เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีชายหนุ่มใจบุญเปิดบ้านเป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงยากไร้และไม่มีญาติ ที่บ้านเลขที่ 122 หมู่ที่ 6 ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบ นายนัฐพงศ์ ประศรีพัฒน์ อายุ 26 ปี เจ้าของบ้าน กำลังดูแลผู้ป่วยอยู่ภายในบ้าน ซึ่งลักษณะบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังคามุงสังกะสี ภายในห้องโถงติดเครื่องปรับอากาศ และมีเตียงนอนสำหรับผู้ป่วยเรียงรายอยู่ 10 เตียง
นายนัฐพงศ์ เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนได้เคยเรียนวิชาชีพการดูแลผู้สูงอายุและเด็ก จากสถาบันแห่งหนึ่งใน จ.ศรีสะเกษ และประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ประเภทตู้เติมเงินโทรศัพท์ ต่อมาตนได้พบ 2 ตายาย ซึ่งยายเป็นผู้ป่วยติดเตียงมาเป็นระยะเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยมีตาแก่ชราคอยดูแลตามลำพัง ไม่มีญาติ จึงได้นำสิ่งของไปมอบให้เพื่อเป็นกำลังใจ ต่อมาตาได้เดินหกล้มทำให้เดินไม่ได้ ซึ่งตนเห็นแล้วเกิดความสงสาร จึงได้มีแนวคิดร่วมกันกับเพื่อนๆ นำตายายทั้งสองคนนี้มาดูแล และนำบ้านมาทำเป็นที่พักพิงของผู้ป่วยติดเตียงยากไร้ ไม่มีบ้าน และช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พร้อมกับตั้งเพจเฟซบุ๊ก “ศูนย์ผู้ป่วยยากไร้ศรีสะเกษ” ขึ้น ส่วนค่าใช้จ่ายตน และเพื่อนๆเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมขอรับบริจาคสิ่งของ ทั้งนี้ตนไม่ได้คาดหวังประโยชน์สิ่งใดจากการที่ตนทำอยู่ เพียงแค่ได้ดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ ได้มีที่อยู่ มีคนดูแล ไม่ถูกทอดทิ้ง ก็มีความสุขแล้วที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก
ด้าน น.ส.นภาพร เมฆาผ่องอำไพ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ (พมจ.ศรีสะเกษ)กล่าวว่า เบื้องต้นทาง พมจ. ได้รับทราบข้อมูลแล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าผู้ป่วยไม่มีญาติก็จะพิจารณาส่งไปอยู่ในความดูแลของศูนย์คนไร้ที่พึ่งต่อไป
ขณะที่ นพ.วราวุธ ชื่นตา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ (สสจ.) กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ศูนย์ผู้ป่วยยากไร้ศรีสะเกษ ถือว่าเข้าข่ายเป็นสถานพยาบาล ต้องจดทะเบียนขออนุญาต รวมทั้งการดูแลผู้ป่วยต้องมีใบอนุญาตของผู้มีวิชาชีพ จึงจะสามารถดำเนินการกรณีสถานบริการดังกล่าวนี้ ไม่มีใบอนุญาตนั้น ถ้าดูแลรักษาไม่ถูกต้อง ก็อาจจะมีอาการเจ็บป่วยมากขึ้น
