วันนี้( 19 พ.ย. 62 )ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า“Hongpapat Hongsachum ” ได้แชร์ประสบการณ์การซื้อของไม่รับถุงแต่ทำให้เสียความรู้สึกหลังพนักงานของแบรนด์รองเท้ายี่ห้อดังเข้าใจผิดว่าสินค้าที่ไม่ได้ใส่ถุงเป็นสินค้าที่ไม่ได้จ่ายเงินและถูกขโมยมาอีกทั้งพนักงานเข้ามาดึงสินค้าด้วยท่าทีคุกคามและสื่อว่าตนเองเป็นขโมยอย่างชัดเจน
“เราซื้อกระเป๋า…. จากบูธด้านหน้าของ….. ศรีสมานซื้อแล้วพนักงานแคชเชียร์ถามว่าใส่ถุงไหมอีนี่ก็หวังดีต่อโลกร้อนไม่ใส่ถุงค่ะจ่ายเงินเสร็จเราอยากได้รองเท้าผ้าใบใหม่เลยเดินไปดูรองเท้าที่ช็อป…. ด้านในห้าง
***ช็อป…. ด้านใน***
พนักงานช็อป…. เดินมาดึงกระเป๋าในมือเราแล้วขอดึงแท็กบาร์โค๊ดเราเราตกใจและงงมากพนักงาน: ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงชำระเงินกระเป๋านี้หรือยังคะ?
เม: ชำระแล้วค่ะพนักงาน: ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงซื้อกระเป๋าใบนี้มาจากไหนคะเม: บูธด้านหน้าค่ะทำไมคะพนักงาน: ขออนุญาตเอาแท็กกระเป๋าไปเช็คนะคะและก็เอาแท็กกระเป๋าเราไปเช็คกับแคชเชียร์ด้านหน้า
***อีนี่ก็งงกับเหตุการณ์แต่ก็เดินตามนางไป***
เม: สรุปมีปัญหาอะไรหรือป่าวคะ?
พนักงาน: ปกติถ้าลูกค้าซื้อของจากเราเราจะใส่ถุงหิ้วให้ทุกครั้งแต่นี่พนักงานไม่ได้ใส่ถุงหิ้วให้เราจึงต้องขอเช็คบาร์โค้ดค่ะรบกวนขอสลิปกระเป๋าใบนี้จากคุณลูกค้าด้วยนะคะ(ด้วยน้ำเสียงข่มเรา)
เม: เห้ยยยคุณถ้าคุณพูดแบบนี้เท่ากับบอกว่าเราขโมยของคุณ100% เลยนะแล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาดึงแท็กกระเป๋าจากในมือเราพนักงาน: ไม่ได้บอกว่าคุณลูกค้าขโมยค่ะแต่เราทำตามหน้าที่เรามีสิทธิ์ในการเช็คสินค้าค่ะเม: แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาดึงแท็กสินค้าจากมือเราแบบนี้นะแล้วถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าเราไม่ได้ขโมยสินค้าคุณใครรับผิดชอบ?
พนักงานเงียบไม่มีใครตอบตอนแรกยืนล้อมเราพอเราถามหาความรับผิดชอบวงแตกเลยระหว่างนั้นเราก็โทรให้น้องชายวิ่งเอาสลิปที่ซื้อไปมาให้ที่บูธพนักงานก้มๆๆดูสลิปๆๆแล้วพูดว่าขอโทษค่ะด้วยน้ำเสียงไม่ได้รู้สึกผิดอะไรแม้แต่นิดเดียว
เราเลยจัดการตักเตือนพนักงานคนนี้ไปหนึ่งกระบวนว่าถ้าเกิดข้อผิดพลาดการทำงานแบบนี้ให้คุณไปเรียบเรียงความผิดพลาดนี้จากพนักงานของคุณก่อนไม่ใช่มาดึงแท็กกระเป๋าจากมือลูกค้าและมาขอตรวจขอเช็คด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่จงใจบอกว่าลูกค้าขโมยแบบนี้แล้วผลสุดท้ายเราไม่ได้เอาไปแต่กลับไม่มีใครรับผิดชอบอะไรได้เลยสักคน
ความรู้สึกเราตอนนั้น***เราเสียหน้าเสียความรู้สึกมากที่ต้องมานั่งกลางวงพนักงานล้อมรอบเสมือนว่าเราเป็นขโมยแบบนี้***นี่คือความรู้สึกที่เหี้ยที่สุดตั้งแต่เดินช๊อปปิ้งมา***
เราเข้าใจว่าจากการแต่งตัวไปเดินห้างใกล้ๆๆบ้านของเราเสื้อยืดกางเกงขาสั้นรองเท้าแตะหน้าผมไม่แต่งบวกกับเราซื้อของถือของโดยที่ไม่ได้ใส่ถุงของสินค้าอาจทำให้พนักงานสันนิฐานผิดแต่ก็คงไม่ใช่ประเด็นประเด็นคือเป็นเรื่องของ"มารยาท"
ตอนนี้ยังไม่ได้คอมเพลนนางแต่กลับมานั่งที่บ้านแล้วชั่งใจตัวเองดูก่อนว่าจะคอมเพลนพนักงานคนนี้ดีไหม
ขอบคุณทุกความคิดเห็นตอนนี้เมกำลังจะส่งเรื่องให้ศูนย์บริการลูกค้าจัดการต่อถึงปัญหาตรงนี้แล้วค่ะ
สิ่งที่อยากให้ห้างสรรพสินค้าจัดการเพิ่มคือในเมื่อคุณรณรงค์ให้ลูกค้าลดใช้ถุงพลาสติกช๊อปปิ้งไม่ใส่ถุงพลาสติกแล้วคุณจะจัดการแยกลูกค้าที่ซื้อของชำระเงินแล้วกับลูกค้าที่ถือของแต่ยังไม่ได้ชำระเงินแบบนี้อย่างไรลูกค้าคงไม่สะดวกด้วยแน่ถ้าถือของไปช๊อปปิ้งไปคอยตอบพนักงานไปว่าชำระแล้วชำระจากจุดไหนแคชเชียร์คนไหนคอยยื่นแท็กสินค้ายื่นสลิปให้พนักงานดูตลอดทุกช็อป”
