หนุ่ม กะลา ลั่น เตรียมแถลงปมละเมิดลิขสิทธิ์เพลงยาม หลังถูกตามจับไม่หยุดตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทั้งที่ไม่เคยหนีและทำตามขั้นตอนกฎหมายโดยตลอด…
จากกรณีที่ นายบุญธรรม เพชรนารถ ผู้รับมอบอำนาจ บ.เพาเวอร์ เทรเชอร์ จำกัด หรือ ค่ายเพลงมิวสิคบักส์ พร้อมเจ้าหน้าที่บริษัท ได้เดินทางมายัง สภ.เพ ระยอง พร้อมนำหมายจับศาลอาญาจ.ชุมพร คดีอาญาที่ 583/2561 ออกเมื่อวันที่ 7 ธ.ค 2561 จับกุม นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ หนุ่ม นักร้องดัง วงกะลา ผู้ต้องหา คดีละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นโดยการเผยแพร่ต่อสาธารณชน ซึ่ง นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือหนุ่ม นักร้องนำ วงกะลา นำเพลง ชื่อ ยาม ของวงลาบานูน โดยมี บริษัทเพาเวอร์ เทีเชอร์ จำกัด เป็นเจ้าของเพลงดังกล่าว จึงนำหมายศาล แสดงต่อพ.ต.ต.สุทิน ขุมเงินสภ.เพ ระยอง เพื่อให้จับกุม ผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งนายณพสิน แสงสุวรรณ หนุ่มกะลา ได้เดินทางมาแสดงคอนเสิร์ต โดยแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม หนุ่มกะลา
หลังจากที่วงกะลา โดย นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือหนุ่ม กะลา พร้อมสมาชิกวงกะลา ได้ขึ้นแสดงคอนเสิร์ต ท่ามกลางแฟนเพลงที่เข้าชมกันแน่น เมื่อตรวจสอบด้านหลังเวทีมีเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเพ แม่งานเทศกาลดังกล่าว ยืนเรียงแถวกันอยู่ตรงปากทางเข้าออกหลังเวที โดยไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องผ่านเข้าออก จนกระทั่งการแสดงคอนเสิร์ตจบลง หนุ่มกะลาก็รีบกระโดดลงหลังเวที และ ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าขึ้นรถคันไหน ทางเจ้าหน้าที่บริษัทลิขสิทธิ์ ได้ยืนรออยู่ตรงทางเข้าออกหลังเวที โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจแม้แต่รายเดียวอยู่ภายในงาน ต่อมาได้มีรถตู้ติดฟิล์มทึบขับออกมาจากหลังเวที ทางเจ้าหน้าที่บริษัทต่างเข้าขวางรถตู้ที่คาดว่า หนุ่มกะลานั่งอยู่ในรถ โดยมีการนำรถขวางด้านหน้าไว้ จนเหตุการณ์เกิดชุลมุน โดยมีชายรูปร่างใหญ่เดินมาข่มขู่ให้ถอยรถออก จนสุดท้ายอีกฝ่ายยอมเปิดทางให้ เพราะไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ ทำให้มีรถอีกหลายคันขับตามกันออกมา แล้วรีบขับออกไปจากงานอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่มีการจับกุม
ต่อมา นายบุญธรรม เพชรนารถ ผู้รับมอบอำนาจ บ.เพาเวอร์ เทรเชอร์ จำกัด หรือ ค่ายเพลงมิวสิคบักส์ ได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เพ กรณีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องหา ทั้งๆที่มีหมายศาลมาแสดง จึงเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157 ซึ่งพยายามโทรติดต่อหลายครั้งแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งการเข้าจับกุมก็ไม่ได้จับกุมขณะแสดง แต่เป็นการจับกุมหลังการแสดงจบ จึงไม่มีผลกระทบต่องาน ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด
ล่าสุด หนุ่ม กะลา ได้โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียทั้งอินสตาแกรม และเฟซบุ๊กของตนเอง โดยระบุข้อความว่า “นี่คดีลิขสิทธิ์หรือฆ่าคนตาย? ทีผ่านมาเรื่องนี้ผมยอมรับผิดตั้งแต่นาทีแรกที่รู้ว่าละเมิด และ1ปีที่ผ่านมาผมพยายามจะไม่พูดพาดพิงบุคคลหรือหน่วยงานใดๆ แต่เหมือนผมจะโดนกระทำแบบไม่หยุดหย่อน ทั้งที่ผมไม่เคยหลบหนีและยังทำตามขั้นตอนตามกฏหมายมาโดยตลอด ขอเวลานิดนะครับแล้วผมจะมาแถลงความเป็นจริงทั้งหมดอีกครั้งครับ ขอบพระคุณทุกๆ ความรักและความเป็นห่วงครับ”
A post shared by NKL (@numkala) on Dec 9, 2018 at 11:12pm PST
