วันนี้( 16 ม.ค.62) นายไพบูลย์ อายุ 43ปี ชาวอ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี บุคคลที่ปรากฏชื่อเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทแห่งหนึ่ง และถูกสรรพากรพื้นที่ปราจีนบุรี ฟ้องเรียกเก็บภาษีค้างชำระกว่า 800 ล้านบาท ทั้งที่มีอาชีพเป็นเพียงคนรับจ้างก่อสร้าง ได้ค่าแรงวันละ 500 บาท ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภวจ.ปราจีนบุรี
โดยนายไพบูลย์ ยังคงยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง กระทั่งได้รับหนังสือจากสรรพากรให้ไปชำระภาษีค้างจ่าย 3 ครั้ง ครั้งแรก 29 ล้านบาท ครั้งที่ 2 จำนวน 335 ล้านบาท และครั้งที่ 3 จำนวน 483 ล้านบาท ตนไม่ได้รู้เรื่องเลยกระทั่งถูกแจ้งความ และถูกฟ้องขึ้นศาล
พล.ต.ต.ราเดช กล่าวว่าจากการสอบถามและดูจากเอกสารเชื่อตามเอกสารของเจ้าหน้าที่แจ้งมา แม้ว่าวันนี้ นายไพบูลย์ จะยืนยันไม่รู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยกับเรื่องนี้ จากนี้ไปจะให้เจ้าหน้าที่เช็ก ที่มาที่ไปทั้งหมด อีกทั้งเส้นทางการเงินของบุคคลที่ผัวพันเรื่องนี้ ตั้งแต่คนแรกจนถึงคนสุดท้าย รวมทั้ง นายไพบูลย์ ก็ต้องถูกสอบสวนด้วยเพราะมีพยานหลักฐานอยู่หลายอย่างที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีอยู่ ส่วนที่เจ้าตัวมาร้องขอความเป็นธรรม ก็ให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี ไว้ก่อน ส่วนรายละเอียดต่างๆที่มีเงื่อนงำ คาดว่าจะรู้เรื่องทั้งหมดในเร็วๆนี้
ด้าน พ.ต.อ.ประสาน แก้วมหาสุริย์วงศ์ ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้แนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์แก่ ปปง.อีกทาง เพื่อจะได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของปีผู้ก่อตั้งบริษัทดังกล่าว ส่วนวันนี้ นายไพบูลย์ ได้เริ่มต้นใหม่ในการที่จะต่อสู้เพื่อความบริสุทธิ์ของตัวเอง ที่ผ่านมาอาจถูกคนหลอกหรือปลอมแปลงเอกสารไปจัดตั้งบริษัทและมีการเลี่ยงภาษีมูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยภาษีของบริษัทดังกล่าวประจำปี 61 หากสรรพากรแจ้งมาอาจสูงกว่านี้