โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

กีฬา

หน้าหวานรสมือไม่หวาน! ทำความรู้จัก อัลมา ยูนิคู นักสู้สาวสวยชาวออสซี่

MThai.com

เผยแพร่ 23 ต.ค. 2562 เวลา 14.52 น.
หน้าหวานรสมือไม่หวาน! ทำความรู้จัก อัลมา ยูนิคู นักสู้สาวสวยชาวออสซี่
อัลมา ยูนิคู นักสู้สาวชาวออสเตรเลียอาจจะมีหน้าตาที่สวยหวาน แต่รสมือของเธอนั้นเรียกได้ว่าไม่หวานเหมือนรูปลักษณ์แม้แต่น้อย

อัลมา ยูนิคู นักสู้สาวชาวออสเตรเลียอาจจะมีหน้าตาที่สวยหวาน แต่รสมือของเธอนั้นเรียกได้ว่าไม่หวานเหมือนรูปลักษณ์แม้แต่น้อย

แฟนๆ ผู้รักศิลปะการต่อสู้ อาจคุ้นชื่อ อัลมา ยูนิคู กันมาบ้างแล้ว แม้เธอจะมีอายุเพียง 18 ปี แต่ชื่อเสียงในวงการมวยของเธอถือว่ามีความโดดเด่นอยู่ในระดับโลกทีเดียว การันตีด้วยดีกรีแชมป์มวยไทย IPCC และแชมป์ WBC มวยไทยที่กระชากเข็มขัดมาได้จากนักชกสาวไทยชื่อดัง ซาซ่า ศ.อารีย์ ด้วยการชนะทีเคโอ.เมื่อเดือนธันวาคม 2561 จนส่งผลให้เธอได้รับรางวัลนักมวยยอดเยี่ยมแห่งปี 2018 จาก WBC ด้วย

ก่อนที่เธอจะก้าวมาเป็นนักมวยสาวในสังกัด วัน แชมเปียนชิพ อย่างทุกวันนี้ ชีวิตในวัยเด็กของเธอไม่ได้สวยใสเหมือนหน้าตา ครอบครัวของ อัลมา ย้ายจากแอลเบเนียมาอยู่ออสเตรเลียโดยไม่มีทรัพย์สินติดตัว พวกเขาอาศัยอยู่ในย่านที่ไม่ค่อยดีนักทางตอนใต้ของบริสเบน ด้วยสภาพแวดล้อมเหล่านั้นมันบีบบังคับให้เธอต้องเข้มแข็งเกินกว่าเพศและวัยที่ควรจะเป็น

“เมืองที่เราอยู่คือ โลกัน ซิตี้ เต็มไปด้วยความรุนแรงและอาชญากรรม ที่ๆ ฉันอยู่ไม่ได้ร้ายแรงมาก แต่มันก็ลำบากพอสมควร จนทำให้ฉันเป็นฉันอย่างทุกวันนี้”

“ตอนเด็กๆ ฉันค่อนข้างดื้อ และเอาแต่สนุกไปวันๆ พ่อแม่ของฉันเป็นคนเจ้าระเบียบ และทำงานหนักเพื่อครอบครัว เพราะว่าพวกเราไม่มีอะไรเลยตอนมาอยู่ที่ออสเตรเลีย มันจึงเป็นบทเรียนที่สอนให้เรารู้ว่า อยากจะได้อะไร ก็ต้องลงมือทำเอง”

อัลมา ฉายแววเป็นนักฟุตบอลตั้งแต่วัยเยาว์ ตามรอยเท้าของผู้เป็นพ่อ แต่เธอกลับทิ้งรองเท้าสตั๊ด หลังจากที่ได้รู้จักมวยไทย และหันมาสวมนวมแทน

“พ่อของฉันเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ตอนฉันเด็กๆ พ่อชอบหยิบฟุตบอลออกมาเล่นและเตะด้วยกัน พอฉันอายุได้สัก 5-6 ขวบพ่อก็เริ่มส่งฉันไปเรียน”

“เพื่อนบ้านแนะนำให้ฉันรู้จักมวยไทย เขาบอกว่า ลองดูสิ มันสนุกดีนะ และชวนให้ฉันลองไปซ้อมดู ตอนนั้นฉันอายุ 8 ขวบ ทีแรกพี่ชายฉันเริ่มก่อน ฉันกับพี่สาวก็ไปยืนดู ฉันไม่รู้หรอกว่ามันคือกีฬาสำหรับผู้หญิงหรือเปล่า แต่พี่ชายบอกว่ามันสนุกดี หลังจากนั้นฉันกับพี่สาวก็เลยตามไปซ้อมด้วย สุดท้ายพวกเราก็ตกหลุมรักกีฬาชนิดนี้”

ความสนใจมวยไทยไม่ใช่เพียงเพราะใช้ป้องกันตัว แต่เป็นความชอบส่วนตัวที่ต้องเรียกว่าเป็นรักแรกพบ ซึ่งนั่นทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตา ถูกเพื่อนที่โรงเรียนมองว่าเป็นตัวตลก ที่เป็นเด็กผู้หญิงต่อยมวย และพากันล้อเลียนตั้งแต่นั้น

หลังจากฝึกมวยได้ราวหนึ่งปี อัลมา ก็เริ่มขึ้นสังเวียนแข่งขัน เช่นเดียวกับพี่ชายและพี่สาว ทั้งสามแบ่งปันประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเข้ายิมฝึกซ้อมด้วยกัน จนอาจเรียกได้ว่า ยิมเป็นบ้านหลังที่สองของพวกเขาไปแล้ว

“พ่อของพวกเราผิดหวังมาก ท่านอกหักเลยล่ะที่พวกเราทุกคนไม่มีใครเล่นฟุตบอลเลย พ่อหวังว่าพวกเราจะมีอาชีพเป็นนักฟุตบอลเหมือนท่าน ส่วนแม่ก็กลัวฉันจะเจ็บตัว แต่ท่านคิดว่าคงไม่แย่เกินไปหรอกมั้ง จากนั้นก็ค่อยๆ ชินไปเอง”

“พอฉันเริ่มโตขึ้นและแสดงให้พ่อกับแม่เห็นความตั้งใจจริงๆ ท่านก็สนับสนุนพวกเราทุกอย่าง ถึงแม้จะให้ได้ไม่มาก แต่ก็ให้เต็มที่เท่าที่ท่านสามารถจ่ายได้ เพื่อให้พวกเราได้ฝึกฝนในสิ่งที่รัก และท่านก็ดีใจเมื่อพวกเราประสบความสำเร็จ”

อัลมา คว้าแชมป์เยาวชนระดับประเทศออสเตรลีย แชมป์ระดับอาชีพ และแชมป์โลก ปัจจุบันในวัย 18 ปี เธอถือเป็นนักมวยหญิงที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่งของวงการ ด้วยสถิติชนะ 24 แพ้ 5 ซึ่งหนึ่งในความพ่ายแพ้ของเธอมาจากการเผชิญหน้ากับนักชกสาวไทยเจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก ONE สองเส้น “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ในนัดท้าชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต เมื่อ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่เซี่ยงไฮ้

“ตั้งแต่ไฟต์แรก จนถึงวันนี้ ฉันยังหลงรักทุกอย่างบนสังเวียน ฉันชอบเวลาที่ยืนอยู่บนนั้น ฉันมีความกระหายที่อยากจะโชว์ศักยภาพของตัวเอง กระหายชัยชนะ และฉันชอบความรู้สึกแบบนั้น”

ถึงวันนี้ อัลมา ยูนิคู ได้พิสูจน์แล้วว่า เสียงหัวเราะ ล้อเลียน หรือคำดูถูกเหยียดหยาม เป็นเพียงเครื่องมือในการผลักดันเธอสู่ความสำเร็จ แต่ไม่อาจเป็นตัวถ่วงชีวิตที่ทำให้เธอจมลงตามน้ำลายอันไร้ค่าของใคร

เรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจของเธอยังมีอีกมากมาย บอกได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้มีหลายมิติ และที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงด้านเดียวในชีวิตของเธอเท่านั้น และเธอยังบอกอีกว่า เธอยังมีด้านหวานๆ ของความเป็นผู้หญิงที่น่ารักน่าทะนุถนอม ซึ่งหากแฟนๆ อยากรู้ จะต้องติดตามอ่านกันต่อไปในโอกาสหน้า

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0