'บางทีเขาอาจจะกำลังคิดถึงผมอยู่ก็ได้นะ ผมอยากให้เขามาค้าแข้งใน อิตาลี สักวันหนึ่ง เหมือนกับผม และยอมรับกับความท้าทายของมัน แต่ถ้าเกิดเขาแฮปปี้ดีกับที่นั่น ผมก็เคารพในการตัดสินใจของเขา'
นี่ของบทสัมภาษณ์ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ได้เอ่ยไว้หลังถูกสื่อถามว่า'คุณคิดถึงการต่อสู้กับ ลิโอเนล เมสซี่ บ้างไหม?' เพราะทั้งคู่ต่างอยู่คนละที่ ซึ่ง โรนัลโด้ อยู่ใน อิตาลี กับ ยูเวนตุส ส่วน เมสซี่ ยังคงปักหลักอยู่กับ บาร์เซโลน่า ใน สเปน ต่อไป
แต่ถ้าลองจำลองเหตุการณ์เล่นๆ ดู ถ้าเกิด เมสซี่ เกิดตอบรับคำชวนของเจ้าของโค้ดเนม CR7 และย้ายมาโลดแล่นใน อิตาลี ขึ้นมามันจะเป็นยังไง ? หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออก แต่วันนี้ทาง 'ขอบสนาม' ได้ไปหยิบเหตุการณ์ตัวอย่างจากสื่อนอกมาซึ่งเป็นการจำลองอนาคตของ เมสซี่ ถ้าหากย้ายมาค้าแข้งบนสังเวียน กัลโช่ เซเรีย อา โดยใช้เกมสวมบทบาทอย่างFootball Manager 2019 เป็นตัวทำนาย
อเล็กซ์ เคเบิล ตัวแทนจากสื่อ Planet Football เป็นคนอาสาทำนายชีวิตของ ลิโอเนล เมสซี่ ใน อิตาลี โดยเขาได้ทำการเซ็ตติ้งด้วยการลาก เมสซี่ ย้ายมาค้าแข้งกับ นาโปลี ซึ่งเป็นทีมที่มีศักยภาพดีที่สุดแล้ว ณ ตอนนี้ในการต่อกรกับ ยูเวนตุส ของ โรนัลโด้
ครึ่งแรกของซีซั่น
ยูเวนตุส เปิดฉากเกมแรกได้สวยด้วยการถล่ม ซาสซูโอโล่ 4-0 ส่วน นาโปลี ของ คาร์โล อันเชล็อตติ เปิดหัวด้วยการเสมอกับ ปาร์ม่า 0-0 ก่อนที่ทั้ง 2 ทีมจะมาสู้ศึกกันในสัปดาห์ที่ 2 ของฤดูกาลซึ่งเป็นการเล่นที่บ้านของ นาโปลี และผลปรากฏว่าเสมอกันไป 0-0 โดยทั้งคู่มีการสร้างสรรค์โอกาสคนละครั้ง มีโอกาสยิงรวมกันทั้งหมด 8 ครั้ง
นาโปลี เป็นทีมที่เกมรับโดดเด่นทีเดียวเพราะกว่าจะเสียประตูก็ต้องรอถึงเกมที่ 5 ของฤดูกาล แต่ในรายของ เมสซี่ เหมือนเครื่องยังไม่ติด เพราะยิงไปแค่ 5 ประตูเท่านั้นก่อนที่ศักราชใหม่จะเริ่มขึ้น ส่วน โรนัลโด้ นั้นยิงไปถึง 10 ประตู พร้อมกับพา ยูเวนตุส ครองจ่าฝูงในช่วงครึ่งแรกองซีซั่น มี 45 คะแนนจาก 19 นัดโดยทิ้งห่าง นาโปลี อันดับ 2 อยู่ 2 แต้ม
ครึ่งหลังของซีซั่น
ช่วงปลายมกราคมทางเวที กัลโช่ เซเรีย อา ก็กลับมาเตะกันตามปกติ และ นาโปลี ก็ได้ปะทะกับ ยูเวนตุส เลยทันทีในวันที่ 27 มกราคม ผลปรากฏว่า ยูเวนตุส จัดหนักด้วยการถลุง นาโปลี ไปแบบถล่มทลาย 4-1 และ โรนัลโด้ ซัดไปคนเดียว 2 ประตู ส่วน เมสซี่ แทบไม่มีส่วนร่วมในเกมเลยก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกไปในนาที 67 ส่งผลให้ ยูเวนตุส ครองจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่นพร้อกับทำแต้มหนีห่าง นาโปลี เป็น 5 คะแนน
ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(ต่อจากด้านบน) หลังจากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อมีโปรแกรมลงเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่ง ยูเวนตุส พลิกล็อคโดน บาเยิร์น มิวนิค แซงชนะ 2-1 ในรอบที่ 2 ส่งผลให้พวกเขาเริ่มเสียหลัก ก่อนจะแพ้ในลีก 3 นัดติดด้วยน้ำมือของ อินเตอร์ มิลาน, ซามพ์โดเรีย และ อตาลันต้า
ขณะเดียวกันนั้น เมสซี่ จากที่เงียบๆ ช่วงแรกก็เริ่มปล่อยของและฉายแสงออกมาเรื่อยๆ และหลังจากเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 ได้ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบที่ 2 พวกเขาก็ชนะยาวๆ 10 นัดรวด
กลับมาต่อที่การลุ้นแชมป์ลีก
ยูเวนตุส มักทำผลงานได้ไม่ยามมีห่วงเรื่องโปรแกรม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะก่อนจะเจอกับ โมนาโก ก็ทำแต้มหล่นด้วยการเสมอกับ เอซี มิลาน ถึงแม้ทีมของ โรนัลโด้ จะตีตั๋วผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ซึ่งมีคิวเตะวันที่ 27 เมษายน แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาก็ต้องปราชัยในเกม ดาร์บี้ แมตช์ ประจำเมืองตูริน ที่เจอกับ โตริโน่ ตัดมาดูทางฝั่ง นาโปลี ก็ฟอร์มร้อนแรงต่อเนื่องด้วยการอัด ลาซิโอ ถึงบ้าน 3-1 เพียงแค่ 24 โมงหลังจาก ยูเวนตุส พ่ายแพ้
ยูเวนตุส พ่ายต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-3 ใน ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก แถม โรนัลโด้ ก็ฟอร์มตกลงไปดื้อๆ เพราะยิงประตูแทบไม่ได้เลย และในช่วงโค้งสุดท้าย เมสซี่ ที่นับวันยิ่งเล่นยิ่งดีก็พา นาโปลี เก็บชัยได้รัวๆ พวกเขาโค่น อินเตอร์ มิลาน นัดรองสุดท้าย พร้อมพาทัพ 'อัซซูรี่' เถลิงบัลลงก์แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา เป็นสมัยแรกนับตั้งแต่ปี 1990 หรือยุคของ ดีเอโก้ มาราโดน่า นั่นเอง มี 91 คะแนนจาก 38 นั้นทิ้งห่าง ยูเวนตุส 3 คะแนน
สรุปผลงานของ เมสซี่ กับ โรนัลโด้ โดยดาวเตะทีมชาติ อาร์เจนติน่า ลงเล่นไปทั้งหมด 41 เกมในทุกรายการ ยิงไป 15 ประตู พร้อมกับทำ 15 แอสซิสต์ ขณะที่ โรนัลโด้ ลงเล่นไป 52 นัด ยิงประตูไปมากกว่าครึ่งที่ 33 ประตู และแอสซิสต์ 20 ครั้ง
