หรือจะท้าชิงกับไทย? เมื่อ ‘สิงคโปร์’ ผนึก ‘อาลีบาบา’ เปิดเกมดึงชาวจีนมาท่องเที่ยวและใช้จ่ายให้มากขึ้น

น่าจะหนาว ๆ ร้อนเหมือนกันสำหรับการท่องเที่ยวของไทย เพราะล่าสุดทาง “การท่องเที่ยวสิงคโปร์” ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับอาลีบาบาเป็นเวลา 3 ปี เพื่อกระตุ้นให้ชาวจีนมาท่องเที่ยวและใช้จ่ายในสิงคโปร์มากขึ้น โดยเตรียมคิกออฟแคมเปญ “Passion Made Possible Privileges” สำหรับส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งหลังของปี 2019 เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ กลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ และชาวจีนที่เกิดหลังยุค 90

ความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้สิงคโปร์สามารถใช้ประโยชน์จากดาต้าที่มีอยู่มหาศาลของอาลีบาบาได้ ไม่ว่าจะเป็น การชำระเงินออนไลน์ “อาลีเพย์” , แพลตฟอร์มดิจิทัลด้านการท่องเที่ยว “ฟลิกกี้” (Fliggy) , วิดีโอแพลตฟอร์ม “โยวคู่”  (Youku) , ผู้ให้บริการจำหน่ายตั๋วออนไลน์ “ดาไม” (Damai) และ “อาลีบาบาคลาวด์” เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างครบวงจร รวมถึงทำความเข้าใจพฤติกรรมการท่องเที่ยวของชาวจีนให้ลึกซึ้งมากขึ้น

“ความร่วมมือกับอาลีบาบาครั้งนี้ถือเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับสิงคโปร์ เพราะมันช่วยให้เราสามารถเข้าถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนได้สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นจนจบตั้งแต่การจองตั๋ว การแพลนทริป หรือแม้กระทั่งเสร็จจากทริปแล้ว ด้วยแพลตฟอร์มที่อาลีบาบามีอยู่” Keith Tan ผู้บริหารของการท่องเที่ยวสิงคโปร์กล่าว

ก่อนหน้านี้ การท่องเที่ยวสิงคโปร์และกลุ่มอาลีบาบาได้เคยมีความร่วมมือกันผ่านผลิตภัณฑ์ผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์รายใหญ่สุดของจีนอย่าง “อาลีเพย์” เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ และทำให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ดีขึ้น ทั้งก่อนมาเที่ยวและระหว่างที่ได้เที่ยวในสิงคโปร์

จากนั้นต่อด้วยความร่วมมือในการเปิดศูนย์พัฒนา AI โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นศูนย์วิจัยนอกประเทศจีนแห่งแรกของอาลีบาบา

ทั้งนี้ จาการเปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวสิงคโปร์ปีที่แล้ว อยู่ที่ 18.5 ล้านคน เติบโตจากปีก่อนหน้า 6.2% มีการใช้จ่ายเงิน 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงครองอันดับหนึ่งยอดการใช้จ่ายสูงสุดที่ 3.1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ตามด้วยอินโดนีเซีย และอินเดีย

ที่มา : stb and alibaba  

อ่านบทความทั้งหมด ที่ MarketingOops.com