โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หนุ่มใหญ่สายเปย์ช้ำ ถูกสาวหลอกโอนเงิน 4 ล้านใน 2 ปี แม้แต่หน้าก็ไม่เคยเห็น

คมชัดลึกออนไลน์

อัพเดต 10 ก.ค. 2563 เวลา 04.19 น. • เผยแพร่ 10 ก.ค. 2563 เวลา 03.41 น.

เมื่อวานนี้ (9 ก.ค.2563) นายเอก (นามสมมุติ) หนุ่มใหญ่วัย 53 ปี ชาว จ.สระบุรี เดินทางพร้อมน้องสาวและคุณแม่เข้าร้องต่อทนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ที่สำนักงานทนายคู่ใจย่านแจ้งวัฒนะ หลังเจ้าตัวได้รู้จักกับหญิงสาวชาวเหนือผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว และถูกหลอกให้โอนเงินกว่า 4 ล้านบาท

นายเอก เปิดใจเล่าว่า ตนได้รู้จักกับนางสาวนิภาพร หรือ น้องแจง อายุ 32 ปี ผ่านทางเฟซบุ๊กและคุยมาตลอด 2 ปี ขณะนั้นตนทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง จ.ปทุมธานี ด้วยความที่ตนเป็นพ่อหม้ายตามหารักแท้ จึงตกลงคบหากับน้องแจง โดยที่ฝ่ายหญิงได้มีการเขียนหนังสือสัญญาว่าจะใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันกับ นายเอก ฉันสามีภรรยา จึงทำให้นายเอกหลงรักและเชื่อใจ อยากใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันรวมถึงอยากช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ

 

หลังเริ่มคบสักระยะก็มีเหตุการณ์ที่ น้องแจง เอามากล่าวอ้าง ว่าพ่อเสียชีวิตขอค่าทำศพไม่นานก็ส่งรูปงานศพแม่ให้โอนเงินค่าจัดงานศพ จากนั้นก็อ้างว่าจะเข้าทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่งที่โดยจะต้องใช้เงินประกันการทำงาน หลังจากนั้นอีก 4-5 เดือนก็บอกจะมาทำงานที่สุวรรณภูมิเพื่ออ้างขอเงินกับตนอีก

 

รวมทั้งยังอ้างถึงที่ดิน จ.เชียงราย และขอเงินไถ่ถอนเพื่อเอาออกมาขายและจะใช้หนี้ให้ทั้งหมด แต่หลังจากโอนไปก็ยังอ้างต่อว่าติดปัญหาคนที่จะมาซื้อที่ดิน ถ้าตนโอนเงินจำนวน 1.3 ล้าน ซื้อที่ข้างเคียงเพื่อเป็นทางเข้าจะสามารถขายได้และเอาเงินมาใช้หนี้ นายเอกจึงหลงเชื่อและโอนให้เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ น้องแจง บอกว่าโดนคดียักยอกทรัพย์ที่ถูกฟ้องจากไฟแนนซ์รถยนต์ทำให้ต้องโอนเงินอีก 4.4 แสนบาท ด้วยความสงสาร

 

นายเอก เปิดใจว่าเงินทั้งหมดที่โอนไปให้ฝ่ายหญิงเป็นเงินที่ได้จากการเออร์รี่จากบริษัทที่ตนทำงานและส่วนหนึ่งก็เป็นการจำนำรถยนต์และจากบัตรเครดิต ปัจจุบันตนเหลือเงินติดตัวเพียงหมื่นกว่าบาท และยังเป็นหนี้อีกมากมายด้วยความหลงรักและอยากช่วยเหลือคนรัก

ยิ่งไปกว่านั้นพักหลังมา นายเอกเริ่มติดต่อฝ่ายหญิงยากขึ้น โดนบล็อกเฟซบุ๊ก บล็อกเบอร์โทรศัพท์ เหลือเพียงไลน์แต่ก็ไม่ค่อยตอบเหมือนก่อน โดยฝ่ายหญิงอ้างว่าทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย โทรศัพท์พังต้องยืมเพื่อนเพื่อติดต่อกับตน ก่อนเจ้าตัวจะสืบทราบจนได้ความมาว่า น้องแจง มีผู้ชายคนใหม่แล้ว ตนเริ่มหมดความเชื่อใจสงสัยและปรึกษากับครอบครัวได้รับคำแนะนำไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เสาไห้ จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา

 

ด้านทนายรณณรงค์ เเก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมกล่าวว่า ต้องตรวจสอบหลักฐานที่คุยเพิ่มเติมว่าจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงหรือเป็นการให้โดยเสน่ห์หา แต่เบื่องต้นมีการแจ้งความในพื้นที่ไว้เเล้วต้องตามต่อกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะดำเนินการอย่างไร

 

ยอมรับว่าไม่เคยเจอการโอนเงินให้อีกฝ่ายเป็นจำนวนเงินมากขนาดนี้ ทัังๆ ที่ไม่ได้เจอหน้ากัน มีเพียงการคุยผ่านเฟซบุ๊ก ไลน์ และไม่เคยแม้แต่วิดีโอคอลหากัน ทั้งนี้ได้ฝากเตือนไปยังประชาชนที่คิดจะหาคู่ผ่านสื่อออนไลน์ให้พิจารณามากๆ และควรที่จะเจอตัวจริงกันก่อนหรืออาจจะลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสักระยะ ก่อนจะเชื่อใจและโอนเงินให้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0