โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หมดอนาคต! โจ๋กร่างตามฟันคู่อริคา รพ.นาแก ศาลตัดสินจำคุก 12 ปี เจอข้อหาหนัก ทั้ง 3 ราย ฐานพยายามฆ่า ดิ้นยื่นอุทธรณ์ ลุ้นสู้คดีต่อ

อีจัน

อัพเดต 20 เม.ย. 2562 เวลา 07.11 น. • เผยแพร่ 20 เม.ย. 2562 เวลา 07.05 น. • อีจัน
หมดอนาคต! โจ๋กร่างตามฟันคู่อริคา รพ.นาแก ศาลตัดสินจำคุก 12 ปี เจอข้อหาหนัก ทั้ง 3 ราย ฐานพยายามฆ่า ดิ้นยื่นอุทธรณ์ ลุ้นสู้คดีต่อ
วานนี้(19 เม.ย. 62) คืบหน้า เกี่ยวกับคดีวัยร&…

วานนี้(19 เม.ย. 62) คืบหน้า เกี่ยวกับคดีวัยรุ่น ชาว อ.นาแก จ.นครพนม ก่อเหตุอุกอาจ ทะเลาะวิวาทกับคู่อริกลางร้านเหล้า ในเขตเทศบาลตำบลนาแก เมื่อคืนวันที่ 17 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย จากนั้นได้มีชาวบ้านผู้พบเห็นนำภาพเหตุการณ์ขณะก่อเหตุหน้าร้านเหล้า และภาพวงจรปิดขณะก่อเหตุที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอำเภอนาแก ไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่อุกอาจ เย้ยกฎหมาย

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.มานพ มั่นยิ่ง ผกก.สภ.นาแก จ.นครพนม ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนรวบรวมหลักฐาน สอบสวนพยาน ในเหตุการณ์ และทำการจับกุมผู้กระทำผิด คือ นายอธิชยนนท์ โชคพัฒนเชษฐ์ อายุ 37 ปี ชาว ต.บ้านแก้ง อ.นาแก จ.นครพนม , นายปฏิพล พรมโสภา อายุ 25 ปี ชาว ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม , นายนลธวัช พลโสภา พรมโสภา อายุ 22 ปี และ นายวันชนะ วระวงศ์ อายุ 30 ปี โดยเบื้องต้น หลังเกิดเหตุทางตำรวจ ได้ ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด ฐานความผิดทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทาง นายอธิชยนนท์ โชคพัฒนเชษฐ์ อายุ 37 ปี ได้ให้การรับสารภาพ ก่อนนี้ เมื่อเดือนเมษายน 2561 ศาลจังหวัดนครพนม ได้ ตัดสินจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา อยู่ระหว่างการยื่นอุทธรณ์ต่อศาล

ส่วน นายปฏิพล พรมโสภา อายุ 25 ปี ชาว ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม พร้อมพวก คือ นายนลธวัช พรมโสภา อายุ 22 ปี และ นายวันชนะ วระวงศ์ อายุ 30 ปี ถูกดำเนินคดีในข้อหาหนัก ต่างกรรมต่างวาระ เนื่องจากมีหลักฐาน จากภาพวงจรปิด ร่วมกันก่อเหตุ นำอาวุธมีดเข้าไป บุกไล่ฟันทำร้ายร่างกาย คู่อริ บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอำเภอนาแก จึงถูกดำเนินคดีเพิ่มในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น และตำรวจได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมด ให้การปฏิเสธต่อสู้คดี

ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2562 ศาลจังหวัดนครพนม ได้อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ อ.4507/2561 คดีหมายเลขแดงที่ อ.1625/62 กรณีอัยการจังหวัดนครพนม เป็นโจทก์ ร่วมกับ นายอธิชยนนท์ โชคพัฒนเชษฐ์ อายุ 37 ปี และแฟนสาว คือ น.ส.ชิดชนก ธรรมมาบุญ อายุ 30 ปี เป็นโจทก์ร่วมฟ้อง ดำเนินคดีกับจำเลย คือ นายปฏิพล พรมโสภา อายุ 25 ปี นายนลธวัช พลโสภา อายุ 22 ปี และ นายวันชนะ วระวงศ์ อายุ 30 ปี ในข้อหาความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ ลหุโทษโดยมีคำพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80,295,358,371,391 ประกอบมาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่น ไม่ถึงเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ กับ ฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และ ฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ เป็นการกระทำกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 2 เดือน

นอกจากนี้ ยังมีฐานความผิด ร่วมกันพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร ปรับคนละ 900 บาท ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น จำคุกคนละ 12 ปี รวมจำคุกคนละ 12 ปี 2 เดือน และปรับคนละ 900 บาท ทั้งนี้ในทางนำสืบของจำเลยทั้งสาม ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง จึงพิจารณาลดโทษให้คนละกระทงหนึ่งในสาม คงจำคุกคนละ 8 ปี 1 เดือน 10วัน และปรับคนละ 600 บาท หลังสิ้นสุดคำพิพากษา จำเลยทั้งสามถูกควบคุมตัวไปขังไว้ในห้องขังใต้ถุนศาลจังหวัดนครพนม โดยมีญาติยื่นขอประกันตัว และศาลจังหวัดนครพนม อนุญาตให้ประกันตัว ในหลักทรัพย์วงเงิน คนละ 350,000 บาท
สำหรับคดีดังกล่าว ถือเป็นคดีอุทาหรณ์ สำหรับกลุ่มวัยรุ่น ที่ชอบก่อเหตุทะเลาะวิวาท รวมถึง ก่อเหตุอุกอาจ บุกทำร้ายร่างกาย คู่อริ ในสถานที่สำคัญ รวมถึงห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลต่างๆ ที่เคยเป็นข่าวบ่อยครั้ง โดยคดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่าง สำหรับกลุ่มเยาวชน ที่ชอบก่อเหตุวุ่นวาย และชอบทำร้ายร่างกายคนอื่น สุดท้ายมีความผิดถึงขั้นติดคุกหมดอนาคต

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0