จากกรณีนายทัชภูมิ คำบุญเรือง อายุ 24 ปี จมน้ำเสียชีวิตหลังจากวิ่งหนีตำรวจ โดย ด.ต.สุรศักดิ์ ปัสสาวะพา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองหนองบัวลำภู ให้ข้อมูลว่า ได้ขอตรวจปัสสาวะนายทัชภูมิ แต่เขากลับวิ่งหลบหนีข้ามถนนไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้วิ่งติดตามไป เพราะได้ยึดรถจักรยานยนต์พร้อมใบขับขี่เอาไว้แล้ว แต่สุดท้ายกลับพบว่านายทัชภูมิกลายเป็นศพอยู่ในคลองน้ำลำพะเนียง ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ญาติของนายทัชภูมิติดใจสาเหตุการตาย
วันที่ 24 ส.ค. 62 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านผู้เสียชีวิต ที่บ้านวังหมื่น ต.หนองบัว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู โดย น.ส.ฐิติกาญน์ แสนหาสิ้ว อายุ 29 ปี ญาติของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ญาติยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับพการทำงานของตำรวจ เพราะดาบตำรวจที่จับกุมน้องชาย บอกว่าหลังจากน้องชายวิ่งหนีไปนั้น ตำรวจรอเวลา 15-20 นาที ถึงจะไล่ตามจับกุม ซึ่งโดยปกติจะต้องวิ่งไล่ตามทันทีที่คนร้ายหนีไป อีกทั้งตนยังตั้งข้อสงสัยว่าในเมื่อดาบตำรวจสามารถตรวจยึดใบขับขี่และยึดรถจักรยานยนต์ได้แล้ว มีเหตุผลอะไรที่น้องชายตนต้องวิ่งหนี และน้องชายวิ่งหนีไปแล้วเกือบ 20 นาที ทำไมถึงยังต้องหนีลงน้ำ ไม่ยอมวิ่งหนีไปทางอื่น ซึ่งตนคาดว่าตำรวจอาจจะข่มขู่เรื่องตรวจปัสสาวะ หรือเรียกร้องอะไรหรือไม่ เพราะตนก็ยอมรับว่าน้องชายเคยมีประวัติติดยาเสพติดเมื่อช่วงปี 2561 แต่ก็ได้ไปบำบัดและหายแล้ว แต่อาจจะกลับมาเสพอีกจนทำให้เกรงกลัวที่จะถูกตรวจปัสสาวะ ซึ่งตนก็ไม่เข้าข้างน้อง หรือบอกว่าน้องตัวเองเป็นคนดี เพียงแต่อยากรู้ว่าทำไมน้องชายถึงต้องกลัวขนาดที่กระโดดลงน้ำทั้ง ๆ ที่ว่ายน้ำไม่เป็น เพราะโดยอุปนิสัยของน้องชายนั้นจะไม่ลงไปในน้ำเด็ดขาด โดยสังเกตจากเรื่องเมื่อหลายปีก่อน น้องชายเคยถูกอริไล่ฟันจนเอ็นข้อมือซ้ายขาด เขาก็เลือกจะวิ่งหนีบนพื้นดิน ไม่หนีลงน้ำตามเพื่อน
น.ส.ฐิติกาญน์กล่าวต่อว่า สาเหตุที่น้องชายไม่ให้ตำรวจตรวจปัสสาวะ เพราะน้องอาจจะตนคิดว่าหากถูกจับก็จะทำให้ครอบครัวเดือดร้อน และต้องเสียเงินอีก จึงเลือกที่จะวิ่งหนีจากตำรวจ และตนไม่ได้ติดใจว่าชาวบ้านไม่ช่วย เพราะถ้าคนลงไปช่วยก็คงจะต้องตายด้วย จึงทำให้ตนคิดว่าน้องชายก็น่าจะคิดแบบเดียวกันคือถ้ากระโดดลงน้ำไปก็คงต้องตาย จึงทำให้ตนคิดไม่ตกว่าน้องชายมีเหตุผล หรือเกรงกลัวอะไร ถึงต้องวิ่งหนีลงน้ำทั้ง ๆ จุดที่ลงไปค่อนข้างอันตราย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานขณะที่ตนไปถึงที่เกิดเหตุ ก็มีหัวหน้าตำรวจจราจร ซึ่งเป็นหัวหน้าของ ด.ต.สุรศักดิ์ เข้ามาบอกญาติ ๆ ว่าตำรวจไม่ผิด สอบสวนพยาน 20 ปาก ก็บอกว่าน้องชายวิ่งลงน้ำไปเอง จึงทำให้ตนสังเกตพิรุธว่าช่วงเวลาสั้น ๆ ที่กำลังช่วยน้องชายอยู่นั้น ตำรวจเอาช่วงเวลาไหนไปสอบสวนพยาน และเมื่อตนบอกว่าติดใจสาเหตุการตาย จะส่งศพไปชันสูตร หัวหน้าตำรวจจราจรก็พูดอีกว่า ถ้าส่งไปชันสูตรแล้วเจอปัสสาวะสีม่วง ก็จะยิ่งยุ่งยาก ซึ่งตนมองว่าคำพูดของเขามันเป็นคนละเรื่องกับการตาย
น.ส.ฐิติกาญน์พูดทั้งน้ำตาว่าน้องตายทั้งคน ถ้าตนไม่ส่งไปชันสูตรก็จะทำให้ตนเสียใจไปตลอดชีวิต อีกทั้งแม่เขาก็แก่มาก พ่อเขาก็เสียชีวิตไปแล้ว ไม่ว่าผลชันสูตรออกมาเป็นอย่างไรตนก็จะยอมรับ ซึ่งเรื่องแบบนี้ถ้าไม่เกิดกับใครก็คงไม่รู้ และยอมรับว่าตนสนิทกับน้องชายคนนี้มาก
ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ที่คลองน้ำลำพะเนียง โดยนายแมน (นามสมมติ) คนเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ ช่วงเวลาประมาณบ่ายโมง ตนเห็นนายทัชภูมิวิ่งลักษณะเหมือนหนีตายมา วิ่งล้มลุกคลุกคลานมาคนเดียวโดยไม่มีใครไล่ตามมา ซึ่งเมื่อตนเดินเข้าไปถาม นายทัชภูมิก็ไม่ตอบและวิ่งไปทางคลอง ซึ่งตนพยายามเดินตามไปดูก็เห็นเจ้าตัวกลิ้งลงคลองและว่ายน้ำไปแล้ว ตนพยายามสอบถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น โดยนายทัชภูมิก็ตอบตามตรงว่าหนีตำรวจมา กลัวตำรวจจะมาจับ และสังเกตว่าในมือของนายทัชภูมิเหมือนถืออะไรอยู่ตลอดเวลา โดยเจ้าตัวอ้างว่าเป็นโทรศัพท์ จากนั้นตนพยายามเรียกให้เขากลับขึ้นมาจากคลองเพราะกลัวเขาจะจมน้ำ แต่นายทัชภูมิก็ปีนกลับขึ้นมาไม่ได้ เพราะฝั่งขึ้นค่อนข้างชันและสูง จึงตัดสินใจเกาะกิ่งไม้ว่ายน้ำไปเรื่อย ๆ ได้เพียง 50 เมตร ก็เกิดอาการหมดแรงและจมน้ำ
นายแมน ยืนยันว่าตอนเกิดเหตุไม่มีตำรวจไล่ตามมา มีแต่พวกตนที่ไปเรียกให้ตำรวจมาช่วยเพราะนายทัชภูมิจมน้ำ และตนยืนยันว่าตนไม่ได้พูดไปเพราะต้องการจะช่วยตำรวจ ซึ่งตนก็รู้สึกเห็นใจญาติเขาสำหรับความสูญเสีย โดยขณะเกิดเหตุนั้นตนก็อยากลงไปช่วยนายทัชภูมิ แต่ก็ลงไปไม่ได้เพราะฝั่งค่อนข้างลาดชัน น้ำแรง ถ้าลงไปก็ขึ้นกลับมาไม่ได้ ซึ่งจนตอนนี้ภาพทุกอย่าง การเสียชีวิตของเขาก็ยังติดตาตนอยู่ตลอด
https://youtu.be/mbJs97JK-ag