หมอโรงพยาบาลชื่อดัง เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังถูกคนไข้คุ้มคลั่งคว้ากรรไกรพุ่งเข้าหวังทำร้ายร่างกาย เจ้าตัวเห็นทันใช้แฟ้มเหล็กกันไว้ได้หวุดหวิดก่อนจะตะลุมบอนแย่งกรรไกรออกจากมือผู้ป่วย ก่อนจะจับฉีดยาให้สงบ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 10 ธ.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเกิดเหตุแพทย์หญิงถูกผู้ป่วยใช้กรรไกร ทำร้ายร่างกายขณะออกตรวจคนป่วยในหอผู้ป่วยใน ภายในรพ.ของรัฐแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น พร้อมทั้งมีการส่งคลิปภาพเหตุการณ์มาเพื่อตรวจสอบหลังรับแจ้งจึงทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพบว่าเกิดเหตุขึ้นจริงที่โรงพยาบาลของรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง ของ จ.ขอนแก่น
ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปยังคุณหมอที่อยู่ในภาพ ทราบชื่อต่อมาคือ พญ.เอ (นามสมมุติ) เจ้าตัวไม่ขอเปิดเผยชื่อและ โรงพยาบาลฯ ครับ โดย พญ.เอ อายุ 25 ปี แพทย์ปฎบัติการโรงพยาบาลของรัฐ ชื่อดัง บอกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงออกตรวจคนไข้ในหอผู้ป่วยใน ช่วงเวลา 10.00-11.00 ของวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการออกตรวจผู้ป่วยตามปกติ เรียงลำดับจากผู้ป่วยหนัก ระดับกลาง และเบา ขณะตรวจผู้ป่วยอยู่นั้น ผู้ที่ก่อเหตุได้ตะโกนบ่น และโวยวายว่าหมอตรวจช้า จนเกิดความวุ่นวายขึ้น ซึ่งแพทย์ทุกคน เข้าใจอารมณ์ของผู้ป่วย จึงได้รายงานให้ผู้บริหารทราบ และมีเจ้าหน้าที่ รปภ.ขึ้นมาดูแลความเรียบร้อยภายในห้องผู้ป่วย
" ผู้ที่ก่อเหตุเป็นผู้ป่วย ที่ก่อความวุ่นวาย และถูกเจ้าหน้าที่ รปภ. ควบคุมตัวเพื่อสงบสติอารมณ์และนอนนิ่งที่เตียงพักของตัวเอง ซึ่งเมื่อเหตุการณ์สงบลง รปภ.จึงกลับไปปฏิบัติหน้าที่ในจุดอื่น ซึ่งในช่วงจังหวะที่ตนเองเดินตรวจผู้ป่วย มาจนถึงใกล้เตียงของผู้ป่วยรายดังกล่าว อยู่ๆผู้ป่วยรายดังกล่าวก็ลุกขึ้นมาล็อคคอ เงื้อกรรไกรแทงที่ลำคอของตนเองทันที แต่โชคดีที่ขณะนั้นถือแฟ้มเหล็กตรวจคนไข้อยู่ จึงยกแฟ้มขึ้นมาป้องกันตัว แต่ยังถูกผู้ป่วยแทงซ้ำ จึงได้ใช้แฟ้มป้องกันตัวพร้อมทั้งร้องขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งพยาบาล รปภ.และญาติผู้ป่วยมาช่วยเอาไว้ ซึ่งขณะล็อคคอหมอ ผู้ป่วยพูดคำว่า ตรวจช้าแบบนี้ เราก็มาตายพร้อมๆกัน”
พญ.เอ กล่าวต่ออีกว่า หลังเกิดเหตุญาติของผู้ป่วยได้เข้ามาดูแลและปลอบผู้ป่วยจนมีอาการสงบ พร้อมทั้งมาขอโทษ ซึ่งทีมนิติกรของ โรงพยาบาล ได้พาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชุมแพ ซึ่งได้มีการนำภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว
"การแจ้งความเอาผิดกับผู้ป่วยรายดังกล่าวนั้น เนื่องจากว่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของตัวเองและคนอื่นๆ ทั้งๆที่ที่ผ่านมา หมอก็ทำหน้าที่ตัวเอง ในการดูแลผู้ป่วยให้ดีที่สุด และไม่เคยมีปัญหาใดๆเกิดขึ้น ส่วนผู้ป่วยรายที่ก่อเหตุ หมอเคยเจอและตรวจผู้ป่วยรายนี้ 2-3 ครั้งด้วยอาการแพ้ ซึ่งทุกครั้งผู้ป่วยจะบอกว่าตัวเองเป็นประชาชน 1 ใน 5 ของผู้ป่วยที่มีอาการแพ้ทุกอย่างโดยไม่ทราบสาเหตุ และไปตรวจมาหลายที่แล้ว ซึ่งก็รับฟัง และเมื่อมาหาหมอที่โรงพยาบาล หมอก็ทำการรักษาดูแลเหมือนๆกับผู้ป่วยรายอื่นๆ ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เมื่ออาการดีขึ้นผู้ป่วยก็กลับบ้าน ครั้งล่าสุดมาที่โรงพยาบาลในวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการเดิมๆและขอนอนในโรงพยาบาล หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ดูแลผู้ป่วยตามอาการ แต่เหมือนผู้ป่วยไม่พอใจ กระทั่งมาเกิดเรื่องใช้กรรกรแทงหมอดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุ แพทย์จิตเวชน์ประจำโรงพยาบาลตรวจแล้วก็ไม่พบว่าป่วยทางจิตแต่อย่างใด"
พญ.เอ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หลังเกิดเหตุ มีการเล่าขานปากต่อปากว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวนั้น มักจะพูดและสื่อสารกับคนอื่นๆว่าตัวเองเป็นลูกเทพ ลูกเทวดา เพราะบิดามารดา มีลูก 5 คน 4 คนตายหมด เหลือตัวเองเป็นลูกคนเดียว เพราะเทพส่งตัวเองมาเกิด หากใครไม่ทำตามความต้องการ จะมีอันเป็นไป และในบางครั้งก็จะคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง และว่าตัวเองคุยภาษาเทพ มนุษย์ทั่วไปจะไม่รู้เรื่อง ทั้งนี้โดยส่วนตัวคิดว่า สิ่งที่เล่าขานกันมานั้นอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน แต่ถ้าเป็นลูกเทพจริง ไม่น่าจะก่อเหตุในลักษณะพยายามฆ่าหมอเช่นนี้ เพราะเรื่องความปลอดภัยของหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานนั้นก็สำคัญไม่กว่าผู้ป่วยทุกราย และหมอก็ทำการรักษาผู้ป่วยให้หายจากอาการป่วยไข้และมีความปลอดภัยกลับไปอยู่บ้านใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ก็อยากให้โรงพยาบาลมีมาตรการที่เข้มงวดกว่านี้ เพราะบุคลากรทุกคนล้วนแต่ทำหน้าทีของตัวเอง และไม่อยากให้เกิดความสูญเสีย
