วันนี้ (19 ก.ย.2561) นายชลิต สง่างาม จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งทะเลอันดามัน โพสต์เฟชบุ๊ก Chalit Sa Nga Ngam ว่า ฝากประชาสัมพันธ์และช่วยแชร์ต่อต่อเพื่อให้คนอื่นได้ทราบเรื่องการรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว ซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากซากของสัตว์ป่าคุ้มครองให้นำรูปภาพหรือของจริง ไปแจ้งครอบครองที่สำนักงานประมงจังหวัด
โดยประกอบด้วยแหวนหัวกระเบนท้องน้ำที่มีขายทั่วไป เป็นส่วนหนามบนหัวปลาโรนิน ซึ่งปัจจุบันถูกประกาศ เป็นสัตว์คุ้มครองแล้ว เรื่มวันที่ 30 พ.ย.นี้จะถูกจับปรับ 40,000 บาท หากไม่มีหนังสือการครอบครอง
ทั้งนี้ได้เริ่มเปิดรับแจ้งครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-29 พ.ย.นี้ โดยจะถือให้วันที่ 29 พ.ย.นี้เป็นวันสุดท้ายของการรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองชั่วคราว
โดยให้นำเอกสารหลักฐาน คือบัตรประจำตัวประชาขนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ ทะเบียนบ้านหรือสำเนาทะเบียนบ้าน ซากผลิตภัณฑ์หรือภาพถ่ายซากหรือผลิตภัณฑ์สัตว์สงวนที่ประสงค์จดแจ้ง สามารถดาวโหลดแบบฟอร์ม https://www4.fisheries.go.th/…/fi…/20180720114517_1_file.PDF ในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถแจ้งได้ที่ กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง สำหรับในท้องที่จังหวัดอื่นๆ สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดในท้องที่นั้นๆ
ภาพ:กรมประมง
12 ชนิดพันธุ์สัตว์น้ำขึ้นบัญชีสัตว์คุ้มครอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกประกาศกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยเป็นพันธุ์สัตว์น้ำอีก 12 ชนิด ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองท้ายกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองพ.ศ.2546 ได้แก่ ปลากระเบนปีศาจครีบโค้ง ,ปลากระเบนปีศาจครีบสั้น ,ปลากระเบนปีศาจแคระ,ปลากระเบนปีศาจหางหนาม ,ปลากระเบนแมนต้าแนวปะการัง ปลากระเบนแมนต้ายักษ์ ปลากระเบนราหูน้ำจืด หรือปลากระเบนเจ้าพระยา, ปลาโรนิน หรือปลากระเบนท้องน้ำ, ปลาฉนากเขียว
ปลาฉนากปากแหลม ,ปลาฉนากฟันเล็ก ,และปลาฉนากยักษ์ , ซึ่งปกติสัตว์ป่าและสัตว์น้ำที่ได้รับการคุ้มครองนั้น เป็นสัตว์ที่ห้ามทำการเพาะพันธุ์ เว้นบางสายพันธุ์เท่านั้นที่ทำการเพาะพันธุ์ได้ ซึ่งสัตว์น้ำตามกฎกระทรวงฉบับนี้มี ปลากระเบนราหูน้ำจืด หรือปลากระเบนเจ้าพระยา ที่อนุญาตให้ประชาชนเพาะพันธุ์ได้ ตามกฎกระทรวง กำหนดชนิดของสัตว์ป่าคุ้มครองให้เป็นสัตว์ป่าชนิดที่เพาะพันธุ์ได้ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2561
