โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

รู้หรือไม่?...5 ปีแรก ‘กอง LTF’ มีสินทรัพย์ 4.5 หมื่นลบ.-ลุ้น ‘กอง SSF’ 5 ปี ทุบสถิติรุ่นพี่ !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 07 พ.ค. 2566 เวลา 13.51 น. • เผยแพร่ 28 ต.ค. 2564 เวลา 09.29 น. • สรวิศ อิ่มบำรุง

หลังหมด “กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)” ไปในปี2019 ฟากฝั่ง “ตลาดทุน” เองคาดหวังกองทุนที่จะมาทดแทน ‘กอง LTF’ เพื่อดึงเม็ดเงินให้ไหลเข้าสู่ “ตลาดหุ้นไทย” ได้อย่างต่อเนื่อง
ท้ายสุด“ก.คลัง” ได้ทำคลอด “กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)” ออกมา ซึ่งอาจไม่ตรงใจกับสิ่งที่ฝั่งตลาดทุนต้องการเท่าไรนัก แต่บนข้อมูลและวัตถุประสงค์ของภาครัฐก็เข้าใจได้ และรัฐเชื่อว่า ‘กอง SSF’ จะประสบความสำเร็จได้ โดยให้ระยะเวลาในการใช้ประโยชน์ทางภาษีไว้ 5 ปี (2020-2024) แล้วค่อยมาดูกันอีกครั้งว่าจะปรับเปลี่ยน หรือต่ออายุอะไรหรือไม่อย่างไร?
โดยในปีแรกได้เปิดให้มี “กองทุนรวมเพื่อการออมชนิดพิเศษ (SSF-X)” เฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ตลาดทุนในการดึงเงินเข้าสู่ “ตลาดหุ้นไทย” โดยเฉพาะ แต่ก็ดูยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก
เข้าสู่ปีที่2 ของ ‘กอง SSF’ สิ้นไตรมาสที่3/21 มีสินทรัพย์สุทธิ2.7 หมื่นล้านบาท เป็น ‘SSF-หุ้นไทย’ ประมาณ1.0 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ “LTF” มีสินทรัพย์สุทธิ3.63 แสนล้านบาท !!!
วันนี้ ทีมงาน ‘Wealthythai’ มีเรื่องราวดีๆ ที่น่าสนใจมาฝากกันเช่นเคย

SSF” ไม่ได้โฟกัส ‘หุ้นไทย’ -ระยะถือครองนาน ‘10 ปี’…2 สาเหตุสำคัญทำให้ไม่ปัง

ต้องย้อนกลับไปถึงอายุของ “กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)” ที่ส่งเสริมการลงทุนในหุ้นไทยของนักลงทุนทั่วไปผ่านกองทุนรวมนั้น มีอายุแค่ 12 ปี (2004-2015) นั่นคือ “จบแล้ว” แต่ฝั่ง “ตลาดทุน” เสนอให้ภาครัฐพิจารณาต่ออายุให้ “ภาครัฐ” ก็ใจดีต่ออายุให้อีก 4 ปี (2016-2019) แต่ขยายเวลาการถือครองเพิ่มเป็น “7 ปี ปฏิทิน” ซึ่งก็ครบไปเรียบร้อยแล้วในปี2019 ที่ผ่านมา

“โดย ‘ภาครัฐ’ มองว่า…16 ปีนี้ ที่รัฐส่งเสริม หากสร้างวัฒนธรรมการลงทุนในหุ้นขึ้นมาได้จริง ไม่ต้องมีประโยชน์ทางภาษี นักลงทุนไทยก็จะลงทุนอยู่นั่นเอง ซึ่งเป็นการมองต่างมุมกับฝั่ง ‘ตลาดทุน’ จึงไม่มีการต่ออายุ ‘กอง LTF’ ให้และสุดท้ายได้มาเป็น ‘กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)’ ในท้ายที่สุด โดยรัฐมองว่าคนน่าจะเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้นซึ่งน่าจะช่วยขยายฐานนักลงทุนได้และไม่จำกัดเฉพาะ ‘หุ้นไทย’เท่านั้น”

แม้ในปีแรกรัฐจะไฟเขียวให้มี “กองทุนรวมเพื่อการออมชนิดพิเศษ (SSF-X)” ที่ลงทุนในหุ้นไทยโดยเฉพาะแล้วก็ตาม แต่ด้วยเงื่อนไขการถือครองที่นานกว่า คือ ‘10 ปี’ทำให้เม็ดเงินที่เข้ามาลงทุนไม่ได้มากอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ และในภาพรวมเมื่อนโยบาย ‘ไม่ได้โฟกัสที่หุ้นไทย’สามารถลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ได้ด้วยก็ทำให้เงินที่ฝั่งตลาดทุนอยากให้ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยนั้นก็ไม่มากอย่างที่คิดกันไว้ด้วย แม้ปัจจุบัน ‘SSF-หุ้นไทย’จะมีสัดส่วนมากประมาณ 37% ของเงิน ‘SSF’ ทั้งหมดก็ตาม
“นี่คือ 2 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ ‘กอง SSF’ดูจะไร้มนต์ขลังในการดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยเมื่อเทียบกับ ‘กอง LTF’ในอดีตนั่นเอง”

ย้อนอดีต 5 ปีแรก ‘กอง LTF’ มีสินทรัพย์สุทธิ 4.5 หมื่นล้านบาท…ถึงเวลา “กอง SSF” ท้าทายผลงานรุ่นพี่

สิ้นไตรมาสที่3/21 ‘กอง LTF’ มีสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ 3.63 แสนล้านบาท แต่ย้อนไปในช่วง 5 ปีแรก การเติบโตก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี
-ปี2004 มีสินทรัพย์สุทธิ 5,633.94 ล้านบาท
-ปี2005 มีสินทรัพย์สุทธิ 14,176.47 ล้านบาท
-ปี2006 มีสินทรัพย์สุทธิ 25,186.42 ล้านบาท
-ปี2007 มีสินทรัพย์สุทธิ 49,408.05 ล้านบาท
-ปี2008 มีสินทรัพย์สุทธิ 45,462.56 ล้านบาท

“ถ้ามองในแง่ของขนาด ‘กอง SSF’ ในช่วงปีแรกและปัจจุบันถือว่าทำได้ดีกว่า ‘กอง LTF’ แต่ถ้าโฟกัสเฉพาะเม็ดเงินลงทุนใน ‘หุ้นไทย’ต้องถือว่าน่าจะใกล้เคียงกัน เพราะนี่ยังไม่จบปีที่2 ของ ‘กอง SSF’ ที”
ในฝ่ายของ “ภาครัฐ” คงไม่ได้โฟกัสเฉพาะแค่ “หุ้นไทย” เท่านั้น ซึ่งอาจจะต่างมุมกับฝั่ง “ตลาดทุน จึงไม่น่าแปลกใจที่มักจะเห็นข่าวคราวเกี่ยวกับ “กองทุนหุ้น” ที่จะมาลงทุนในหุ้นไทยโดยเฉพาะออกมาเป็นระยะๆ หรือการเสนอแก้ไขเงื่อนไนการถือครอง ‘กอง SSF’ ให้น้อยลง ไม่ว่าจะเป็นข่าวจริงหรือข่าวลวง แต่บนความคาดหวังของตลาดทุนที่อยากเห็นเม็ดเงินลงทุนในตลาดหุ้นไทยเราก็คงจะได้ยินข่าวในลักษณะนี้ออกมาเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงปลายของ ‘กอง SSF’ด้วยเช่นกัน
“ปฏิเสธไม่ได้ เม็ดเงินไหลเข้าสุทธิที่เข้า ‘กองหุ้นไทย’ ในปัจจุบันนั้น มาจากกลุ่ม ‘กองทุนประหยัดภาษี’ เป็นหลักเลย กองหุ้นทั่วไปแทบจะไม่มีเงินไหลเข้าเลย จากข้อมูลของ ‘Morningstar’ ณ สิ้นไตรมาสที่3/21 พบว่า กองหุ้นไทย (ไม่รวม LTF RMF SSF) ยังมีแรงขายออกอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนว่า ประโยชน์ทางภาษีอาจมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนในหุ้นไทยของนักลงทุนอยู่ค่อนข้างมากพอสมควร”
ไม่ว่าสุดท้าย ‘กอง SSF’ จะดึงเม็ดเงินเข้า “ตลาดหุ้นไทย” ได้ตามที่วาดหวังกันไว้หรือไม่ก็ตาม แต่ไตรมาสสุดท้ายของปี เป็นเทศกาล “กองทุนประหยัดภาษี” อีกครั้ง ใครที่มีสิทธิใช้ประโยชน์จาก ‘กอง SSF’ และ ‘กอง RMF’ได้ ก็ไม่ควรละเลยแต่ประการใด เพราะถือเป็นการลงทุนที่ไม่เพียงสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนเท่านั้น ยังมี “แต้มต่อ” เป็นประโยชน์ทางภาษีแถมมาให้อีกด้วย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0