โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

หัวเว่ยชี้มูลค่าตลาดรวม AI ทะลุ 3.8 แสนล้านดอลล์ ปี 2568

Manager Online

อัพเดต 19 ต.ค. 2561 เวลา 01.47 น. • เผยแพร่ 19 ต.ค. 2561 เวลา 01.47 น. • MGR Online

"Huawei Connect 2018" มหกรรมด้านไอทีครั้งใหญ่ ที่หัวเว่ยจัดขึ้นเพื่อให้ทุกองค์กรมีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความรู้และมุมมองจากเหล่าผู้นำทางความคิดในหลากหลายอุตสาหรรม โดยในงานนี้หัวเว่ยประกาศกลยุทธ์ AI ที่มาพร้อมชิป AI IP รุ่นแรกของโลก หวังจุดชนวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกอุตสาหกรรม นำพาความเป็นอัจฉริยะไปสู่ทุกผู้คน ทุกบ้าน และทุกองค์กร พร้อมประเมินมูลค่าตลาดรวม AI ทั่วโลกจะสูงถึง 3.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568

ในงาน HUAWEI CONNECT 2018 ที่เซี่ยงไฮ้ "อีริค ซวี" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย กล่าวว่า จากนี้ไปเราทุกคนต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ให้บังเกิดผลอย่างเต็มที่ ทำงานให้หนักเพื่อให้เมล็ดพันธุ์ AI เติบโตไปทั่วโลก สร้างสภาพแวดล้อม ผลิดอก ออกผลและเติบโตได้อย่างทั่วถึง ถึงเวลาแล้วที่หัวเว่ยจะต้องปลดปล่อยคุณค่าอย่างเต็มพิกัดของเทคโนโลยี AI กำหนดตำแหน่งและนำมาใช้อย่างจริงจัง

ผู้บริหารหัวเว่ยมองว่า AI จะเป็นตัวจุดชนวนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น การขนส่งอัจฉริยะ ทำให้เส้นทางการจราจรมีประสิทธิภาพมากขึ้น, การศึกษาที่มีประสิทธิผลต่อทั้งครูและนักเรียน, ทางด้านสาธารณสุข เพื่อการป้องกันแต่เนิ่นๆ และการรักษาที่ถูกต้องแม่นยำมีผลอย่างมากต่อการมีชีวิตยืนยาว,การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ทำให้การสื่อสารกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าแต่ก่อน,การทดสอบยาที่แม่นยำจะลดต้นทุนและเวลาในการค้นพบยาตัวใหม่,การปฏิบัติการและบำรุงรักษาเครือข่ายโทรคมนาคมจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น,การขับขี่อัตโนมัติ รถพลังงานไฟฟ้าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงต่ออุตสาหกรรมยานยนต์

ยุทธศาสตร์ AI ของหัวเว่ย

หัวเว่ยคาดการณ์ว่าในปี 2568 ทั่วโลกจะมีจำนวนสมาร์ทดีไวซ์เพิ่มขึ้นเป็น 4 หมื่นล้านเครื่อง และ 90% ของผู้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้จะมีผู้ช่วยสมาร์ทดิจิทัล มีการใช้งานดาต้าอยู่ที่ 86% มีบริการ AI ให้พร้อมใช้งาน จากข้อมูลของหัวเว่ย AI ได้กลายมาเป็นเทคโนโลยีตัวใหม่สำหรับการใช้งานทั่วไป (General Purpose Technology - GPT) ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมและองค์กรต่างๆ บนโลกใบนี้ อย่าง นวัตกรรมด้านคอมพิวติ้งที่ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ราคาที่ไม่ได้สูงขึ้น ,การใช้งาน AI และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ จะมีมากขึ้น,ระบบอัตโนมัติที่สั่งการด้วย AI พร้อมแอปพลิเคชั่นที่ใช้งานได้จริง

อีริค ซวี ได้ประกาศเปิดตัวกลยุทธ์ AI ของหัวเว่ย รวมถึงแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI แบบ Full Stack รองรับการใช้งานในทุกรูปแบบ ประกอบไปด้วยชุดชิป Ascend ที่เป็น AI IP ซึ่งเป็นชุดชิปรุ่นแรกของโลก ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในทุกรูปแบบ กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์ใหม่ ๆ ที่สร้างขึ้นจากคุณสมบัติของชิป Ascend โดยหัวเว่ยมุ่งสร้างความเป็นอัจฉริยะ เพื่อช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาของอุตสาหกรรม และสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อถึงกันเต็มรูปแบบ

ในด้านโทรคมนาคม หัวเว่ยจะนำเทคโนโลยี SoftCOM AI มาช่วยเสริมประสิทธิภาพของเครือข่ายให้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้บริโภค จะใช้โซลูชั่น HiAI มาสร้างความเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริงให้อุปกรณ์ดีไวซ์ต่างๆ ให้มีความชาญฉลาดยิ่งกว่าที่เคย ในขณะที่ องค์กรธุรกิจและภาครัฐ จะนำเสนอบริการพับลิคคลาวด์ Huawei Cloud EI และโซลูชั่นไพรเวทคลาวด์ FusionMind เพื่อช่วยเสริมพลังการทำงานของคอมพิวติ้งให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

"ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่น AI แบบ Full Stack ของหัวเว่ยจะช่วยเร่งให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยี AI ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้เร็วขึ้น เพื่อสร้างความเป็นอัจฉริยะให้เกิดขึ้นในวงกว้าง และนำไปสู่ความเป็นโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ"

AI+Digital ตัวเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล

ภายใต้แนวคิด "Power of the Platform" กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยโชว์กลยุทธ์แพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ที่จะช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของรัฐบาลและองค์กรธุรกิจต่างๆ และนำไปสู่นวัตกรรมและการเติบโตในระดับที่สูงขึ้น พร้อมประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม AI + Digital Platform ที่สามารถปรับให้เข้ากับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย รวมไปถึงประกาศความร่วมมือกับเขตเมืองใหม่เทียนจิน ปินไห่ นิว แอเรีย (Tianjin Binhai New Area) เพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะ ด้วยการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มใหม่นี้

นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดตัวโซลูชัน Smart Campus ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการโดยบริษัท ว่านเคอ (Vanke) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศจีน โดยโซลูชั่นใหม่จากหัวเว่ยจะช่วยพลิกโฉมการดำเนินธุรกิจขององค์กรเพื่อสร้างการเติบโตและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันให้กับองค์กร

เหยียน ลี่ต้า ประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ ของหัวเว่ย กล่าวว่า "Digital Transformation" เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งต้องอาศัยการจัดการอย่างเป็นระบบ การผนวกเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่างเพื่อบูรณาการโลกทางกายภาพและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน เป็นไปตามเป้าหมายของหัวเว่ยที่จะขับเคลื่อนแพลตฟอร์มธุรกิจของลูกค้าด้วยแพลตฟอร์มไอซีที เพื่อให้บริษัทคู่ค้าสามารถผนวกรวมแอปพลิเคชั่นเฉพาะอุตสาหกรรมเข้าไปในแพลตฟอร์มได้ ด้วยวิธีนี้แพลตฟอร์มของหัวเว่ยจะทำหน้าที่เป็นเสมือน "ผืนดินอันอุดมสมบูรณ์" ที่เอื้อต่อการเติบโตของระบบนิเวศอุตสาหกรรม และส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของอุตสาหกรรมต่างๆ กับคู่ค้าในระบบนิเวศของหัวเว่ย|

ด้วยAI + Digital Platform ของหัวเว่ย เขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเทียนจิน จึงสามารถออกแบบและพัฒนาโซลูชั่น Smart City "1 + 4 + N" ( หนึ่งศูนย์กลาง สี่แพลตฟอร์ม บวกด้วยแอปพลิเคชั่นสุดล้ำ) ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI โดย "1" สื่อถึง ศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะ (Intelligent Operations Center - IOC) ที่ทำหน้าที่เป็น "สมองของเมือง" ด้วยการรวบรวมข้อมูลที่มาจากบริการต่าง ๆ ของรัฐบาล องค์กรธุรกิจ และหน่วยงานบริการประชาชน ผ่านทางอินเทอร์เน็ตและ IoT โดยใช้เทคโนโลยี AI เป็นขุมพลังขับเคลื่อน ซึ่งถือเป็นการนำเอาขีดความสามารถด้านการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมาช่วยพลิกโฉม Tianjin BinHai New Area ให้กลายเป็นเมืองอัจฉริยะ

จับมืออาวดี้เพื่อการขับขี่อัตโนมัติ

ในงาน HUAWEI CONNECT 2018 หัวเว่ยและอาวดี้ได้ประกาศแผนความร่วมมือในอนาคตทางด้านยานยนต์เชื่อมต่ออัจฉริยะ (Intelligent Connected Vehicles - ICV) โดยใช้รถยนต์ Audi Q7 รุ่นใหม่ในการสาธิตเทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้

ซาอาด เมทซ์ รองประธานด้านการวิจัยของ Audi China แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันว่า อาวดี้ประเมินการพัฒนาร่วมกันของฟังก์ชันการขับขี่อัตโนมัติขั้นสูง และการสื่อสารจากยานยนต์ไปยังระบบโครงสร้างพื้นฐาน ในอนาคต โดยหวังว่าจะสร้างความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคตกับหัวเว่ย ภายใต้ความร่วมมือของทั้ง 2 บริษัทจะนำมาซึ่งผลประโยชน์อันมหาศาลของทั้ง 2 ฝ่าย

ขณะที่ วิลเลียม ซวี กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่การตลาดเชิงกลยุทธ์ของหัวเว่ย กล่าวว่า ขณะที่รถยนต์มีแนวโน้มที่จะมีความอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น หัวเว่ยก็จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีชั้นนำด้านไอซีทีของหัวเว่ยร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมกับอาวดี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก เพื่อเร่งการพัฒนาด้านการขับขี่อัตโนมัติให้เร็วขึ้น โดยเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้ ผู้บริโภคก็จะสามารถใช้บริการการขับขี่อัตโนมัติอัจฉริยะที่ปลอดภัย และสะดวกสบายยิ่งขึ้นอย่างแน่นนอนโดยMobile Data Center (MDC) ของหัวเว่ย ได้ถูกนำมาประกอบเข้ากับรถยนต์ Audi Q7 สำหรับสภาพแวดล้อมการขับขี่อัตโนมัติในเมือง

หัวเว่ยคลาวด์เปิดตัว EI Intelligent Twins สำหรับเมือง

ในงานนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดตัวโซลูชั่น EI Intelligent Twins สำหรับเมือง ด้วยการอัปเกรดความสามารถของบริการ Enterprise Intelligence (EI) บนหัวเว่ยคลาวด์ ด้วยชิป AI ตัวใหม่ล่าสุดของหัวเว่ย

เจี๋ย หย่งลี่ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์ EI ธุรกิจคลาวด์ ของหัวเว่ย กล่าวว่า จากการสำรวจโครงการต่าง ๆ กว่า 200 โครงการใน 8 อุตสาหกรรม ครอบคลุมทั้งเมือง การผลิต โลจิสติกส์ และอินเทอร์เน็ต พบหลักใหญ่ 3 ประการคือ AI ช่วยให้ IT พัฒนาจากระบบสนับสนุนไปสู่ระบบการผลิต การรวม AI เข้ากับความเชี่ยวชาญของอุตสาหกรรมเป็นเรื่องยาก และพลังของการประมวลผลเป็นอุปสรรคสำคัญหลักในการปรับใช้ AI

เพื่อตอบโจทย์ในการผสมผสานความชำนาญของอุตสาหกรรมเข้ากับ AI เจี๋ยกล่าวว่า Huawei Cloud EI จะช่วยปรับปรุงงานในอุตสาหกรรมให้ดีขึ้นใน 3 ด้าน ได้แก่ งานที่ซ้ำซ้อนและปริมาณมาก งานที่ต้องใช้ประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ และงานที่ต้องการความร่วมมือในหลายๆ ด้าน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญ และทำลายข้อจำกัด

สำหรับงานที่มีลักษณะซ้ำซ้อนหรือจำนวนมหาศาล บริการ Huawei Cloud EI จะช่วยเลือกชุดกลุ่มข้อมูลที่ใช้บ่อยในการดำเนินงานขององค์กร เช่น บริการ Huawei Cloud EI สองตัว คือ บริการการเรียนรู้เชิงลึก และบริการค้นหาภาพ ได้ช่วย China Gallery นำเข้าและตรวจเช็คลิขสิทธิ์ของภาพนับแสนภาพ และภาพอีกหลายสิบล้านภาพในอินเทอร์เน็ตทุก ๆ วัน โดยมีอัตราความถูกต้องถึง 99%

หลี่ เฉียง หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี กองตำรวจจราจรของเซิ่นเจิ้น กล่าวว่าในองค์กรของตัวเองกำลังใช้ AI ในการสร้างเทคโนโลยีการดูแลความเรียบร้อยของชุมชนอัจฉริยะ และสมองจราจรอัจฉริยะ เพื่อปรับปรุงเรื่องการเดินทางสำหรับทุกคน

"AI ทำให้การบังคับใช้กฎหมายทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยความช่วยเหลือของแอปพลิเคชั่น AI ที่ตรวจพบการละเมิดกฎจราจรต่าง ๆ เช่น การพูดคุยโทรศัพท์ในขณะขับรถ และไม่สวมเข็มขัดนิรภัย ตำรวจจราจรเซิ่นเจิ้นสามารถที่จะเพิ่มการบังคับใช้กฎหมายได้เพิ่มขึ้น 15% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561"

วิลเลียม ซวี ยังคงเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการนำพาความเป็นอัจฉริยะไปสู่ทุกผู้คน ทุกบ้าน และทุกองค์กร โดยคาดว่าในปี 2568 มูลค่าของตลาด AI ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 3.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย 90% นั้นจะมาจากตลาดธุรกิจองค์กร โดยปัจจัยหลักที่จะนำไปสู่การใช้งาน AI อย่างมหาศาลในทศวรรษหน้าก็คือ แอปพลิเคชั่นในด้านอุตสาหกรรม โดยหัวเว่ยตั้งเป้าที่จะสนับสนุนนักพัฒนาและพันธมิตร ด้าน AI ให้ได้ราว 1ล้านคนภายใน 3ปีข้างหน้า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0