สาวๆ เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเมื่อรักษาสิว และเห็นว่าหายดีแล้ว แต่ระยะหนึ่งก็มักจะมีสิวใหม่เกิดขึ้นมาอีก และบางครั้งยังเกิดขึ้นมาใกล้ๆ กับบริเวณเดิมที่เพิ่งจะหายไปอีกด้วย วันนี้ แพรวดอทคอม จะพาสาวๆ ทุกคนมารู้จักกับวงจรสิว พร้อมวิธีการดูแลผิวเป็นสิวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ กันค่ะ
โดยขั้นแรกของการเกิดวงจรสิว เริ่มจากการเกิดการอุดตันของในรูขุมขน ทั้งจากน้ำมันที่สร้างขึ้นและเซลผิวที่หลุดลอกออกมาเป็นปรกติ นอกจากนั้นสิ่งอุดตันอื่นที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ เครื่องสําอาง สิ่งสกปรกจากมลภาวะ และสภาพแวดล้อมอื่นๆ หลังจากเกิดการอุดตันแล้วก็จะเกิดตุ่มสิวขึ้น กลายเป็นสิวไม่อักเสบ คือไม่มีอาการปวด บวม แดง โดยสิวไม่อักเสบคือสิวหัวขาวกับสิวหัวดำ (สิวหัวขาวคือสิวที่ไม่มีรูเปิดสู่ภายนอก และสิวหัวดำคือสิวที่มีรูเปิดสู่ภายนอก) ผ่านมาถึงขั้นตอนนี้ สิวบางเม็ดที่เกิดขึ้นเกิดการติดเชื้อทำให้กลางเป็นสิวอักเสบ ซึ่งจะเริ่มเห็นเป็นตุ่มนูนๆ แดงๆ เจ็บ และเกิดหนองตามมา และเมื่อสิวเปล่งจนแตกก็จะกลับมาสู่สภาพปรกติตามเดิม
ระยะเวลาของการเป็นสิว โดยปกติแล้วสิวแต่ละชนิดมีวงจร และระยะเวลาการเกิด กระทั่งอักเสบหรือยุบไปด้วยอัตราที่แตกต่างกัน โดยสิวที่มีขนาดเล็กและไม่อักเสบ จะใช้เวลา ประมาณ 3-5 วัน ก็จะหายไป ส่วนสิวที่มีขนาดใหญ่ จะต้องใช้ระยะเวลานานขึ้น โดยอาจใช้เวลานานหลายสัปดาห์เลยทีเดียว
สำหรับวิธี รักษาสิว ทาง ดร.ภญ.จิรวรรณ โอพรสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาเครื่องสำอางและเวชสำอางเพื่อแก้ปัญหาสิวให้คำแนะนำว่า กรณีที่สิวนั้นไม่ก่อให้เกิดความรำคาญ หรือไม่ได้ส่งผลกับภาพลักษณ์ เราสามารถปล่อยให้สิวนั้นหายเองได้ตามวงจรของสิวโดยไม่ต้องใช้ยา นอกจากนั้นเพื่อดูแลผิวทำให้เกิดปัญหาสิวน้อยลง อาจปฏิบัติตัวง่ายๆ เพียง 5 ข้อ
1. เมื่อเป็นสิว ยิ่งต้องดูแลผิวให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการทำร้ายผิวด้วย ยา หรือกรด หากใช้ยาให้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อแนะนำการใช้ยาที่ถูกต้องจะได้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาผิวเสียจนเกิดเป็นสิวเรื้อรัง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวเป็นสิวโดยเฉพาะที่อ่อนโยน
2. เรื่องการขับถ่ายเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งสำหรับสาวๆ ยุคนี้ ให้ดูแลการขับถ่ายให้เป็นกิจวัตรประจำวัน คือ ขับถ่ายทุกเช้า หลังตื่นนอน โดยฝึกขับถ่ายเป็นเวลาทุกวัน การทานอาหารที่มีกากใย เช่น เมนูอาหาร เมี่ยงคำ ส้มโอ ผักลวกน้ำพริก เป็นต้น จะช่วยให้การขับถ่ายเป็นไปได้ง่าย ช่วยให้ผิวดี
3. พักหน้าใสๆ ในวันที่ไม่ต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน เพราะการแต่งหน้าก็เหมือนกับการที่เราเอาสิ่งต่างๆ มาอุดรูขุมขนของเราไว้ ดังนั้นเราควรให้ผิวหน้าได้พักโดยงดการแต่งหน้า ซึ่งหากระหว่างวันใบหน้าเริ่มเกิดความมัน ควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าและซับให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
4. ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ ข้อนี้อาจจะฟังดูแล้วธรรมดาทั่วๆ ไป แต่จริงๆ แล้ว หากปฏิบัติตามข้อนี้ได้ รับรองว่าภายใน 1 เดือน ผิวพรรณของคุณจะกลับมาดีและหลุดออกจากวงจรสิวได้อย่างแน่นอน
5. อย่าปล่อยให้เครื่องใช้ต่างๆ ต้องสงสัยว่าไม่สะอาด หรือมีสิ่งที่ระคายเคืองผิว เช่น ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า ซึ่งเป็นต้นเหตุทำให้เกิดสิว นอกจากนั้นสารเคมีที่สัมผัสกับผิว เช่น ยาทาเล็บ แชมพู สบู่ ต้องเลือกที่ไม่ก่อนให้เกิดการแพ้ระคายเคืองด้วย
สุดท้ายหากรู้สึกว่า การดูแลผิวให้แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผิวสวยนานๆ ไม่ต้องเป็นสิวซ้ำซาก อาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับผิวเป็นสิวที่แพทย์ผิวหนังแนะนำ ไม่มีส่วนผสมของกรดรุนแรง BHA ปลอดภัย ใช้ง่าย สามารถใช้ได้ทุกวัน ช่วยดูแลผิวให้เรียบเนียน ใส เพื่อเพิ่มความมั่นใจยาวๆ กันค่ะ
ภาพ : Pexels
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เป๊ะ! น้องฉัตร เมคโอเวอร์ช่างผมในทีม ลุค Zozibini Tunzi มิสยูนิเวิร์ส 2019
สูตรนี้ทำตามได้! ทริคหุ่นเป๊ะ ผิวสวยจาก “บิ๊นท์ สิรีธร” มิสอินเตอร์เนชั่นแนล 2019
รู้ไว้ก่อนอย่ารอให้ผิวแห้ง! 6 วิธีดูแลผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น ไม่หยาบกร้าน
แค่ดูแลผิวให้ถูก! 7 วิธีจบปัญหา ผิวแห้ง หยาบกร้าน ให้นุ่มชุ่มชื้นขึ้น
ทำทุกวันได้ผล! 20 ข้อ Do & Don’t สำหรับคนอยากผิวขาว
HOW TO แต่งหน้ากลบสิว และเทคนิคแต่งหน้าอย่างไร ไม่ให้สิวเห่อ!!
5 วิธีรักษาสิวหัวช้าง แบบเบื้องต้นด้วยตัวเอง นอกจากอย่าแกะ เกา ควรทำตามนี้
ส่องเทรนด์เสริมความงาม เพราะยุคนี้แค่สะบัดแปรงแต่งหน้าอย่างเดียวอาจไม่พอ
ลมหนาวมาแล้ว! ขอแชร์ 5 วิธีดูแลผิวไม่ให้หยาบกร้าน แห้งเหี่ยว จนเกินเยียวยา