หลังจากที่ผู้บริหารเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ทำหนังสือไปยังกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ขอยกเลิกดำเนินกิจการสวนสัตว์สาธารณะ สวนสัตว์เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่เปิดดำเนินกิจการมามากกว่า 40 ปี ล่าสุด กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีหนังสือตอบกลับสั่งให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ดำเนินการตามมาตรา 32 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า 2535 โดยให้ดำเนินการจำหน่ายสัตว์ที่อยู่ในความครอบครองทั้งหมดให้กับสวนสัตว์สาธารณะที่ได้รับใบอนุญาตภายใน 180 วัน
โดยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ระบุว่า การหยุดกิจการสวนสัตว์ไม่ได้เกิดจากการสั่งการของกรมอุทยานฯ แต่เป็นความประสงค์ของนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ที่ทำหนังสือแจ้งมายังกรมอุทยานฯ จึงจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เช่นเดียวกับเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับและข้อกฎหมายหลังจากนี้ โดยมีรายงานว่า กำลังประสานงานกับสวนสัตว์สงขลาในการรับสัตว์ไปเลี้ยงไว้ในความดูแลแล้ว
ด้านนายวิฑูรย์ อิสระพิทักษ์กุล รองประธานสภาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในส่วนของงานสภาเทศบาลฯ นั้น ยังไม่เห็นหนังสือที่กรมอุทยานฯ ตอบกลับมา ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า การใช้จ่ายงบประมาณในสวนสัตว์ของเทศบาลนั้น จะต้องผ่านสภา แต่การแจ้งขอหยุดกิจกการนั้น ยอมรับว่ายังไม่เห็นเรื่องนี้เข้าสู่สภา จะต้องตรวจสอบขั้นตอนและระเบียบปฏิบัติการขอหยุดกิจการนั้น จะต้องผ่านสภาหรือไม่
สำหรับสวนสัตว์แห่งนี้ นับเป็นกิจการล่าสุดที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ตัดสินใจหยุดดำเนินการ เป็นสวนสัตว์เพียงแห่งเดียวของภาคใต้ตอนบน ซึ่งนับเป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชนทั้งในอดีตและปัจจุบัน และชาวนครศรีธรรมราชผู้ที่มีอายุราว 40-60 ปี ต่างเคยสัมผัสกับสัตว์หลากชนิด สร้างความตื่นตาตื่นใจเป็นแหล่งเรียนรู้มาหลายทศวรรษ แม้ว่าก่อนหน้านี้สวนสัตว์แห่งนี้ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงสุขอนามัยกรงเลี้ยง สุขภาพสัตว์ และความเป็นอยู่ก็ตาม
ทั้งนี้เทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้หยุดดำเนินการในทรัพย์สินสาธารณะในความดูแลไปแล้วหลายรายการเช่นสนามกีฬากลางนครศรีธรรมราช ที่มีปัญหาเรื่องทุจริตจนสนามไม่สามารถใช้การได้แม้ใช้งบไปหลายสิบล้านบาท ฌาปณสถานวัดชะเมาที่ต้องส่งคืนวัด ซึ่งได้ส่งทรัพย์สินเหล่านี้ให้ตกไปอยู่ในความดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชแทน
