งานมอเตอร์โชว์ของฝรั่งเขาอย่างงาน 2019 Detroit Auto Show ที่จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา นั้นก็มีรถใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากโชว์ตัวกันมากมาย แต่รถเวอร์ชั่นล่าสุดของ Toyota Supra นั้นเป็นอะไรที่นักเลงรถรอคอยอย่างแท้จริง เจ้า Supra เป็นรถสปอร์ตโมเดลที่โดดเด่นที่สุดของค่ายรถ Toyota เลยทีเดียว และรถในโมเดลก่อนหน้า ของเจ้า Supra ได้ไปฉายแววเด่นในหนังรถซิ่งอย่าง The Fast and the Furious ทำให้มันเป็นที่ต้องการของนักเลงรถชาติตะวันตกเป็นอย่างมาก โดย Supra โมเดลท้ายสุดก่อนที่จะหายไปจากตลาดนั้น ออกขายในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 1998 และออกจากสายการผลิตไปตั้งแต่ปี 2002 ทำให้ผู้คนต่างก็เฝ้ารอการกลับมาของ Supra และในตอนนี้การรอคอยก็สิ้นสุดลงแล้ว
โดย Supra โมเดลล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวนั้นก็เป็น เจเนอเรชั่นที่ 5 ของ Supra ภายใต้ชื่อรหัส A90 ที่ต้องบอกเลยว่าโฉมใหม่นั้นหล่อเหลาเอาการ จนทำให้ Supra เจเนอเรชั่นที่ 4 ที่ปรากฏตัวในหนัง The Fast and the Furious นั้นต้องได้อายกันเลยทีเดียว โดยแนวทางการออกแบบดูเหมือนจะได้แนวคิดมาจากรถ FT-1 ของ Toyota เองซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์คาร์ที่เผยโฉมออกมาในปี 2014 โดยทาง Toyota เคลมว่ารายละเอียดการออกแบบอ้างอิงมาจาก Supra เจเนอเรชั่นที่ 4 รวมถึงรถสปอร์ตรุ่นคลาสิคโมเดลปี 1967 อย่าง 2000GT ที่ปรากฏตัวในหนังสายลับ เจมส์ บอนด์ ภาค You Only Live Twice
ภายใต้เรือนร่างที่โฉบเฉี่ยว Supra A90 ได้ใช้เครื่องยนต์และระบบส่งกำลังแบบเดียวกับรถ BMW ในซีรี่ย์ M40i โดยเป็นเครื่องยนต์ขนาด 3.0 ลิตร Turbocharge ส่งกำลังไปล้อหลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
ในขณะที่รถ BMW M40i เคลมว่าสามารถผลิตม้าได้ 382 ตัว และให้แรงบิดสูงสุดที่ 369 ปอนด์-ฟุต แต่ทางฝั่งของ Supra A90 นั้นเคลมเอาไว้ต่ำกว่าที่ ม้า 335 ตัว และแรงบิดสูงสุดที่ 365 ปอนด์-ฟุต ในส่วนของอัตราเร่งนั้น สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 Km/h ในเวลา 4.1 วินาที และความเร็วสูงสุดถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ 155 mph (250 Km/h) และทาง Toyota ยังเคลมอีกว่า Supra A90 มีอัตราส่วนการกระจายน้ำหนักหน้า/หลังที่ 50/50 ช่วยให้ควบคุมรถได้ดีขึ้น
โดยทั้ง Toyota และ BMW ร่วมมือกันพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับรถ Supra/Z4 แต่ทั้งสองค่ายรถนั้นก็มีแนวทางปรับจูนรถของตัวเอง และทาง Toyota เคลมว่า พวกเขาได้เสริมความแข็งแกร่งของโครงสร้างส่วนหลังของรถด้วยความร่วมมือจาก Gazoo Racing division ซึ่งเป็นแผนกโมดิฟายรถของทาง Toyota เอง และพวกเขาตัดสินใจทำให้ทุกอย่างเรียบง่าย ด้วยการออกแบบให้มีโหมดการขับขี่เพียง 2 โหมดคือ Normal และ Sport
Supra A90 จะออกวางขายใน 2 เวอร์ชั่น คือเวอร์ชั่น 3.0 และ 3.0 Premium โดยเวอร์ชั่นสเตนดาร์ดนั้น ในห้องโดยสารมาพร้อมจอสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อบลูทูธ เบาะที่ทำจากวัสดุอัลแคนทาร่า ช่วงล่างแบบปรับแต่งได้ (Adaptive suspension) ระบบเตือนการชนด้านหน้า และมีระบบเปลี่ยนเกียร์ Paddle shift และในส่วนของรถเวอร์ชั่น 3.0 Premium นั้นอัพไซส์จอสัมผัสให้ใหญ่ขึ้นเป็น 8.8 นิ้ว มีระบบนำทาง และรองรับการใช้งานกับระบบ Apple CarPlay แบบไร้สาย (ไม่รองรับ Android Auto) พร้อมลำโพง 12 ตัวรอบรถ ที่ชาร์จมือถือแบบไร้สาย พร้อมจอสี Head-up display และเบาะหนัง
โดยรถในล็อตแรกที่ผลิตเพื่อการวางจำหน่าย ภายใต้ชื่อโมเดลว่า Launch Edition มีจำนวนจำกัดเพียง 1,500 คัน นั้นเป็น Supra A90 ที่ยอดเยี่ยมกว่าเวอร์ชั่น 3.0 Premium ไปอีกระดับ มันมาพร้อมระบบ ABS ระบบไฟสูงแบบอัตโนมัติ และมีสีตัวรถให้เลือก 3 แบบคือ Absolute zero white, Nocturnal black และ Renaissance red 2.0 วงล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว รายละเอียดการตกแต่งให้ความรู้สึกของคาร์บอนไฟเบอร์ และมีการสลักเลขซีเรียลนัมเบอร์ของรถด้วย สมกับความที่ผลิตในจำนวนจำกัด
Toyota Supra A90 เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในช่วงฤดูร้อนปี 2019 ในระดับราคาเริ่มต้นสำหรับเวอร์ชั่น 3.0 แบบไม่รวมภาษีนำเข้าอยู่ที่ $49,990 (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ส่วนเวอร์ชั่น 3.0 Premium ราคา $53,990 (ประมาณ 1.7 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้า) ในขณะที่ Launch Edition ราคาอยู่ที่ $55,250 (ประมาณ 1.75 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้า) โดยที่ราคาเริ่มต้นของ BMW Z4 อยู่ที่ $50,000 (ประมาณ 1.6 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้า) มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ ในขณะที่ Supra A90 รุ่นที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร มาพร้อมกับราคา $65,000 (ประมาณ 2 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้า)
