โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

หนุ่มเกษียณเร็วแนะเคล็ดลับ”อยู่ที่ใจ” เลิกวงจร ”ทำงาน-ใช้เงิน-หาเงิน”

Money2Know

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2561 เวลา 02.01 น. • money2know - เงินทองต้องรู้
หนุ่มเกษียณเร็วแนะเคล็ดลับ”อยู่ที่ใจ” เลิกวงจร ”ทำงาน-ใช้เงิน-หาเงิน”

หนุ่มอเมริกันคนหนึ่งทำงาน เก็บออม แล้วนำเงินไปลงทุน ตั้งแต่วัย 20 กว่าๆ จนสามารถวางมือจากการงานได้ในวัย 30 กว่าๆ มาดูกันว่าเขามีแนวคิดอย่างไร และทำเช่นนั้นได้อย่างไร

Chris Reining นำรายได้มากกว่าครึ่ง ไปเก็บออมและลงทุนอย่างมีแผนการที่ดี เป็นเวลา 6 ปี ซึ่งทำให้เขามีเงินมากพอลาออกจากงานและวางมือจากการทำงานตอนอายุ 37 ปี

กว่าจะมาถึงวันนี้ Reining ไม่ได้ระมัดระวังการใช้จ่าย หรือมุ่งเก็บออมมาตั้งแต่แรก เพราะพอเรียนมหาวิทยาลัย เขาก็ซื้อทุกอย่างที่อยากได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ราคาแพง หรือไปพักในโรงแรมหรูหรา คืนละ 500 ดอลลาร์ รวมถึงซื้อเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านไปเป็นหมื่นดอลลาร์

Reining จึงตกอยู่ในวงจรที่วนเวียนไม่สิ้นสุด นั่นคืออยากได้นั่นนู่นนี่อยู่ร่ำไป

จนกระทั่งถึงวัยปลาย 20 ที่เขาตระหนักว่าสิ่งต่างๆ ประดามีที่ขนซื้อมานั้น ไม่ได้ช่วยให้เขามีความสุขมากขึ้นเลย แต่สิ่งที่น่าจะช่วยให้เขามีความสุขที่สุด คือการมีอิสระ

แนวคิดดังกล่าวทำให้เขาวางมือจากการทำงานได้เร็วขึ้น โดยในปี 2553 Reining มุ่งมั่นที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน จึงตั้งเป้าหมายสร้างพอร์ตให้ได้ถึง 1 ล้านดอลลาร์ภายในอายุ 35 ปี และเริ่มทำงาน”เพื่อเก็บออมและลงทุน” แทนที่จะทำงานเพื่อนำเงินไปใช้จ่าย

Reining มุ่งมั่นมากจนมาถึงจุดที่เขาเก็บออมรายได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง และมีเงินในพอร์ตลงทุนถึงหลัก 1 ล้านดอลลาร์ตามที่ตั้งเป้าไว้ตอนอายุ 35 ปี จนกระทั่งเขาวางมือจากการทำงานอย่างเป็นทางการในปี 2559 เมื่ออายุ 37 ปี

ปัจจุบัน Reining อายุ 39 ปีและอยู่ในเมืองเมดิสัน รัฐวิสคอนซิน เขาบอกว่าจริงๆ แล้วไม่ได้มีเป้าหมายที่การเกษียณก่อนกำหนด แต่ต้องการมีอิสรภาพทางการเงิน และต้องการมีศักยภาพทางการเงิน

Reining ใช้เงินจากการลงทุนมาเลี้ยงชีพเป็นเวลาเกือบ 3 ปี และไม่กังวลว่าเงินจะหมด

สิ่งที่เขาเรียนรู้ในวัย 20 ปี และคำแนะนำที่จะมีให้แก่คนอื่น คือ “ไม่จำเป็นต้องทำงาน เพื่อได้เงินมา แล้วก็ใช้จ่ายเงินไป แล้วก็ทำงานเพื่อหาเงินอีก ทำซ้ำๆ วนอยู่อย่างนี้ จนอายุมากขึ้น ป่วย และทำงานไม่ไหว”

ในทางตรงกันข้าม เราสามารถทำงานเพื่อเก็บออม เก็บออมแล้วนำไปลงทุน ซึ่งในที่สุดทำให้สามารถเลิกทำงานได้ เพราะให้เงินทำงานแทน

เขาบอกว่ากิเลสที่ยั่วยวนให้ควักกระเป๋าซื้อรถยนต์คันงาม หรือแกดเจตสุดล้ำ เกิดขึ้นในใจตลอด แต่กุญแจสำคัญคืออย่าไปทำตามกิเลส และให้พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี

Reining แนะให้ลองไปเดินเล่นดู แล้วคิดดูว่าชีวิตสุขสบาย มีอิสระเพียงใด พร้อมเสริมว่าแม้วัตถุข้าวของที่เราอยากครอบครองนั้น อาจนำความสุขมาให้ แต่ก็เป็นเวลาชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น เพราะนานๆ ไปเราจะเริ่มเบื่อ ความสุขก็หายไป และก็ต้องมองหาของใหม่ๆ เพื่อซื้อมาครอบครองหรือบริโภค

นิยาม “ความรวย” ของ Reining แตกต่างออกไป เพราะในมุมมองของเขา ความรวยไม่ได้หมายถึงการได้เงินเดือนก้อนโต แต่หมายถึงการมีสินทรัพย์ที่สร้างรายได้ และการกินอยู่อย่างไม่เกินตัว

เขาเสริมว่าเมื่อคนพูดกันว่าอยากมีเงินสักล้านสองล้าน สะท้อนว่าคนเหล่านี้ใช้ชีวิตแบบหรูหรา เพราะสิ่งที่น่าขันเกี่ยวกับเรื่องเงินคือ เรามักรู้สึกว่าเราต้องการมีเงินมากๆ อยู่เสมอ ทั้งที่บางครั้งเรามีเงินเพียงพอแล้ว แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าพอ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0