โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

หลักการ ‘ยกเลิกทัวร์’ ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวฯ

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 23 ก.พ. 2563 เวลา 04.40 น. • เผยแพร่ 23 ก.พ. 2563 เวลา 06.32 น.
14744750951474475191l

ท่ามกลางกระแสการแห่ยกเลิกการเดินทางของผู้ที่จองโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวไว้แล้วในขณะนี้ ได้สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้นในวงการท่องเที่ยวอย่างมาก เนื่องจากวงจรของธุรกิจท่องเที่ยวของไทยขณะนี้มีความซับซ้อนมากขึ้น และอยู่ในมือของผู้ประกอบการโฮลเซลรายใหญ่เพียงแค่ 10 กว่าราย 

บวกกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของโลว์คอสต์แอร์ไลน์ ทำให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวส่วนใหญ่หันไปผูกราคากับโลว์คอสต์ ทำให้กระบวนการขอคืนเงินกรณีที่ลูกทัวร์ขอยกเลิกการเดินทางเกิดปัญหาและความไม่เข้าใจในเงื่อนไข และขั้นตอนการคืนเงิน

ทั้งนี้ ตามความแห่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 หมวด 2 ธุรกิจนำเที่ยว มาตรา 28 ระบุไว้ว่า ในกรณีที่นักท่องเที่ยวชำระเงินค่าบริการแล้ว ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ถ้ามีเหตุที่ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางได้เฉพาะตัว หรือมีเหตุให้ต้องยกเลิกการนำเที่ยวตามที่ได้โฆษณาไว้ โดยมิใช่ความผิดของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจ่ายเงินคืนให้แก่นักท่องเที่ยวไม่น้อยกว่าอัตราตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ (คณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศน์) ประกาศกำหนด 

โดยถ้าการยกเลิกการนำเที่ยวเกิดจากกรณีมีนักท่องเที่ยวไม่ครบจำนวนตามที่กำหนดในมาตรา 26 (8) หรือเกิดจากเหตุใด ๆ อันเป็นความผิดของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องคืนเงินทั้งหมดให้แก่นักท่องเที่ยว 

ในกรณีที่นักท่องเที่ยวมีเหตุตามมาตรา 28 ที่จะขอเงินค่าบริการที่ชำระไว้แล้วคืน ให้นักท่องเที่ยวแจ้งความประสงค์ขอรับเงินคืนจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว โดยผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องจ่ายเงินคืนแก่นักท่องเที่ยวในอัตราดังต่อไปนี้

1.ถ้านักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการเดินทางล่วงหน้าให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทราบไม่น้อยกว่า 30 วันก่อนวันที่นำเที่ยว ให้คืนในอัตราร้อยละ 100 ของเงินค่าบริการ 

2.ถ้านักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการเดินทางล่วงหน้าให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทราบไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนวันที่นำเที่ยว ให้คืนในอัตราร้อยละ 50 ของเงินค่าบริการ

และ 3.ถ้านักท่องเที่ยวแจ้งยกเลิกการเดินทางล่วงหน้าให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทราบน้อยกว่า 15 วันก่อนวันที่นำเที่ยว ไม่ต้องคืนเงินค่าบริการ

นอกจากนั้น ในข้อ 2 ของประกาศยังระบุไว้ว่า ค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ได้จ่ายจริงเพื่อการเตรียมการจัดนำเที่ยวต่อไปนี้ ให้นำมาหักจากเงินค่าบริการที่ต้องจ่ายตามจริงได้ แต่ถ้าค่าใช้จ่ายสูงกว่าเงินค่าบริการที่ได้ชำระไว้ ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวจะเรียกจากนักท่องเที่ยวไม่ได้ 

ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวต้องแสดงหลักฐานให้นักท่องเที่ยวทราบ ดังต่อไปนี้ 1.ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่า 2.ค่ามัดจำของบัตรโดยสารเครื่องบิน และ 3.ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่น ๆ และในข้อ 3 ของประกาศยังระบุให้ในกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวไม่คืนเงินค่าบริการที่นักท่องเที่ยวได้ชำระไว้ตามหลักเกณฑ์ในข้อ 1 และข้อ 2 หรือคืนน้อยกว่าให้นักท่องเที่ยวร้องเรียนต่อนายทะเบียนตามมาตรา 40ของพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551

อย่างไรก็ตาม สายด่วนกรมการท่องเที่ยว (0-2401-1111) อธิบายว่าหลักเกณฑ์การคืนเงินต่าง ๆ จะต้องพิจารณาร่วมกับเงื่อนไขที่แต่ละบริษัทกำหนดอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเมื่อทำการซื้อขายแผนนำเที่ยวร่วมกันด้วย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0