ประธานสมาคมฟินเทคฯเชื่ออกกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเรื่องที่ดี ห่วงประเด็นการจัดเก็บภาษี ICO ผลักผู้ประกอบการออกไประดมทุนต่างประเทศ
วันนี้ (23พ.ค.61) หลังจากที่พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2561 ในมุมมองของนายกรณ์ จาติกวณิช ประธานสมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน แต่สิ่งที่กังวล คือ การเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชน (ไอซีโอ) ที่ยังมีข้อจำกัดมากเกินไป ภาครัฐควรปรับหลักเกณฑ์ให้มีความยืดหยุ่น เพราะไม่เช่นนั้น ผู้ประกอบการจะหันไปลงทุนต่างประเทศ
นอกจากนี้ ประธานสมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย ตั้งข้อสังเกตว่า การจัดเก็บภาษีร้อยละ 15 ของเงินได้ ยังขาดหลักเกณฑ์ชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะคำนวนต้นทุน รวมถึงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ร้อยละ 7 สำหรับผู้ที่ระดมทุนผ่าน ไอซีโอ ต่างจากการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ไม่ต้องเสียภาษี ยิ่งจะเป็นแรงผลักให้นักลงทุนออกไประดมทุนต่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ สมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย เคยมองว่า ไทยน่าที่จะเป็นศูนย์กลางทางการเงินดิจิทัล แต่ขณะนี้ คงกลายเป็นเรื่องท้าทายมากขึ้น เพราะกฎหมายที่เข้มงวดเกินไป
ขณะที่นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) หวังว่า ระหว่างที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นกฎหมายฉบับนี้ จะเป็นโอกาสในการปรับหลักเกณฑ์ให้เอื้อต่อการลงทุนมากขึ้น
พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้านการลงทุน Crypto currency และการระดมทุนผ่านโทเคนดิจิทัลแบบครบวงจร สมาคมฟินเทคแห่งประเทศไทย ร่วมมือกับ บริษัท ไอโครา เปิดหลักสูตร คริปโตแอสเซท เรโวลูชั่น ซึ่งนับเป็นหลักสูตรแรกในไทยที่มีเนื้อหาครอบคลุม เจาะลึกเรื่อง คริปโต อีโคโนมี ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนของระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ของโลก ผ่านการทำกิจกรรมเสมือนจริงเพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจระบบอย่างแท้จริง และสามารถมองเทรนด์ โอกาส และรู้จักวิธีรับมือกับวิกฤตต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
