รวบหนุ่มใหญ่มหาภัยแชตลวงสาวข่มขืน แถมบังคับกดเงินเอทีเอ็มจนเกลี้ยงบัญชีมีคนตกเป็นเหยื่อแล้ว 6 คนมาชี้ตัวแล้ว 3 คน เผยพฤติกรรมแชตหาเหยื่อในโปรแกรมหาคู่ พูดคุยตีสนิทจนเหยื่อวางใจก่อนลวงออกจากบ้านพาไปกักขัง ข่มขืนและทำร้าย รายไหนมีบัตรเอทีเอ็มถูกบังคับให้กดเงินให้จนหมดบัญชี แฉเหยื่อ 1 ใน 6 คนถูกบังคับถอนเงินไปดาวน์รถกระบะให้คนร้ายใช้ด้วย
จากกรณีนายดิน (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ชาว อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา พร้อมญาติเข้าพบสื่อมวลชนให้ช่วยประกาศหาแม่คือนางสำลี (นามสมมติ) อายุ 58 ปี อาชีพพยาบาล ที่หายตัวไปจากบ้านตั้งแต่เย็นวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา และพบว่าเงินในบัญชีธนาคารของนางสำลีถูกกดเงินสดออกจากตู้ ATM ไปกว่า 150,000 บาท ซึ่งเป็นการกดเงินจำนวนมากอย่างผิดสังเกตเกรงนางสำลีอาจถูกคนร้ายล่อลวงไปและอาจจะเกิดอันตรายกับนางสำลีพร้อมแจ้งความไว้ที่ สภ.สูงเนิน เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาเช้าวันที่ 18 ธ.ค. พ.ต.ท.เศรษฐภัทร เรืองวานิช รอง ผกก.(สส.) สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ต.เสกสรร องอาจ สว.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งใน ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังทราบเบาะแสของผู้ต้องสงสัยที่ลักพาตัวนางสำลีหายไปจากบ้านกบดานที่บ้านหลังดังกล่าว พบนายเอราวัน คุมภวิภาษ อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 197/1 ถนนบางแสนล่าง ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี อยู่ในบ้านและพบเงินสด 190,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร ค้อนและรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดงจึงยึดไปตรวจสอบพร้อมนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา
สอบสวนนายเอราวันให้การรับสารภาพว่ารู้จักกับผู้เสียหายผ่านเว็บไซต์หาคู่ Thai dating และได้นัดเจอพูดคุยกันมาตลอดนานกว่า 7 เดือน เคยไปหานางสำลีที่ อ.สูงเนิน หลายครั้งจนสนิทสนม ภายหลังได้ออกอุบายและบังคับข่มขู่ลักพาตัวผู้เสียหายออกจากบ้านที่ อ.สูงเนิน เมื่อเย็นวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยพาผู้เสียหายไปเปิดโรงแรมนอนที่ จ.สระบุรี จากนั้นวันรุ่งขึ้นได้บังคับนำเอาบัตร ATM พร้อมรหัสของนางสำลีไปกดเงินที่ตู้ ATM ในปั๊มน้ำมัน ปตท.ในพื้นที่ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นจำนวนเงิน 150,000 บาท จากนั้นพาผู้เสียหายเดินทางไป จ.สมุทรสาคร แล้วทำร้ายทุบตีโดยใช้ค้อนเป็นอาวุธตีผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บก่อนนำตัวได้ปล่อยที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร
นายเอราวันกล่าวอีกว่า จากนั้นขับรถมาหาเหยื่ออีกคนที่ติดต่อผ่านเว็บไซต์หาคู่ Thai dating ได้เพียง 2 อาทิตย์ ชื่อนางลิ อายุ 51 ปี ที่ ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา แต่เหยื่อรายนี้ยังไม่ได้มีอะไรกัน และยังไม่ได้ข่มขู่เอาทรัพย์สิน กระทั่งตนถูกตำรวจตามบุกเข้าตรวจค้นจับกุมดังกล่าว ผู้ต้องหารายนี้ยังรับสารภาพอีกว่า หลอกเหยื่อมาแล้ว 6 ราย โดยหาเหยื่อผ่านเว็บไซต์หาคู่ Thai dating และพูดคุยก่อนได้นัดเจอผู้เสียหาย ออกอุบายล่อลวงเหยื่อให้ตายใจให้ออกมาพบ จากนั้นจะบังคับขึ้นรถทำร้ายร่างกายตบตีเพื่อบังคับข่มขืนโดยถ่ายคลิปไว้แบล็กเมล์ป้องกันเหยื่อไปแจ้งความ และบังคับให้เหยื่อบอกรหัสบัตรเอทีเอ็มเพื่อกดเงิน
ภายหลังการจับกุมนายเอราวันปรากฏว่ามีผู้เสียหายที่ทราบข่าวผ่านโซเชียลมาชี้ตัวผู้ต้องหาแล้ว 3 คน ยังเหลืออีก 3 ราย ส่วนนางสำลีที่ถูกทิ้ง ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ญาติได้ไปรับตัวแล้วก่อนนำตัวมาให้ชี้ตัวผู้ต้องหาและให้ปากคำที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา โดยเหยื่อให้การว่าสาเหตุที่ถูกทำร้ายร่างกายทั้งทุบที่ท้องและศีรษะ เนื่องจากนายเอราวัน เข้าใจว่าไปอายัดบัตรเอทีเอ็มทำให้กดเงินไม่ได้แต่ภายหลังกดได้
ส่วนเหยื่ออีกคนชื่อ น.ส.สำอาง อายุ 42 ปี บ้านเดิมอยู่ จ.หนองบัวลำภู หนึ่งในเหยื่อที่มาชี้ตัว ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า หลังพบข่าวและรูปผู้ต้องหาในข่าวออนไลน์มั่นใจผู้ต้องหาเป็นคนเดียวกันที่หลอกลวงตนให้ไปหาที่บ้านใน จ.ชลบุรี จากนั้นได้กักขังหน่วงเหนี่ยวทุบตีและข่มขืน ไม่ให้กลับบ้านเป็นเวลานานนับเดือน ตั้งแต่เดือน ก.ย.61 และยังบังคับให้ถอนเงินในธนาคารกว่า 1 แสนบาทให้ไปดาวน์รถกระบะป้ายแดงที่ผู้ต้องหาขับ โดยใช้ชื่อตนเป็นผู้ซื้อ ถ้าไม่ทำตามจะถูกทำร้าย จนต้องแอบหลบหนีออกมาแจ้งความที่ สภ.แสนสุข แต่คดีไม่คืบ กระทั่งมาทราบว่าคนร้ายถูกจับเลยรีบมาชี้ตัวที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมา พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมาติดตามคดี พร้อมสั่งประสานตำรวจพื้นที่ ที่ผู้ต้องหาก่อเหตุแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
