เมื่อวันที่ 16 ม.ค. "คุณหมอใหม่" แห่งเพจ "คุยกับหมอภูมิแพ้เด็ก by Dr.Mai" ได้ไลฟ์สดให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ "ค่าฝุ่นละออง PM 2.5" เพิ่มสูงขึ้น มีค่าเกินมาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน จนเกิดความตื่นตระหนกเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับร่างกาย
ซึ่งทางด้าน "คุณหมอใหม่" ได้กล่าวว่า คนที่เป็น"โรคภูมิแพ้" อาจจะมีอาการกำเริบ ไม่ว่าจะเป็นภูมิแพ้ที่เกิดจากระบบทางเดินหายใจ หรือหอบหืด อาจทำให้เป็นหนักยิ่งกว่าเดิม มักจะมีอาการคัดและแสบจมูกหากอยู่ในที่โล่งแจ้ง ส่วนเรื่องการรณรงค์ให้สวมใส่หน้ากาก N95 หากใครยังไม่เคยใช้หรือไม่คุ้นเคย อาจต้องระวัง เพราะถ้าจะใช้ให้ได้ผลจริงๆ ต้องใส่ให้แน่นๆ ถึงจะกันฝุ่นได้จริง แต่หากใส่แน่นจนเกินไปก็ไม่ไหว หายใจไม่ออก
โดยมีคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบบทางเดินหายใจและโรคหัวใจ เตือนเรื่องการใช้หน้ากาก N95 ถ้าใช้นานๆ อาจทำให้รู้สึกอึดอัด หายใจไม่สะดวก หลายคนทนแทบไม่ไหว ยิ่งถ้าใครมีปัญหาโรคหัวใจหรือโรคปอด รวมทั้งโรคระบบทางเดินทางหายใจ ต้องระวังมีปัญหา มีโอกาสที่ร่างกายอาจขาดออกซิเจนหรือเป็นผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ การทำงานหัวใจมีปัญหา หัวใจล้มเหลว ถ้าใช้อยากให้ระวัง ไม่สามารถใส่ได้นานๆ ไม่ควรใส่แล้ววิ่ง หรือออกกำลังกาย
"คุณหมอใหม่" ยังให้ความรู้อีกว่า คนที่เป็น "โรคภูมิแพ้" ควรดูแลตัวเองด้วยการล้างจมูก หรือฉีดยาพ่นจมูก โดยเฉพาะคนที่อยู่กลางเมือง ควรรับมือเรื่องฝุ่น โดยไม่ต้องตื่นตระหนกตกใจ สิ่งที่ควรทำไม่ใช่การออกไปหาซื้อหน้ากาก จริงๆ ควรจะหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งหรืออยู่ให้น้อยที่สุด ยกเว้นถ้าจำเป็นต้องออกจริงๆ ควรใส่หน้ากาก N95 แต่ต้องระวัง ใส่ให้ถูกต้อง รัดในระดับที่เหมาะสม อย่านานเกินไปแต่หากไม่มีหน้ากาก N95 เนื่องจากขาดตลาดหรือมีการกักตุน ให้ใส่แมสหน้าอนามัยธรรมดาแล้วรองทับด้านในด้วยกระดาษทิชชู่ 2 ชั้น ก็จะสามารถช่วยป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ในระดับหนึ่ง.
ขอบคุณ "คุณหมอใหม่" แห่งเพจ "คุยกับหมอภูมิแพ้เด็ก by Dr.Mai"
