หลอน! ไปขุดมันผ่านบ่อร้างเจอซากศพ คนเจอศพชี้ก่อนหน้าเจอแต่เรื่องหลอนได้ยินเสียงคนเดิน เห็นเงา

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 ก.ค. 2562 นางรุ่งนภา บานศิริ อายุ 28 ปี พร้อมลูกสาว อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 343 หมู่ 1 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ นำ พ.ต.ท.สมบัติ ผิวผ่อง สารวัตร(สอบสวน)สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.สุวรรณภูมิ และกู้ภัยฮุก 31 สุวรรณภูมิ ร่วมกันฝ่าป่ารกเข้าพิสูจน์ศพและนำโครงกระดูก ขึ้นจากบ่อร้างเพื่ออตรวจสอบหาความเป็นมาของผู้เสียชีวิต ที่ไม่สามาถตรวจสอบความเป็นของผู้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้ เนื่องจากหลังจากก็ภัยนำศพขึ้นมา ไม่พบหลักฐานการแสดงตัวว่าผู้เสียชีวิตคือใคร

จากการสอบสวนปากคำ นายขวัญเมือง สนามโพธิ์ ผญบ.หมู่ 1 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ ซึ่งโทรแจ้งตำรวจ ทราบว่า โครงกระดูกมนุษย์ในบ่อน้ำร้าง อยู่ในในที่ดินว่างเปล่ารกร้าง ที่มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น และศพอยู่ใน บ่อน้ำแห้ง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร . ลึกประมาณ 3 เมตร

ในขณะที่ผู้พบศพคนแรกคือ น.ส.รุ่งนภา บานศิริ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 343 หมู่ 1 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ กล่าวถึงเหตุที่เข้าไปพบศพ เนื่องจากแม่ที่ป่วยและสามี อยากกินมันชนิดหนึ่ง ที่พบเจอเถาในที่ดินแปลงดังกล่าว และหลังจากขุดมันแล้ว เดินผ่านบ่อร้าง มองลงไปในบ่อพบว่ามีมีศพผู้เสียชีวิต โครงกระดูก ในบ่อ จึงรีบโทรแจ้งกำนัน ให้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบความเป็นมาของผู้เสียชีวิต ซึ่งเหลือแต่โครงกระดูกและกางเกงขาสั้นสีเทาเท่านั้น

ในขณะที่ นางจันทิรา คนธิรัตน์กุล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 2 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ ซึ่งนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบโครงกระดูก กล่าวว่า ตนสงสัยว่าศพที่เหลือแต่โครงกระดูก อาจจะเป็นสามี คือนายชำนิ นันทไส อายุ 36 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคพิษสุราเรื้อรังและมีอาการจิตหลอน ซึ่งหายตัวไป เมื่อคืนวันที่ 7 พ.ค. 2562 ซึ่งพยายามตามหาตัวไม่พบมากว่า 2 เดือนกว่าแล้ว และมีการแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.สุวรรณภูมิ

และในเบื้องต้นหลังพบศพ ก็ไม่สามารถยืนยันว่าใช่สามีของตนหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ได้ทำการเก็บชิ้นส่วนศพที่พบส่วนหนึ่ง พร้อมกับเก็บเนื้อเยื่อในปากของลูกสาวผู้ตาย เพื่อส่งไปยังสถาบันนิติเวชขอนแก่น เพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอ ว่าใช้สามีและแม่ของเด็ก ที่ทุกคนกำลังตามหาหรือไม่อย่างไรต่อไป

ในขณะที่ น.ส.รุ่งนภา บานศิริ อายุ 28 ปี กล่าวว่า ก่อนที่ตนจะมาขุดมันและพบศพ ก่อนหน้านั้น มักพบเรื่องแปลก ในบ้าน คือสามีและตนมักจะได้ยินเสียงแปลก เหมือคนเดินไปมาในบ้าน และบางทีก็คล้ายมีเงาตะคุ่มในบ้าน เลขที่ 343 หมู่ 1 ต.สระคู อ.สุวรรณภูมิ ของตนเอง จนเกิดมีปากเสียงกันหลายครั้ง และเข้าใจผิดว่าตนซุกชายชู้ไวในบ้านหลายครั้ง จนกระทั่งจู่ๆแม่ก็อยากกินมันและไปเจอศพ เชื่อว่าอาจจะเป็นแรงบันดาลใจของผู้ตาย ที่ต้องการให้มีคนไปพบ และนำขึ้นมาให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

พ.ต.ท.สมบัติ ผิวผ่อง สารวัตร(สอบสวน)สภ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ไม่พบหลักฐานใดๆ ส่อว่าผู้ตายเป็นใคร คงต้องรอการตรวจดีเอ็นเอ มายืนยัน ว่าใช่ญาติของ 2 แม่-ลูก ที่สูญหายหรือไม่ ซึ่งหากไม่ใช่จึงจะมีการสืบสวนขยายผลว่าเป็นใคร มีความเป็นมาอย่างไร และตายด้วยสาเหตุใดต่อไป