หลุมดำ เป็นที่รู้กันว่ามันเก่งในเรื่องของการดูดกลืนสรรพสิ่งเข้าไปไว้ในตัวมันด้วยแรงดึงดูดมหาศาล ไม่เว้นแม้แต่แสง ถ้าโดนมันดูดเข้าไปก็ไม่สามารถเล็ดลอดออกมาได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันมีสีดำสนิท (เพราะไม่มีแสงออกมาจากตัวมัน) ทำให้ได้ชื่อว่าเป็น "หลุมดำ"
ด้วยความที่หลุมดำนั้นเก่งในการดูดสรรพสิ่งเข้าไว้ในตัว แล้วเหตุใดมันจึงไม่ขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกลืนกินทุกสรรพสิ่งในจักรวาลหล่ะ? นี่เป็นปริศนาอันดำมืดพอๆ กับการหาจุดกำเนิดของจักรวาลเลยทีเดียว และนักฟิสิกส์อันดับต้นๆ ของโลกกำลังหาคำอธิบายให้กับการไม่ขยายตัวของหลุมดำ
ซึ่งคำถามที่ดูเหมือนจะง่ายๆ นี้อาจต้องหาคำตอบโดยการนำสองทฤษฎีฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมารวมกันเลยทีเดียว และนักวิจัยที่อยู่เบื้องหลังการพยายามหาคำอธิบายให้กับปรากฏการณ์ของหลุมดำ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นยอดนักฟิสิกส์อย่างคุณ Leonard Susskind แห่งมหาวิทยาลัย Stanford นั่นเอง และเขาเป็นที่รู้จักของวงการฟิสิกส์ในฐานะ บิดาของทฤษฎีสตริง (String theory) นั่นเอง
***ทฤษฎีสตริง เป็นแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ สำหรับฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ที่มี บล็อกโครงสร้าง (Building blocks) เป็นวัตถุขยายมิติเดียว (สตริง) แทนที่จะเป็นจุดศูนย์มิติ (อนุภาค) ซึ่งเป็นพื้นฐานของแบบจำลองมาตรฐานของฟิสิกส์อนุภาค และแทนที่อนุภาคคล้ายจุดด้วยสตริงหรือสาย และมีความหวังว่าทฤษฎีสตริงจะพัฒนาไปสู่ทฤษฎีสนามโน้มถ่วงควอนตัมที่เข้าใจได้ง่าย นอกจากนี้ทฤษฎีสตริงยังสามารถที่จะรวมแรงธรรมชาติที่รู้จักทั้งหมด ซึ่งได้แก่ แรงโน้มถ่วง, แรงแม่เหล็กไฟฟ้า, แรงอันตรกิริยาแบบอ่อน (แรงนิวเคลียร์อย่างอ่อน) และแรงอันตรกิริยาแบบเข้ม (แรงนิวเคลียร์อย่างเข้ม) โดยการบรรยายด้วยชุดสมการเดียวกัน
คุณ Leonard เสนอทฎษฎีที่ว่า การขยายตัวของหลุมดำ เป็นการขยายตัวโดยการเพิ่มความซับซ้อนอันเกิดขึ้นภายในหลุมดำ ทำให้เราไม่สามารถเห็นการขยายตัวของหลุมดำได้จากภายนอก พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ หลุมดำมีการขยายตัวอยู่ภายใน ไม่มีการขยายตัวอย่างชัดเจนให้เห็นจากภายนอก ซึ่งต่างจากการขยายตัวของลูกโป่งที่สูบลมเข้าไป หรือการขยายตัวของวัตถุอื่นๆ ที่เราคุ้นชินกัน
ซึ่งก็เป็นแนวคิดที่แปลกใหม่และค้านความรู้สึกแบบเดิมๆ ของเรา ในขณะที่จักรวาลของเรา มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยการขยายอาณาเขตออกไปไม่มีที่สิ้นสุด แต่หลุมดำกลับเกิดการขยายตัวอยู่แต่เพียงภายใน?
โดยคุณ Leonard ได้ให้สัมภาษณ์กับวารสาร The Atlantic ว่า "มันเป็นคำถามที่น่าสนใจมากๆ ว่าการเติบโตขยายตัวของจักรวาลนั้น จะมีความเกี่ยวเนื่องกับการขยายตัวในรูปแบบที่เป็นการขยายเพิ่มความซับซ้อนแบบภายในได้หรือไม่" เขาอาจจะกำลังคาดเดาเกี่ยวกับเรื่องวิวัฒนาการของจักรวาล แต่แนวความคิดเรื่องการเติบโตของหลุมดำ โดยการขยายเพิ่มความซับซ้อนภายในตัวตนนั้น ก็อาจเป็นแนวความคิดถูกต้องก็เป็นได้
อย่างไรก็ดี ทฤษฎีสัมพัทธภาพภาคทั่วไป (General Relativity ) ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ และทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัม (Quantum mechanics ทฤษฎีกลที่สามารถใช้อธิบายปรากฏการณ์ในวัตถุที่มีขนาดเล็กกว่าอะตอม) นั้นไม่สามารถอธิบายการขยายตัวโดยการเพิ่มความซับซ้อนภายในของหลุมดำได้โดยสมบูรณ์ ดูเหมือนว่ายังมีบางสิ่งขาดหายไป
โดยอีกหนึ่งทฤษฎีที่เข้ามาช่วยรองรับให้เรื่องการขยายตัวแบบภายในของหลุมดำ นั้นมีความสมบูรณ์แบบมาขึ้น มีชื่อเรียกว่าทฤษฎี Anti-de Sitter/Conformal Field Theory หรือ Ads/CFT ซึ่งเป็นลูกผสมของทฤษฎี ความโน้มถ่วงเชิงควอนตัม (Quantum gravity) กับทฤษฎีสนามควอนตัม (Quantum field theory) โดย Ads/CFT ได้ทำให้ทฤษฎีสตริง มาบรรจบเข้ากับหลักการของ อวกาศ 4 มิติ และเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการผสานรวม ทฤษฎีสัมพัทธภาพภาคทั่วไป เข้ากับทฤษฎีกลศาสตร์ควอนตัม
และเพื่ออธิบายให้เห็นภาพได้ง่ายๆ ในเรื่องการขายตัวของหลุมดำโดยการ "ขยายเพิ่มความซับซ้อนเป็นการภายใน" นั้นเปรียบได้กับการที่เราดาวโหลดไฟล์ขนาดใหญ่มาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ทำให้เกิดการขยายตัวในรูปแบบของความซับซ้อนของข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ โดยที่ถึงแม้เราจะดาวน์โหลดไฟล์เก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์จนเต็ม ฮาร์ดดิสก์ก็ไม่ได้ขยายตัวใหญ่ขึ้นแต่อย่างใด ขนาดและขอบเขตของมันยังคงเดิม มีเพียงความความซับซ้อนของข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ที่ขยายใหญ่ขึ้น เปรียบได้กับการขยายตัวของหลุมดำที่เกิดขึ้นเป็นการภายใน
คุณ Leonard ให้ความเห็นว่า หลุมดำ นั้นเป็นสิ่งที่มีความพิเศษไม่เหมือนกับสิ่งอื่นใดในจักรวาล ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ทฤษฎีพื้นฐานมาอธิบายปรากฏการณ์ของหลุมดำได้
