เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ม.ร.ว. จัตุมงคล โสณกุล หรือ หม่อมเต่า หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ไปปราศรัยหาเสียงให้นายพิจักษณ์ สมทรัพย์ผู้สมัคร1 หมายเลข 2 เขต 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่สวนสาธารณะ ด้านเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า ขณะนี้เป็นห่วงบุคคลสำคัญที่อยู่ใน ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใหญ่ทั้งเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ มีคนเก่ง คนดี มีความรู้ความสามารถ อาจจะขาลอย อาจจะไม่มีตำแหน่ง ส.ส.หลังการเลือกตั้งจากการคำนวณ สส.ในระบบใหม่ โดยพรรคประชาธิปัตย์ สถานการณ์หลังการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม เป็นห่วงสถานะของหัวหน้าพรรค เพราะประกาศไปแล้วว่าหากได้ สส.ต่ำกว่า 100 ที่นั่งจะลาออก น่าสนใจว่าพรรคจะเอาใครไปทำหน้าที่แทนระหว่างนายชวน หลีกภัย หรือ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน
“มีการประเมินช่วงหาเสียงโค้งสุดท้ายจากกระแสตอบรับของประชาชน พรรค รปช.จะได้ สส.ทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อไม่น้อยกว่า 25 คน และพรรคยืนยันการทำงานการเมืองในระยะยาวสังเกตจากหลายเขตมีการส่งผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่ และยืนยันว่าพรรคพร้อมจะทำงานร่วมกับพรรคพลังประชารัฐที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีเงื่อนไข ไม่ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี แต่ส่วนตัวยอมรับว่าสนใจงานของกระทรวงศึกษาธิการ” ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวและว่า หลังเลือกตั้งไม่เชื่อว่ารัฐธรรมนูญ 2560 จะเป็นปมความขัดแย้งอีกครั้ง เนื่องจากพรรคการเมืองที่จัดตั้งรัฐบาลจะต้องมีเสถียรภาพมากพอสมควร และ ขอเรียนว่าอย่าติดหล่มกับรัฐธรรมนูญให้มากเกินไป ยกตัวอย่างประเทศอังกฤษตั้งมานานกว่า 500 ปี ไม่มีรัฐธรรมนูญก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร
ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวอีกว่า สำหรับสนามเลือกตั้ง สส.ในกรุงเทพฯจะเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ รปช.มีผู้สมัครที่โดดเด่น 2-3 เขต ที่พอมีหวังและขณะนี้พรรคมุ่งหาเสียงผ่านโซเชียลมีเดียมากกว่าช่องทางอื่น เพราะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ ส่วนกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองหลายเรื่อง สร้างกระแสให้พรรคเป็นที่รู้จักได้พอสมควร ยอมรับว่าไม่มีการพุดคุยหรือหารือตนล่วงหน้า เพราะนายสุเทพเป็นคนหัวแข็ง
