https://youtu.be/sIYoZmuF1cY
หนุ่มวัย 19 ปี ยืมรถเพื่อนขับมาซื้อของที่โลตัส ศรีนครินทร์ ขากลับ อ้างหลับในพุ่งชนร้านส้มตำขางถนน ก่อนจะพุ่งชนภรรยารองสารวัตรจราจรบางแก้วจนกระเด็นดับคาที่ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ร.ต.ต.อานนท์ แพรงาม รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีบัติเหตุรถยนต์เก๋งพุ่งชนร้านขายส้มตำหน้าตลาดสด เสรีไนท์ ถนนหลังวัดหนามแดง ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ นิสัน สีดำ ทะเบียน 1 กบ 8965 กทม.จอดอยู่กลางถนนในสภาพด้านหน้าพังยับเยิน และที่ริมถนนหน้าตลาดสดดังกล่าวพบรถจักรยานยนต์ถูกชนจนล้มอีก 2 คัน ใกล้กันได้พบร่างของผู้บาดบาดเจ็บจำนวน 2 ราย รายแรกชื่อนาย รัตนพล แสงตลาด อายุ 22 ปี และ นางสาวพรนภา แย้มสะเนาะ อายุ 22 ปี แฟนสาว นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดอยู่บนพื้นถนน เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ช่วยนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลบางพลี ห่างไปเล็กน้อยได้พบร่างของนางรินณะภา ขำละเอียด อายุ 45 ปี ภรรยาของรองสารวัตรจราจร สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ นอนเสียชีวิตอยู่กับพื้นถนนหน้าร้านขายส้มตำ ส่วนขายของในร้านส้มตำดังกล่าวถูกชนจนข้าวของกระจัดกระจาย
จากการสอบถามแม่ค้าร้านส้มตำ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและผู้บาดเจ็บกำลังยืนอยู่ที่รถจักรยานยนต์เพื่อรอส้มตำที่สั่งซื้อกับตนอยู่ที่หน้าร้านระหว่างที่ยืนรออยู่นั้น จู่ๆ รถเก๋งคันดังกล่าวที่ขับมาด้วยความเร็วจากทางด้านวัดหนามแดง ได้พุ่งชนกวาดเข้ามาที่หน้าร้านและพุ่งชนผู้ตายและผู้บาดเจ็บอย่างแรงจนกระเด็นออกไปกลางถนนทำให้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าวดังกล่าวส่วนข้าวของภายในร้านถูกชนจนข้าวของกระจัดกระจายได้รับความเสียหาย
ด้านนาย อดิศักดิ์ ประมวลศิลป์ อายุ 19 ปี ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ยืมรถของเพื่อนขับออกมาซื้อของที่ห้างโลตัส ศรีนครินทร์ และกำลังขับรถจะกลับบ้านขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุด้วยความเร็วเกิดหลับในจึงทำให้รถเสียหลักพุ่งเข้ามาชนผู้ตายและผู้บาดเจ็บที่นั่งคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านส้มตำดังกล่าว โดยยืนยันว่าตนเองไม่ได้ดื่มมาแต่อย่างใด แต่อาจเกิดจากการพักผ่อนน้อยเพราะเพิ่งเลิกงานมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ และทำให้ทรัพย์สินของผู้อื่นได้รับความเสียหาย ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป