อีกหนึ่งสัตว์ป่าที่พบเห็นบนหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากปัญหาการลักลอบล่าและค้าอวัยวะสัตว์ป่า นั่นคือ ตัวนิ่ม (Pangolin) หนึ่งในสัตว์ป่าที่ สหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (The World Conservation Congress) หรือ IUCN จัดให้อยู่ในบัญชีสีแดง เพราะมันถูกคุกคามอย่างหนักจนเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์
เนื่องจากความเชื่อในเรื่องยาอายุวัฒนะที่อยู่ในเกล็ดของมัน และเนื้อที่เชื่อว่ามีสรรพคุณเสริมพลังทางเพศ ทำให้ตัวนิ่มจำนวนมากถูกล่าจากหลายพื้นที่ เพื่อนำไปขายในตลาดมืดทั่วโลก ซึ่งมีแหล่งรับซื้อใหญ่อยู่ที่ประเทศจีนและเกาหลี โดยในปี ค.ศ. 2013 เคยมีการยึดซากและชิ้นส่วนของตัวนิ่มจากเรือบรรทุกจีนที่เกยตื้นในฟิลิปปินส์ได้ถึง 11 ตัน
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่ามนุษย์นั้นล่าตัวนิ่มมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว โดยมีหลักฐานเป็นชุดเกราะที่ทำจากเกล็ดของตัวนิ่มทั้งชุด ซึ่งถูกทำขึ้นเพื่อถวายให้กับพระเจ้าจอร์จที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อปี ค.ศ.1820 ด้วย
ปัจจุบัน ตัวนิ่มชวา (M. javanica) ที่พบได้ในแถบภาคใต้ของประเทศ จัดเป็นตัวนิ่มที่ถูกคุกคามจากการล่ามากที่สุด จนกลายเป็นสัตว์หายาก เพราะมีรายการสั่งซื้อเข้ามาเรื่อยๆ แถมยังมีราคาขายสูงถึงกิโลกรัมละ 2,000-3,000 บาท หรืออาจมีราคาสูงถึง 3,500 บาท สำหรับตัวนิ่มขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม การค้าตัวนิ่มไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของซาก นิ่มที่ยังมีชีวิต หรืออวัยวะบางส่วนของตัวนิ่ม ก็นับเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และสัตว์ชนิดนี้ยังเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 โดยผู้กระทำผิดจะได้รับโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท จำคุก 4 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ