วันที่ 22 ก.ค. 2561 พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า คดีนี้ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ แล้วว่า แต่เดิมคดี น.ส.ประภาพรรณฯ เป็นผู้เสียหายในคดีเรียกค่าไถ่ แต่ภายหลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ในข้อหาค้ายาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด และได้เข้าไปขอความเป็นธรรมต่อ นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ และได้ไปให้ข้อมูลกับ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ และหายตัวไป ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2561
ถึงวันนี้ก็เข้าวันที่ 4 ซึ่งคดีนี้แต่เดิมจะแยกเป็นสองท้องที่ ในการดำเนินการ แต่เนื่องจาก น.ส.ประภาพรรณฯ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีค้ายาบ้า และล่าสุดยังหลบหนีจากการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงถูกออกหมายจับไปแล้ว
พล.ต.ท.สุรชัย กล่าวอีกว่า ตามรายงานของ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ทราบว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งคาดโทษ ตำรวจชุดจับกุม รวมถึง นายตำรวจผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ว่าหากไม่สามารถตามตัวมาดำเนินคดีได้ภายใน 7 วันก็จะต้องดำเนินการสั่งย้ายทันทีซึ่งในช่วงนี้จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำงานก่อน
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า นอกจากท้องที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ก็ได้สั่งการให้ สภ.เมืองมหาสารคาม ได้ช่วยติดตามตัว น.ส.ประภาพรรณฯผู้ต้องหาค้ายาบ้าด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ ส่วนในเรื่องการร้องทุกข์ว่ามีเจ้าหน้าที่ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็จะต้อง รอผลจากทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
จากกรณี น.ส.ประภาพรรณ ภูอุทา หรือโอปอ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม คดีค้ายาบ้า 4,000 เม็ด แต่เป็นผู้เสียหายในคดีเรียกค่าไถ่ซึ่งถูกคนร้าย 5 คน กระชากหัวอุ้มขึ้นรถเหตุเกิดหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 แต่ภายหลังที่ น.ส.ประภาพรรณฯ ผู้เสียหายคดีเรียกค่าไถ่รู้ว่าตนเองตกเป็นผู้ต้องหาคดีค้ายาบ้าด้วย จึงเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมนำเอกสารหลักฐานที่ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่เอี่ยวยาเสพติดไปมอบให้กับ ศูนย์ดำรงธรรมกาฬสินธุ์และรายชื่อให้กับศูนย์ดำรงธรรมกาฬสินธุ์ แต่หลังจากให้ข้อมูลเรียกร้อง น.ส.ประภาพรรณฯ ที่เป็นผู้ต้องหา กลับหายตัวไปอย่างลึกลับ และทราบว่า นายอดิศร ภูอุทา น้องชายแท้ๆ ได้แอบเข้ามาพาหลบหนีไป ตามที่เสนอข่าว
