กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “ธารา รัตนอำนวยศิริ” ซึ่งเป็นคุณหมอท่านหนึ่ง เขียนถึงการเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชีย เช้าวันที่ 17 มิ.ย. 62 พบเหตุการณ์สุดระทึกในห้องโดยสาร เกิดควันขึ้นจนมองหน้าคนข้าง ๆ ไม่เห็น และมีกลิ่นเหม็นไปทั้งห้องโดยสาร ซึ่งบินต่อไปอีก 30 นาที จนถึงปลายทาง โดยไม่ได้รับคำอธิบายใด ๆ
วันที่ 18 มิ.ย. 62 นพ.ธารา รัตนอำนวยศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด ผู้โพสต์เรื่องราว เปิดใจผ่านทางโทรศัพท์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าว บนไฟลท์บิน FD5500 ต้นทางเชียงใหม่ ปลายทางขอนแก่น ส่วนตัวถูกยกเลิกไฟลท์ที่จองก่อนล่วงหน้านี้ จึงทำให้ได้รับผลกระทบเดินทางไปร่วมประชุมล่าช้า แต่พบปัญหาที่ใหญ่กว่า คือ ระหว่างที่กัปตันนำเครื่องบินขึ้น กระทั่งไต่ระดับขึ้นไป เริ่มมีกลุ่มควันออกมาจากช่องแอร์ คละคลุ้งทั่วห้องผู้โดยสาร ตนเองได้กลิ่นควัน ไม่ใช่ระบบไอน้ำ หรือแอร์ แต่เป็นกลุ่มควันเหม็นไหม้คล้ายพลาสติก ส่วนตัวมองว่าผิดปกติ แต่ก็ไม่มีผู้โดยสารส่งเสียงโวยวาย จนกระทั่งมีพนักงานต้อนรับบนเครื่องมองเห็นกลุ่มคันดังกล่าว จึงได้ตะโกนพูดคุยกับพนักงานด้วยกันว่า “มีควัน” จึงทำให้ผู้โดยสารที่นอนหลับอยู่ตื่นตกใจขึ้นมาทั้งลำ
กระทั่งพนักงานเดินกลับออกมา แต่ไม่มีการพูดคุยหรือแจ้งให้กับผู้โดยสารทราบ ตนเองเป็นคนที่นั่งอยู่ท้ายเครื่อง ใกล้กับพนักงานต้อนรับ จึงได้ยินว่า กัปตันสั่งให้รอดูสถานการณ์ 5 นาที ตนเองก็ตกใจที่กลุ่มควันที่เกิดขึ้น รวมถึงกลิ่นไหม้ และ ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่คละคลุ้งทั่วบริเวณ ทำไมถึงไม่มีการตัดสินใจนำเครื่องลงหรือตรวจสอบอย่างละเอียด คนบนเครื่อง 250 ชีวิต ทนดมกลิ่นกว่า 30 นาที ได้รับเพียงแค่กระดาษทิชชู่จากพนักงานต้อนรับ ใช้ปิดจมูกและปาก กระทั่งเครื่องถึงท่าอากาศยานขอนแก่น ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองจึงอยากได้รับคำตอบ และคำชี้แจงจากสายการบิน
ส่วนตัวในฐานะหมอ ทราบว่าการทนดมกลิ่นดังกล่าว นานกว่า 30 นาที เป็นสิ่งที่อันตราย การพยายามบินต่อให้ไปถึงปลายทางเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ไม่ควรนำ 250 ชีวิต บินต่อไปโดยไม่ทราบชะตากรรม ตนเองในระหว่างอยู่บนเครื่อง พยายามสวดมนต์ตั้งสมาธิ ทั้งนี้ ตนไม่ได้โจมตี แต่ต้องการให้ปรับปรุงงานบริการ และรักษาความปลอดภัยของผู้โดยสารอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ ฝ่ายสื่อสารองค์กร สายการบินไทยแอร์เอเชีย ชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏผู้โดยสารท่านหนึ่งโพสต์ในสังคมออนไลน์ กรณีพบกลิ่นและลักษณะหมอกควันในห้องโดยสาร หลังเครื่องขึ้นให้บริการ เที่ยวบิน FD5500 จากการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในช่วงเวลาสั้น ๆ หลังนำเครื่องขึ้น นักบินได้ตรวจสอบโดยละเอียดตามคู่มือและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด พบว่าทุกระบบในการบินทำงานตามปกติ และไม่มีตัวบ่งชี้ที่ส่งผลกระทบด้านความปลอดภัย ทำให้นักบินตัดสินใจบินต่อไปยังท่าอากาศยานปลายทางจังหวัดขอนแก่น
อย่างไรก็ตาม สายการบินขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และขอขอบคุณท่านผู้โดยสารในการร่วมเฝ้าระวังด้านความปลอดภัย และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทั้งนี้ สายการบินยืนยันการให้บริการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐานสากลในทุกเที่ยวบิน