หมอสูติฯ ไขปม ทำไมคนไข้ไม่เห็น ไม่มั่นใจ ถูกหมอใหญ่สอดใส่ เอาขึ้นจอ?

ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ ไข้ข้อข้องใจ ตรวจภายใน จำเป็นต้องส่องกล้องขึ้นจอ ต้องจำลองการมีเพศสัมพันธ์ และทำไมเหยื่อถึงไม่เห็นว่าแพทย์กำลังทำอะไร?…

จากกรณีที่มีคนไข้สาวร้องเรียน ภายหลังจากถูกหมอข่มขืนกระทำชำเรา ขณะตรวจภายใน และมีการเสนอเงินจากแพทย์ เพื่อแลกให้เธอยอมความ ล่าสุด ทีมข่าวเจาะประเด็น พูดคุยกับ ศ.นพ.ภิเศก ลุมพิกานนท์ ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ถึงรายละเอียดการตรวจภายในสำหรับผู้หญิง ในประเด็นที่น่าสนใจหลายประการ

- ตรวจภายใน จำเป็นต้องส่องกล้อง ขึ้นจอด้วยหรือ? -

ศ.นพ.ภิเศก ให้ความเห็นในกรณีนี้ว่า ในส่วนที่เหยื่อให้การว่า แพทย์ได้สั่งให้ขึ้นนอนบนเตียงขาหยั่ง และทำการตรวจภายในโดยใช้กล้องส่องดูเพื่อให้ภาพจากกล้องขึ้นจอนั้น การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่ขั้นตอนปกติของการตรวจภายใน และไม่ทำแบบนี้กับคนไข้ที่ตรวจภายในทุกราย แต่จะทำเฉพาะกับรายที่ต้องการตรวจสอบว่าภายในมดลูกมีเนื้องอกหรือไม่ และจะเป็นการอัลตราซาวนด์เพื่อดูการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ 

“โดยทั่วไปแล้ว เราจะไม่ใช้กล้องในการตรวจภายใน ยกเว้นมีความจำเป็นจริงๆ หรือถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ในการใช้กล้องเพื่อตรวจ จะไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ” ศ.นพ.ภิเศก กล่าว

- การตรวจภายใน ต้องจำลองการมีเพศสัมพันธ์ เพื่อช่วยในการรักษาด้วยหรือ? -

ศ.นพ.ภิเศก กล่าวสั้นๆ ว่า “ไม่ครับ และก็ไม่เคยมีด้วยครับ การตรวจภายในจะไม่มีการจำลองการมีเพศสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้นครับ" 

- การตรวจภายใน จำเป็นต้องใช้ลมจากปากเป่าอวัยวะเพศของคนไข้หรือไม่? -

ศ.นพ.ภิเศก ให้คำตอบว่า “ไม่ครับ จะไปทำไมล่ะครับ นี่ไม่ใช่ขั้นตอนการตรวจภายในปกติครับ”

- หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ทำไม ณ ขณะนั้น เหยื่อถึงไม่มั่นใจว่าแพทย์กำลังกระทำการล่วงละเมิดทางเพศ?, ทำไมเหยื่อถึงไม่เห็นว่าแพทย์กำลังทำอะไร? -

ศ.นพ.ภิเศก ให้คำตอบว่า“ผมไม่เข้าใจเหมือนกันครับว่าทำไม เพราะการตรวจภายใน ไม่มีฉากกั้นระหว่างหมอกับคนไข้หรอกครับ มันจะกั้นได้อย่างไรล่ะครับ”

หากไม่มีฉาก หรือไม่มีผ้าปิด เป็นไปได้ไหมที่คนไข้จะเห็นว่า แพทย์กำลังเอาอวัยวะเพศสอดใส่เข้าไปในอวัยวะตัวเอง? ผู้สื่อข่าวถามต่อ
ศ.นพ.ภิเศก ตอบว่า“อาจจะไม่เห็นโดยตรง แต่ว่าถ้าเกิดเขาสอดใส่เข้าไปจริงๆ ก็จะต้องรู้สึกนะครับ”

ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า เป็นไปได้ไหมที่คนไข้จะเกิดความเข้าใจว่า สิ่งที่สอดใส่เข้าไปคือ เครื่องมือแพทย์?
ศ.นพ.ภิเศก กล่าวว่า “สิ่งที่สอดไปก็คือนิ้วมือครับ โดยขั้นตอนการตรวจภายในจะมีดังนี้ครับ 1.แพทย์จะทำการตรวจดูจากภายนอกก่อนว่า อวัยวะเพศภายนอกมีความผิดปกติอะไรหรือไม่

2.แพทย์จะใส่เครื่องมือ speculum หรือปากเป็ดเข้าไปในช่องคลอด เพื่อตรวจสอบว่า ในช่องคลอดมีหนอง หรือมีเลือดใดๆ ที่ผิดปกติหรือไม่ รวมทั้งตรวจปากมดลูกว่ามีแผลหรือไม่

3.นำนิ้วมือที่ใส่ถุงมือ สอดเข้าไปตรวจดู อีกมือหนึ่งคลำหน้าท้อง เพื่อตรวจดูว่ามดลูกโตผิดปกติหรือไม่ มีเนื้องอกหรือมีการอักเสบหรือไม่”

อย่างไรก็ดี ศ.นพ.ภิเศก ประธานราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ทิ้งท้ายในเรื่องนี้ไว้ว่า“เรื่องแบบนี้เกิดน้อยมาก หรือแทบจะไม่เคยพบเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนเลย เพราะเรามีมาตรการข้อหนึ่งที่สูตินรีแพทย์ทุกคนต้องยึดปฏิบัติ นั่นก็คือ การตรวจภายในทุกครั้ง จะต้องมีบุคคลที่ 3 ซึ่งเป็นเพศหญิง (ผู้ช่วยแพทย์, พยาบาล, ผู้ช่วยพยาบาล) อยู่ในห้องตรวจภายในด้วยเสมอ และถ้าไม่มีบุคคลที่ 3 อยู่ในห้องตรวจ คนไข้สามารถปฏิเสธการรักษาได้ทันที”

“ฉะนั้น ผมไม่อยากให้เรื่องนี้กลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนไข้เกิดความกลัว จนไม่กล้าตรวจภายใน เพราะการตรวจภายในเป็นสิ่งที่คนไข้ต้องให้ความใส่ใจและตรวจเช็กอยู่เสมอ โดยเฉพาะมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นเรื่องที่สตรีไม่ควรมองข้าม หรือปล่อยปละละเลย” ศ.นพ.ภิเศก กล่าว.