วันที่ 26 มิ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางกฤติกา ฤทธิ์ขันธ์ อายุ 33 ปี ชาว จ.มุกดาหาร ว่าได้ไปรักษาฟันคุดที่โรงพยาบาลใน จ.นราธิวาส เมื่อ ม.ค. 58 แพทย์ได้ผ่าตัดเอาฟันคุดออกให้ และได้ทำอุปกรณ์แพทย์คือหัวกรอฟันติดอยู่ในเหงือก และไม่สามารถเอามาได้เป็นเวลา 5 ปี เคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแล้ว แต่ไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบ ปัจจุบันมีอาการชาที่ปาก ลามถึงหูและประสาท
นางกฤติกาบอกว่า สิ่งที่คุณหมอบอกตนคือ มันเป็นแค่พลาสติกอันเล็ก ๆ ปลอดภัย ฆ่าเชื้อแล้ว ถ้าแผลประสานมันจะลอยขึ้นมาเองไม่ต้องห่วง หลังจากนั้นปากด้านขวาก็ชา ลิ้นรับรสไม่ได้ กลับไปหาหมอ หมอบอกผลข้างเคียงจากการผ่าฟันคุด อาจมีอาการ 6 เดือนถึง 2 ปี ให้กินยาดูอาการไปก่อน
ต่อมาตนได้ย้ายตามสามีมาอยู่ที่ จ.มุกดาหาร แต่ก็พยายามตามอาการอยู่ตลอด จนตอนนี้ผ่านมา 5 ปีแล้ว ปากมันยังชาอยู่ และเมื่อไม่นานมานี้ ไปหาหมอก็พบว่ามีอาการติดเชื้อที่เหงือก เอ็กซเรย์ปรากฏว่าอุปกรณ์แพทย์มันก็ยังอยู่ มันไม่ได้ลอยออกมาอย่างที่หมอบอก แต่หมอคนใหม่ก็ไม่รับประกันว่าถ้าผ่าแล้วอาการชาของปากมันจะดีขึ้น ให้รักษาไปตามอาการเท่านั้น ตนจึงโทรกลับไปหาหมอต้นเรื่อง เพราะคิดว่าจะได้รับความเห็นใจแต่กลับถูกปฏิเสธให้การช่วยเหลือ จึงได้เขียนหนังสือร้องเรียนไปที่ทันตแพทยสภา ขอให้ช่วยคุยกับหมอให้ ซึ่งสภาบอกไม่มีอำนาจทำในสิ่งที่เรียกร้องให้ได้
ตนอยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบหาทางเอาหัวกรอฟันที่ติดอยู่ในเหงือกออกโดยปลอดภัย และหากมีกองทุนในการเยียวยาก็อยากได้รับการชดเชยในสิ่งที่ได้สูญเสียไปทั้งร่างกาย ชีวิตและทรัพย์สิน จึงขอความเป็นธรรมและเห็นใจให้กับตนเอง
https://youtu.be/yKhaI7GVWVs
