*แพทย์ รพ.เด็ก ระบุเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไปควรเลิกนมขวด ควบคุมปริมาณการดื่มนม ไม่เกิน 2-3 ครั้ง ต่อวัน *
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. รศ.พิเศษ พญ.สุนทรี รัตนชูเอก หัวหน้ากลุ่มงานโภชนาศาสตร์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือ รพ.เด็ก กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสดราม่าในโลกออนไลน์ ผู้ปกครองให้เด็กดื่มนมมาก จนมีอาการป่วยว่า ว่า ทาง รพ.พบผู้ป่วยเพราะสาเหตุนี้เป็นประจำทุกปี ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม โดยปกติแล้ว เด็กที่มีอายุหลัง 1 ขวบ ควรเลิกขวดนม ซึ่งปริมาณนมที่บริโภคไม่ควรเกิน 2-3 ครั้งต่อวัน ไม่ใช่ 6-7 ครั้ง เหมือนตอนเป็นเด็กเล็ก ซึ่งการที่เด็กดื่มนมที่มีปริมาณโปรตีนที่สูงมาก ตั้งแต่วัยเด็ก จะทำให้เด็กเป็นโรคอ้วน โดยปกติร่างกายต้องขับน้ำออกทางปัสสาวะ ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ จะมีอาการท้องผูก ในปีหนึ่งจะมีเด็กที่ป่วยด้วยโรคโรคลักปิดลักเปิด นอน รพ. ประมาณ 3-4 ราย ส่วนที่อาการไม่รุนแรงก็มี ในผู้ป่วยบางราย มีอาการเลือดออกตามไรฟัน เด็กอายุ 2-3 ขวบ จะพบว่ามีปัญหาเดินไม่ได้ จากการปวดขา เมื่อให้วิตามินซีก็จะเป็นปกติ
“อยากฝากเตือน ลูกวัวยังไม่กินนมแม่ตลอดชีวิต พอโตมาก็กินหญ้าเป็นอาหารหลัก ส่วนคนต้องกินข้าว เป็นอาหารหลัก 3 มื้อ หากเลี้ยงไม่เหมาะสมตามวัยที่ควรจะเป็น ก็จะเกิดโรคได้ เหมือนพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า โภช เน มั ต ตั ญ ญุ ตา คือ ต้องบริโภคให้เหมาะสมในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งการที่เด็กจะกินนมน้อยลงได้ ต้องเลิกกินจากขวดนม ในวัย 1 ปี ช้าสุด คือ 1 ปีครึ่ง ต้องเลิกให้ได้ ไม่งั้นพฤติกรรมการเคี้ยวอาหารจะเสีย ซึ่งเด็กที่กินนมจากขวดนาน จะส่งผลให้เคี้ยวอาหารไม่เป็น ก็จะเกิดโรคตามมาอย่างมากมาย” รศ.พิเศษ พญ.สุนทรี กล่าว
