โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

หลายประเทศทั่วโลกฮิต "เลี้ยงผึ้ง" บนตึก

รักบ้านเกิด

อัพเดต 13 พ.ย. 2562 เวลา 04.07 น. • เผยแพร่ 13 พ.ย. 2562 เวลา 04.07 น. • รักบ้านเกิด.คอม

อย่างที่รู้กันว่า "ผึ้ง" นั้นเป็นแมลงที่มีความสำคัญกับธรรมชาติ นอกจากผึ้งจะผลิตน้ำผึ้งให้เราได้รับประทานแล้ว ผึ้งยังทำหน้าที่ในการรักษาสมดุลย์ของสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ ด้วยการช่วยผสมเกสรดอกไม้ ทำให้ต้นไม้ขยายพันธุ์ได้ตามธรรมชาติ ผึ้งนั้นจัดเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม หลายประเทศจึงนิยมใช้ผึ้งเป็นดัชนีชี้วัดการเปลี่ยนแปลง หรือความผิดปกติของสภาพแวดล้อม เท่ากับว่าผึ้งจะช่วยส่งสัญญาณเตือนภัยให้เรานั่นเอง

เราอาจจะเคยเห็นรูปแบบของฟาร์มผึ้งที่เลี้ยงกันตามปกติทั่วไป ที่จะเลี้ยงภายในสวนดอกไม้ หรือสวนผลไม้ เพราะการที่ผึ้งจะอยู่ได้ก็ต้องอาศัยพืชผลเหล่านี้ แต่ปัจจุบันในหลายประเทศทั่วโลก มีการทำฟาร์มในเมือง (Urban Farm) ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นไปได้ยาก แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว

HK Farm (ฮ่องกง) บนดาดฟ้าของตึกสูงกว่า 14 ชั้น กลางเมืองฮ่องกง
ได้ริเริ่มการดูแลรังผึ้งขนาดความจุกว่า 10,000 ตัว เพื่อนำผลผลิตน้ำผึ้งที่ได้ไปขายและใช้กันในท้องถิ่น ไมเคิล เหลียง ผู้ก่อตั้ง เอชเคฮันนี่ กล่าวว่าจุดเริ่มต้นของการเลี้ยงผึ้ง เกิดหลังจากได้มีโอกาสไปเห็นกิจกรรมนี้ในประเทศสวีเดน เมื่อกลับมาจึงมาหาความรู้เพิ่มเติมและนำมาประยุกต์ใช้กับการเลี้ยงผึ้งของตนเอง และมองว่าข้อดีของการเลี้ยงผึ้งในฮ่องกง มีอยู่หลากหลายประการ ทั้งสภาพอากาศที่มีลักษณะอบอุ่นเกือบตลอดทั้งปี ทำให้ผึ้งสามารถหาอาหารได้ทุกวัน รวมถึงฮ่องกงนั้นมีสวนและป่าในเมืองหลายแห่ง ทำให้บรรดาผึ้งที่เลี้ยง สามารถบินออกไปหาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ได้ง่าย และการที่เราสามารถที่จะผลิตวัตถุดิบอาหารได้ภายในท้องถิ่นของตัวเอง เป็นทางหนึ่งที่จะช่วยรักษาสภาพแวดล้อม ลดปริมาณมลพิษและของเสีย ที่เกิดขึ้นจากการขนส่งผลิตภัณฑ์อาหารข้ามประเทศ โดยหลังจากเริ่มต้นไปได้ปีครึ่ง เอชเคฮันนี่ สามารถจะผลิตน้ำหวานเป็นวัตถุดิบสำหรับใช้ในร้านกาแฟภายในตึกหลังเดียวกัน และได้มีการเริ่มทำสวนสมุนไพรท้องถิ่นบนดาดฟ้าไปด้วย

สวีเดน เปิดตัว McHive ร้านที่เล็กที่สุดในโลกสำหรับเลี้ยงผึ้ง!
McDonald's ในประเทศสวีเดนออกไอเดียร้านอาหารที่เล็กที่สุดในโลกสำหรับเจ้าผึ้ง เป็นความคิดในการอนุรักษ์ประชากรผึ้ง หลังมีจำนวนลดลงอย่างรวดเร็ว
ประเทศสวีเดนกำลังเผชิญปัญหาประชากรผึ้งลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อระบบนิเวศน์ของธรรมชาติอย่างแน่นอน เพราะผึ้งมีผลต่อระบบนิเวศอย่างมาก ทีนี้ McDonald'sในสวีเดนจึงออกไอเดียที่จะช่วยอนุรักษ์ประชากรผึ้ง ด้วยการเปิดตัวMcHive เป็นผลงานที่ทำงานร่วมกับเอเจนซี่โฆษณา NORDDDB เพื่อเป็นร้านอาหารที่เล็กที่สุดในโลกสำหรับเหล่าผึ้งทั้งหลาย จริงๆ แล้วเป็นนวัตกรรมการเลี้ยงผึ้งแบบใหม่ โดยมีการตกแต่งหน้าตาเป็นร้าน McDonald's มีประตูสีทอง มีโซนไดร์ฟทรู แต่ด้านบนหลังคาเป็นรังผึ้งก่อนหน้านี้ McDonald'sได้มีไอเดียในการช่วยอนุรักษ์ผึ้งไว้นานแล้ว บางสาขาในสวีเดนได้เลี้ยงรังผึ้งไว้บนชั้นดาดฟ้า หรือหลังคาของร้าน และมีการเริ่มขยายในขนาดใหญ่ขึ้นอย่างการทำบรรยากาศของร้านให้เอื้อ
ต่อการเลี้ยงผึ้ง ไม่ว่าจะเป็นการปลูกหญ้า ปลูกดอกไม้รอบร้าน เพื่อให้กลุ่มผึ้งคึกคักมากขึ้น ไอเดียนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความยั่งยืน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ McDonald's เช่นกัน

เกาหลีใต้ ธุรกิจเลี้ยงผึ้งบนหลังคาตึก
ผึ้งกว่า 40 ล้านตัว ได้พบบ้านหลังใหม่บนดาดฟ้าของโรงแรมในกรุงโซล ผึ้งจะผลิตน้ำผึ้งออกมาและถูกนำไปเพื่อประกอบอาหารในร้านขนมของโรงแรมและร้านอาหาร
ในปัจจุบันการเลี้ยงผึ้งเป็นที่นิยมมากขึ้นและมีถึง 30 แห่งด้วยกัน การเลี้ยงผึ้งในเมืองเพิ่มขึ้น เพราะ การเลี้ยงผึ้งช่วยพัฒนาสิ่งแวดล้อมของเมืองได้ ดอกไม้บานมากขึ้น ทำให้ดึงดูดแมลงและสิ่งมีชีวิตต่างๆ รวมถึงนกด้วย ซึ่งนี่จะช่วยพัฒนาระบบสิ่งแวดล้อมไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่องในปี 2010 90% ของประชากรผึ้งสูญหายไปเนื่องจากโรคระบาด ยาฆ่าแมลง และการเกษตรสมัยใหม่ ในชนบท ผู้เลี้ยงผึ้งกล่าวว่า การเลี้ยงผึ้งทำให้เมืองน่าอยู่มากขึ้น ตราบใดที่ยังมี ต้นไม้และดอกไม้ในรัศมี 2 กิโลเมตร ในชุมชนเมืองจะไม่มีการเพาะปลูกมากเท่าชนบท ทำให้ มีการใช้ยาฆ่าแมลงน้อยลงและคนที่ปลูกพืชในเมืองส่วนมาก จะเป็นการปลูกแบบออแกนิค ทำให้ผึ้งมีโอกาสรอดชีวิตในฤดูหนาวมากขึ้น และผลิตน้ำผึ้งได้ในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากการเลี้ยงผึ้งในเมืองจะเป็นการดีต่อผึ้งแล้ว ผึ้งยังสามารถช่วยสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

"A Sustainable Future" วิสัยทัศน์กลุ่มยันม่าร์ สำหรับอนาคตอีก 100 ปีข้างหน้า
บริษัทยักษ์ใหญ่ที่วงการเกษตรรู้จักกันดีอย่าง ยันม่าร์ ที่สำนักงานประเทศญี่ปุ่น ได้มองไปถึงอีก 100 ปีข้างหน้า กับการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยการออกแบบเครื่องยนต์ให้ทำงานสูงสุดด้วยเชื้อเพลงที่น้อยที่สุดลดปัญหามลพิษที่จะทำลายโลก และเพื่อสร้างสมดุลย์ระหว่างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองในสภาพแวดล้อมที่ดี นี่จึงเป็นที่มาของการเลี้ยงผึ้งบนอาคาร
โดยทุกวันผึ้งที่เลี้ยงไว้ในอาคาร จะบินไปหาอาหารที่บริเวณปราสาทโอซาก้า ซึ่งห่างจากสำนึกงานใหญ่ประมาณ 5 กิโลเมตรและนำน้ำหวานจากเกสรดอกไม้กลับมาเก็บไว้ในรังบนอาคาร
ดังนั้นการเลี้ยงผึ้งเพื่อนำน้ำผึ้งมาขายกระปุกละ550เยน ในร้านPremium Marche,พิพิธภัณฑ์ยันมาร์และร้านอาหารบริเวณใกล้เคียง ของบริษัทที่มีรายได้ต่อปีถึง 796,600 ล้านเยน จึงเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของยันม่าร์ถึง Brand Purpose ที่วางเอาไว้ คือ การพัฒนาไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีให้กับพนักงานและแขกที่มาเยือนมากกว่าเรื่องของรายได้
และนอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมืองทั่วโลก ที่กำลังได้รับความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ปารีสรวมไปถึงซานฟรานซิสโก ซึ่งการทำการเกษตรบนตึกอย่างการเลี้ยงผึ้งได้รับความนิยมไม่ต่างจากไอเดียการทำสวนผักคนเมือง ซึ่งนี่ถือเป็นการทำลายข้อจำกัดเดิม ๆ ของความเป็นเมือง ในการทำเกษตรทางเลือกใหม่ ให้เรานั้นใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า ในขณะที่ "เมือง" นั้นมีพื้นที่น้อยลงทุกที

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0