 1 เท่าและ 0.7 เท่า เทียบค่าเฉลี่ยในช่วงปกติที่ 1.1 และ 0.65 เท่า จึงมีอัพไซด์ที่จำกัด

ทำให้เราแนะนำให้ “ซื้อ” TOP โดยมีมูลค่าที่เหมะสม 54 บาท, IRPC แนะนำให้ “ขาย” มูลค่าที่เหมาะสม 2.30 บาท และ SPRC แนะนำให้ “ถือ” มูลค่าที่เหมาะสม 7.20 บาท

ดูข่าวต้นฉบับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0