โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หมอชาญชัย"เผยตาหมาก"

ไทยโพสต์

อัพเดต 02 ก.ค. 2563 เวลา 17.01 น. • เผยแพร่ 02 ก.ค. 2563 เวลา 17.01 น. • ไทยโพสต์

          ไม่ได้คุยเรื่อง "หมอชาญชัย" ซะนาน วันนี้คุยกันลืมกันหน่อย

            ยังจำกันได้ใช้มั้ย?

                หมอชาญชัย ผอ.รพ.ขอนแก่น ที่บริหารโรงพยาบาลจากที่คนก่อนๆ ทำติดลบไว้กว่า ๒๐๐ ล้าน

                นอกจากบริหารล้างหนี้ได้หมดแล้ว ยังทำให้โรงพยาบาลมีสภาพคล่องด้วยตัวเลขบวกอีกกว่า ๒๐๐ ล้าน

                แต่ด้วย "บัตรสนเท่ห์" ที่ "น่าสนเท่ห์" ใบเดียว

                กล่าวหาเรื่องเงินทอน ๕% บริษัทยา ถูกปลัดสาธารณสุข "นพ.สุขุม กาญจนพิมาย" ย้ายเข้าประจำกระทรวง

                นอกจากตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้ว

                ในคำสั่ง "ปลัดสุขุม" ยังแถมเหน็บชายโครงเป็นแผลค่อนข้างฉกรรจ์เชิงอาญา ว่า

                หมอชาญชัย "มีพฤติกรรมข่มขู่พยาน"

                ต้องย้าย..ต้องย้าย ………

                ให้ "หมอเกรียงศักดิ์" ผู้ขมังเวทไปนั่งแป้นหมอใหญ่แทนให้เสร็จสมอารมณ์ค้าง ซึ่งค้างคามาตั้งแต่ปี ๖๑!

                หน้าที่ผม คือหน้าที่ตามดู ก็ดูมาเรื่อยๆ เห็นบุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลทางการแพทย์ ออกมาเซฟหมอชาญชัยกันมากมาย

                ทั้งเรียกร้องธรรมาภิบาลจากปลัดฯ จากรัฐมนตรี จนถึงนายกฯ  ว่าการย้ายหมอชาญชัยนี้ น่าจะมีเบื้องหลัง

                และหมอที่ย้ายมาแทน……

                 คือ "หมอเกรียงศักดิ์" ประธานชมรมแพทย์ชนบทผูกขาด "ตัวละครร่วมฉาก" ก็…ยี้…ยี้

                จึงเกิดปรากฏการณ์ "วิกฤติศรัทธาปลัดสาธารณสุข" มดหมอยกคณะพากันเดินทางมาถึงหน้ากระทรวง หน้าทำเนียบฯ

                "เอาหมอเกรียงศักดิ์คืนไป เอาหมอชาญชัยกลับมา"!

                แต่……

                "ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากปลายสาย"

                ทั้งสายปลัดฯ สายรัฐมนตรี รวมทั้่งสายนายกรัฐมนตรี!?

                นานาประชาราษฎร์ (ประชารัฐไม่ยุ่ง มุ่งแต่แย่งเก้าอี้) เห็นหมอดีถูกรังแกก็อดรนทนไม่ได้ ออกมายุ

                "อย่างนี้ต้องฟ้อง"!

                ฟ้องไล่ขึ้่นไปตั้งแต่ปลัดปากแดงจนถึงรัฐมนตรีปากเป็นเอกนั่นเลย เอาให้เหมือนอย่างที่คุณถวิล เปลี่ยนศรี ฟ้องยิ่งลักษณ์ จนตกเก้าอี้หงายท้องขาชี้ฟ้านั่นแหละ

                นี่ก็จะเป็นเดือนแล้ว ………..

                เรื่องก็มายันตันอี๋อยู่แค่นี้ ที่คืบหน้าก็มีแค่เปลี่ยนคนนั้น-คนนี้ มาเป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนวินัย

                เปลี่ยนใครไป-ใครมา คนภายนอก ก็แค่ อ้อ..เหรอ คือรู้แค่ที่รู้ว่าเปลี่ยน

                แต่คนใน คือในวงการมดหมอและการสาธารณสุข ซุบๆซิบๆ" ด้วยไก่เห็นตีนงู-งูเห็นนมไก่"

                แต่ไม่อาวววว…ไม่พูด

                "รู้อะไรไม่สู้ รู้ทางลม" เข้าฤดูกาลแต่งตั้ง-โยกย้ายแล้วด้วย จะปากพาซวยไปทำไม ประมาณนั้น

                เนี่ย….

                สถานการณ์หมอชาญชัย เหมือนหมากรุกถูกบีบตาเดิน จะขยับแต่ละตาต้องคิดหนัก มาเมื่อวาน (๒ ก.ค.๖๓) เห็นขยับเห็นแล้วอยากจะออกปาก

                "สุขุมคัมภีรแผน" เอาการ!

                แสดงว่า ที่เงียบไป ไม่ใช่แอบหน้าร้องไห้กับข้างฝา คงไปเสาะแสวงหาพบอาจารย์ดี ได้ถ่ายทอดวิชา "ฝ่ามือพิฆาตมารปากแดง" มาแน่ๆ

                คือเมื่อวาน หมอชาญชัยไปพบรัฐมนตรีอนุทิน นักข่าวก็ไปซักถาม มาพบด้วยเรื่องอะไร หมอชาญชัยก็บอกว่า

                จะมาเรียนให้ท่านรัฐมนตรีทราบว่า "ไม่คัดค้าน"

                ที่เปลี่ยนตัวประธานสอบคนใหม่เป็น "พญ.อัมพร เบ็ญจพลพิทักษ์" ผู้ตรวจราชการกระทรวง

                แต่ที่ผมบอกหมอชาญชัย "สุขุมคัมภีรแผน" ซ่อนอยู่ในคำตอบนักข่าว จะยกมาให้ดู

                นักข่าวถาม "พญ.อัมพร มาเป็นประธานสอบแล้ว จะดำเนินการอะไรต่อไปไหม?"

                 หมอชาญชัยตอบว่า…….

                "ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลายื่นเรื่องไปถึงศาลปกครอง เพราะมีเงื่อนเวลา

            ตอนนี้ ยื่นไปแค่ที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) เกี่ยวกับเรื่องการร้องทุกข์ที่โดนย้ายมา แต่ก็ร้องไปที่ปลัดฯ ด้วย"

            สำหรับการเรียกร้องถึงเรื่องการสอบวินัยเขามีขั้นตอนอยู่แล้ว อย่างศาลจะเป็นแบบนี้, อัยการจะเป็นแบบนี้

            แม้แต่ ก.พ.ค. เขาก็มีว่าเรื่องที่ ๑ คณะไหน เรื่องที่ ๒ คณะไหน แม้แต่ข้อมูลข่าวสารที่ผมไปขอ ไปยื่นเรื่อง เขาก็จะเรียงไว้แล้ว เหมือน Double Blind

            เราไม่รู้จักกัน ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ เลือกคนนี้มาพิจารณา กระบวนการยุติธรรม ก็ต้องเป็นกระบวนการยุติธรรม"

            ผมถอดรหัสพันธุกรรมคำพูดหมอชาญชัยแล้ว ต้องชะเง้อหาปลัดฯ สุขุม ด้วยสิเนหาและห่วงใย

                บั้่นปลาย "หลังเกษียณ" งานหลัก น่าจะเป็นการเวียนขึ้นศาลนะท่าน!

                เพราะดูที่หมอชาญชัยตอบนักข่าว แสดงว่าได้ร่ำเรียนวิชาแก้อาถรรพณ์ครบจบพระเวทแล้ว ถึงได้ร่ายขั้นตอนตามระเบียบก.พ.ค.เป็นฉากๆ

                นี่เรียก "เป็นมวย" ศึกษากติกามาแล้วอย่างดี แบบนี้ ไม่มีฟาวล์

                คือ คิดอย่างเราๆ เมื่อถูกกลั่นแกล้ง ก็ฟ้องศาลปกครองเลย เอาอย่างคุณถวิลฟ้องยิ่งลักษณ์

                ก็ใช่……..

                แต่มันไม่ใช่!

                อย่างหมอชาญชัยจาระไนนั่น "มาถูกทางแล้ว" กฎกติกามารยาทของข้าราชการเขามี เมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม จะปุบปับฟ้องศาลเลย

                ไม่ได้ ….

                มันข้ามขั้นตอนระบบราชการเขา เพราะข้าราชการเขามี พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน เป็นถนนให้เดิน

                มี "คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม" (ก.พ.ค.) ทำหน้าที่ตุลาการของข้าราชการ พิจารณาด้านจรรยาบรรณ วินัย การอุทธรณ์ การร้องทุกข์

                เนี่ย…

                ที่สงสัยทำไมหมอชาญชัยไม่ฟ้องซักที ก็เป็นอย่างหมอชาญชัยบอก คือ "ยังไม่ถึงเวลายื่นเรื่องไปที่ศาลปกครอง"

                ต้องตั้งหลัก เดินตามกติกาไปแต่ละสเต็ป

                ไปร้องขอความเป็นธรรมกับปลัดฯ เป็นหลักฐานไว้ก่อน แล้วไปยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.

                ก.พ.ค.พิจารณาวินิจฉัยได้เรื่องอย่างใดแล้ว ก็จะแจ้งไปตามสายงานบังคับบัญชา จนถึงนายกฯ

                ว่าเรื่องนี้ ได้ความอย่างนี้ ผู้บังคับบัญชาต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามวินิจฉัยอย่างนี้..อยางนี้

                ถึงตอนนี้แหละ เราพอใจ-ไม่พอใจ อย่างไร ฟ้องศาลปกครองได้ทันที!

                ถ้าข้ามหัว ก.พ.ค.ไปฟ้องศาลปกครองเลย อาจซวยทีหลัง คือจะย้อนเอาไปร้อง ก.พ.ค.ไม่ได้

                อย่างกรณีคุณถวิล

                เขาไปร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ก่อน  ก.พ.ค.ใช้เวลาร่วมปี ถึงได้มีคำวินิจฉัยออกมา "ยกคำร้อง" คุณถวิล

                จากนั้น คุณถวิลถึงได้ฟ้องศาลปกครอง และศาลตัดสินว่า

                "………….การที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 152/2554 ลงวันที่ 7 ก.ย.54 ให้ผู้ฟ้องคดีไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เกิดจากกระบวนการโอนที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอนหรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับการโอนข้าราชการ

            และเป็นการใช้ดุลพินิจโดยไม่สมเหตุสมผลซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย

            ย่อมมีผลให้ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 30 ก.ย.54 ที่ให้ผู้ฟ้องคดีพ้นจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(นักบริหารระดับสูง) สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายไปด้วย"

            วันนี้ เอาเท่านี้ละมัง ……….

                คุยแล้วมันยาว ฉะนั้น พักไว้ก่อน แต่คิดว่า คุณปลัดฯ ฟังที่หมอชาญชัย "เผยแต้ม-แย้มไต๋" ตรงนี้แล้ว อาจหนาวไข้หวัดหมูก็ได้นะ

                ส่วนท่าน "เจ้ากระทรวง" น่ะ….

                ผมก็ห่วงนะ!

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0