โชเฟอร์แท็กซี่ที่โพสต์ภาพผู้โดยสารสาวในรถ ชี้แจงแล้ว บอกไม่มีเจตนาหื่น แต่เป็นคนขี้เล่น
จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก Taxi report TH ได้โพสต์ภาพของโชเฟอร์แท็กซี่รายหนึ่ง มีพฤติกรรมแอบถ่ายผู้โดยสารสาวที่ใช้บริการระหว่างนั่งเบาะหลัง โดยได้แอบถ่ายสาวๆ ยามเผลอ (เผลอหลับ หรือ นั่งเล่นโทรศัพท์) เหยื่อสาวนับสิบ ข้าราชการ นักศึกษาโดนครบ พร้อมนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว (เปิดสาธารณะ) และระบุข้อความในเชิงแทะโลม และบางโพสต์จะเห็นว่า รถแท็กซี่คันนี้มีการแต่งแปลงสภาพรถที่ผิดกฎหมาย และการแต่งกายของคนขับยังไม่สุภาพอีกด้วยนั้น
ล่าสุดวันที่ 15 ก.ค. 62 คุณธนภัทร ติรางกูล ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ เดินทางไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยคนขับแท็กซี่รายดังกล่าวได้เปิดใจสารภาพกับทีมข่าวว่า เขาเป็นคนถ่ายรูปผู้โดยสาร แล้วนำไปโพสต์ลงโซเชียลจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาทำให้ผู้โดยสารเกิดความเสียหาย จุดประสงค์ที่โพสต์รูปลงไปนั้น เพื่อต้องการให้ภรรยารับทราบว่าแต่ละวันเขาต้องรับผู้โดยสารและทำงานอย่างไรบ้าง แต่ยอมรับว่าอาจเป็นรูปและข้อความที่ไม่เหมาะสม จึงอยากขออภัยทุกท่านที่ทำให้เข้าใจผิด ส่วนตัวไม่เคยมีพฤติกรรมลวนลามลูกค้าอย่างแน่นอน
ขณะภรรยาเปิดเผยว่า เธอทราบเรื่องที่สามีโพสต์มาโดยตลอด เนื่องจากสามีตนมีนิสัยขี้เล่น จึงอาจเล่นโซเชียลด้วยความคึกคะนอง หลังจากนี้ตนคงต้องตักเตือนให้เล่นโซเชียลอย่างระมัดระวังมากขึ้น เพราะอาจทำให้สังคมเข้าใจผิดแบบนี้ได้ ยืนยันว่าสามีเป็นคนไม่มีพิษภัย และไม่เคยก่อเหตุไม่ดีกับผู้โดยสารมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งคู่กำลังดำเนินการทางกฎหมายเพื่อเอาผิดคนที่แชร์ภาพจนทำให้เสียชื่อเสียง โดยเฉพาะเพจชื่อดังต่างๆ เนื่องจากขณะนี้ครอบครัวได้รับผลกระทบ ไม่สามารถที่จะออกไปประกอบอาชีพขับแท็กซี่ได้ และถูกคนในสังคมประณาม
ล่าสุด กรมการขนส่งทางบก โดยกองตรวจการ ได้ตรวจสอบข้อมูลรถแท็กซี่คันดังกล่าว และได้เรียกตัวผู้ขับขี่รายนี้มารายงานตัวเพื่อรับการสอบสวน จากการสอบสวนพบมีการกระทำความผิดตาม พรบ.รถยนต์ 3 ข้อหา ได้แก่
1. มาตรา 5 (15) ประกอบมาตรา 58 ฐานแต่งกายไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวงฯ เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท
- มาตรา 57ฉ ประกอบมาตรา 66/2 ฐานแสดงกริยาวาจาไม่สุภาพฯ เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท
- มาตรา 12 ประกอบมาตรา 60 ฐานแก้ไขเปลี่ยนแปลงขนาดล้อรถฯ เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท
พร้อมทั้งส่งตัวผู้ขับรถเข้ารับการอบรมกฎระเบียบและการให้บริการที่ดี เป็นเวลา 3 ชั่วโมง และบันทึกประวัติผู้กระทำผิดในฐานข้อมูล