"สุนทร"เตรียมปัดฝุ่นปลูกต้นไม้ใช้หนี้สมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ดันต่อเนื่อง ลั่น! เหมาะที่สุดปลดหนี้ ชี้ความเสี่ยงในการลงทุนน้อยที่สุด ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องดูแลมากมาย ชู "ปชป."กำกับดูแลต้องขจัดนายหน้าค้าขายความจน ลิ้นเหลือบเกษตรกรต้องสิ้นแผ่นดินไทย
เป็นที่ทราบแล้วว่าในสัดส่วนโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้มาดูแลนั้น หนี่งในกระทรวงสำคัญ ก็คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ส่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ (ว่าที่) รัฐมนตรีว่าการฯ ลงมากำกับดูแล
นายสุนทร รักษ์รงค์ อดีตรองประธานกรรมการบริหารและผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตร (กฟก.) และสมาชิก “พรรคประชาธิปัตย์” แบบตลอดชีพ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าขณะนี้ผมได้พยายามประสานความร่วมมือกับทุกกลุ่ม เพื่อจัดทัพกลไก พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ให้เป็นกฎหมายที่เกษตรกรกินได้เสียที ด้วยนโยบายซื้อหนี้ยกเข่ง ให้เกษตรกรสมาชิก กฟก.ที่ขึ้นทะเบียนเตรียมซื้อหนี้ทุกคนได้มีลมหายใจต่อ รวมทั้งการใช้ยุทธศาสตร์ฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ด้วยการปลูกต้นไม้ใช้หนี้
“ตามกฎหมายกองทุนฟื้นฟูฯเมื่อรับซื้อหนี้เกษตรกรจากสถาบันการเงินแล้ว จะทำสัญญาเช่าซื้อกับเกษตรกร โดยให้เกษตรกรมาผ่อนชำระหนี้กับกองทุนฯ ต่อไป ส่วนใหญ่หนี้จะเป็น NPL คือเกือบโดนยึดที่ดิน หรือบังคับคดีแล้ว ถ้าเป็นหนี้บุคคลค้ำก็ถูกฟัองแล้ว ดังนั้นระเบียบจึงกำหนดให้เกษตรกรต้องมีแผน ฟื้นฟูอาชีพ โดย อยู่ในอำนาจ ของคณะกรรมการบริหาร ซึ่ง ที่ผ่านมา มีทั้งงบอุดหนุน คือให้เปล่า กับองค์กรเกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุน และมีงบประมาณให้กู้ยืมเพื่อการฟื้นฟูอาชีพแก่องค์กรเกษตรกร”
นายสุนทร กล่าวว่า ผมเองในสมัย เป็นรองประธานกรรมการบริหาร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ได้ร่างระเบียบกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ว่าด้วยการฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ด้วยธนาคารต้นไม้ วิธีการก็คือให้เกษตรกรที่ ได้รับการซื้อหนี้ปลูกต้นไม้ในที่ดินของตัวเองหรือที่เช่า โดยเอารายได้จากการขายไม้เมื่อถึงเวลาโค่นตัดมาชำระหนี้ หรือเอามูลค่าของต้นไม้ในขณะที่มีชีวิตตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยหลักประกันและมูลค่าต้นไม้ ไปกู้เงินมาชำระหนี้หากยังไม่อยากตัดต้นไม้
“พี่น้องเกษตรกรที่เป็นหนี้กับสถาบันการเงินส่วนใหญ่แล้วอยู่ในสภาพที่หมดแรง การจะฟื้นฟูอาชีพด้วยวิธีการอื่นยังมองไม่เห็นทาง เพราะการลงทุนในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันมีความเสี่ยงสูง แต่เราไม่ปิดโอกาสสำหรับการฟื้นฟูด้วยวิธีอื่นนะครับ เพียงแต่ข้อเสนอการการปลูกต้นไม้เพื่อใช้หนี้ น่าจะเป็นทางเลือกหลักในการฟื้นฟูและพัฒนาอาชีพเกษตรกร ดังนั้นการปลูกต้นไม้จะเป็นวิธีการที่สร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนที่สุด มีความเสี่ยงในการลงทุนน้อยที่สุด ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องดูแลมากมาย”
ดังนั้นการปลูกต้นไม้เพื่อใช้หนี้ จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเกษตรกรไทยเพื่อให้หลุดพ้นจากหุบเหวแห่งความทุกข์และภาระหนี้สิน และที่สำคัญการปลูกต้นไม้ นอกจากจะทำให้เกษตรกรสามารถรักษาที่ทำกินของตัวเองไว้ได้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทยและเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีอีกด้วย