โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หนุ่มถูกปล้น แฉเพื่อนรักสุดแสบวางแผน จับไต๋ตีเนียนห้ามแจ้งความ สุดท้ายรวบยกแก๊ง (คลิป)

Amarin TV

เผยแพร่ 23 ต.ค. 2561 เวลา 19.03 น.
หนุ่มถูกปล้น แฉเพื่อนรักสุดแสบวางแผน จับไต๋ตีเนียนห้ามแจ้งความ สุดท้ายรวบยกแก๊ง (คลิป)
จากกรณี ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จับกุมคนร้ายก่อเหตุปล้นชิงทรัพย์ในซอยไทยยานนท์ 17 อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวานนี้ (22 ต.ค. 61) ประกอบด้วย นายอุเ

จากกรณี ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ จับกุมคนร้ายก่อเหตุปล้นชิงทรัพย์ในซอยไทยยานนท์ 17 อ.เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวานนี้ (22 ต.ค. 61) ประกอบด้วย นายอุเทน ยังวิเชียร หรือ มอส อายุ 21 ปี, นายวิชระ สุขสันต์ หรือ โอ อายุ 21 ปี และนายถิรวุฒิ อรรถประดิษฐ์ หรือ นนท์ อายุ 21 ปี โดยทั้ง 3 คน เป็นนักศึกษา ปวส.ปี 2 ของสถาบันเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง

ผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นชิงทรัพย์
ผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นชิงทรัพย์

โดยก่อนหน้านั้น นายถิรวุฒิ หรือ นนท์ หนึ่งในผู้ต้องหา รับสารภาพว่าเป็นคนวางแผนกับเพื่อนอีก 2 คน ร่วมก่อเหตุชิงทรัพย์นายวศิน เนื่องจากเจ้าตัวชอบทำอะไรแล้วโยนความผิดให้ตน เอาเปรียบทุกอย่าง ตอนแรกไม่ต้องการชิงทรัพย์ แต่อยากให้นายวศินรู้สึกว่าหากถูกกระทำแบบเดียวกันบ้างจะเป็นอย่างไร เพราะเมื่อเกิดปัญหานายวศินก็โทษตนคนเดียว ไม่เคยช่วยเหลือ จนต้องถูกทำร้ายบ่อยครั้ง

ภาพจำลองพฤติกรรมโยนความผิดของนายวศิน ตามคำกล่าวอ้างของนายนนท์
ภาพจำลองพฤติกรรมโยนความผิดของนายวศิน ตามคำกล่าวอ้างของนายนนท์

วันที่ 23 ต.ค. 61 นายวศิน เครือตา อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายถิรวุฒ หรือ นนท์ มาประมาณ 4 เดือน ซึ่งสาเหตุของเรื่องทั้งหมด เนื่องจากตนได้ไปซื้อพระของนายนนท์มาในราคา 10,000 บาท แต่มีข้อตกลงว่าตนจะผ่อนจ่ายภายในสิ้นเดือน แต่ช่วงก่อนหน้าที่เกิดเรื่องนั้น นายนนท์ได้ถูกไล่ออกจากงาน และมาทวงเงิน โดยบอกว่าจำเป็นต้องใช้เงิน แต่ในขณะนั้น ตนไม่มีเงินสดให้ จึงบอกกับนายนนท์ว่า ตนจะกลับบ้าน เพื่อนำพระเลี่ยมทองคำไปจำนำ กระทั่งเมื่อวานนี้ เวลา 11.30 น. นายนนท์ได้มารับตนจากที่ทำงานด้วยรถเก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เงิน เพื่อเดินทางกลับบ้านไปเอาทองคำไปจำนำ ซึ่งระหว่างการนั่งรถไป ตนก็ไม่ได้สังเกตว่ามีใครขับตามมาหรือไม่ เพียงแต่พูดคุยเรื่องเส้นทางที่จะไปโรงจำนำ แต่ตนสังเกตว่านายนนท์ได้โทรหาเพื่อนชื่อมอส และพูดว่า “ถ้าเสร็จแล้ว เดี๋ยวมึงไปรอบ้านกู” ซึ่งในขณะนั้น ตนก็ไม่ได้สงสัย คิดว่าคงเป็นธุระส่วนตัวของนายนนท์

นายวศิน เครือตา ผู้เสียหาย
นายวศิน เครือตา ผู้เสียหาย

ระหว่างทาง ตนได้พยายามแนะนำเส้นทางให้นายนนท์ขับเข้าซอยนนทบุรี 42 เพื่อออกสู่ถนนหลัก แต่นายนนท์ได้พูดออกอุบาย และเบี่ยงเบนเส้นทาง ด้วยการแนะนำให้ไปโรงรับจำนำอีกที่ และขับรถพาตนเข้าไปในซอยไทยยานนท์ 17 เมื่อเข้าไปถึงกลางซอย นายนนท์ได้จอดแวะข้างทางลงไปปัสสาวะ ซึ่งตนก็ได้นั่งรออยู่ในรถ หลักจากที่นายนนท์ลงไปไม่ถึง 1 วินาที ก็มีชายหนุ่ม 2 คน ขับรถมอเตอร์ไซค์สีขาวมาปาดหน้ารถของตน โดยคนขับคือนายมอส เดินไปกอดคอนายนนท์ที่กำลังยืนปัสสาวะข้างทาง ส่วนอีกคนที่ซ้อนท้าย คือนายโอ๋ วิ่งอ้อมมาฝั่งที่นั่งข้างคนขับที่ตนนั่งอยู่ จากนั้นเปิดประตู แล้วนำปืนจี้หัวตน พร้อมพูดว่า “มีของมีค่าอะไร ให้ส่งมาให้หมด” ตนก็ตอบไปว่า “ถ้าอยากได้อะไรก็ให้เอาไป” นายโอ๋ก็พูดว่า “มึงก็ต้องถอดให้กู เพราะกูเอาปืนจี้หัวมึงอยู่นะ” ซึ่งนายโอ๋พูดขู่เสียงแข็ง ตนก็รู้สึกกลัว และตกใจมาก แต่ก็นึกสงสัยว่าเป็นปืนจริงหรือไม่ แต่ตนก็ไม่กล้าต่อสู้ เพราะกลัวเป็นปืนจริง

จากนั้น นายโอ๋ก็ถอดกำไลข้อมือสแตนเลส นาฬิกายี่ห้อดัง และดึงโทรศัพท์มือถือจากมือของตนไป ซึ่งรวมมูลค่ากว่า 20,000 บาท แต่ไม่ได้พระเลี่ยมทองของตนที่เตรียมจะนำไปจำนำ เนื่องจากตนใส่ไว้ในเสื้อ หลังจากนายโอ๋ได้ทรัพย์สินของตน ก็นำปืนตบหน้าตน 1 ครั้ง และพูดว่า “มึงอย่าไปแจ้งความนะ ถ้าแจ้งความมึงโดนแน่ กูรู้บ้านมึง” หลังจากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คน ก็ขับขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป

ภาพจำลองเหตุการณ์ ขณะคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์
ภาพจำลองเหตุการณ์ ขณะคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์

หลังจากคนร้ายหนีไป ตนพยายามพูดคุยกับนายนนท์ให้ตั้งสติ และจดจำที่เกิดเหตุ โดยบอกกับนายนนท์ว่า ให้ไปหาพ่อตน เพื่อไปแจ้งความ แต่นายนนท์ก็ตอบกลับมาว่า “พี่ไม่ต้องไปแจ้งความหรอก ผมจะรีบกลับไปทำงาน รีบกลับไปหาแม่ เพราะแม่โทรตาม” ตนก็ตกใจ และถามนายนนท์ว่า ถูกปล้นทองไป 2 บาท และนาฬิกาโรเล็กซ์อีก 1 เรือน ทำไมถึงไม่ไปแจ้งความ นายนนท์ก็ตอบกลับมาว่า “เดี๋ยวกลับไปบอกแม่ แม่ผมเคลียร์ให้ได้” แต่ตนก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้นายนนท์พาตนกลับไปหาพ่อ สุดท้ายพ่อตนก็พานายนนท์ไปถึงโรงพัก ซึ่งในระหว่างทางนั้น นายนนท์ไม่ได้มีท่าทีตกใจ หรือวิตกกังวล ทั้งที่เพิ่งถูกปล้นไป

เมื่อไปถึงหน้าโรงพัก ตนได้พยายามถามนายนนท์ว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น นายนนท์ได้รู้จักกับคนที่มาก่อเหตุหรือไม่ เนื่องจากเหตุการณ์ประจวบเหมาะกันเกินไป ทั้งเรื่องที่นายนนท์ลงไปปัสสาวะ แล้วมีคนมาปล้นพอดี และคนร้ายรู้ว่ามีคนอยู่ในรถกี่คน แต่นายนนท์ก็ตอบกลับมาว่า “ผมไม่รู้จักกับคนร้ายจริง ๆ เดี๋ยวไปแจ้งความด้วยกัน เพื่อเอาเรื่องมัน” ซึ่งหลังจากแจ้งความ ก็ถูกตำรวจจับแยกสอบสวน ซึ่งนายนนท์ได้ให้การกับตำรวจไม่ตรงกับตน โดยนายนนท์ให้การว่า นั่งอยู่ในรถแล้วถูกคนร้ายใช้ปืนจี้ให้ลงไปข้างทาง ขัดกับคำให้การของตน ที่บอกว่านายนนท์ลงไปปัสสาวะอยู่แล้วจึงถูกปล้น ทำให้ตำรวจเห็นพิรุธของนายนนท์ อีกทั้งตำรวจได้เห็นกล้องวงจรปิดที่มีคนร้ายขับตามหลัง นายนนท์จึงยอมรับสารภาพ

ของกลางที่ถูกขโมย
ของกลางที่ถูกขโมย

นายวศิน กล่าวต่อว่า โทรศัพท์มือถือ กำไลสแตนเลสของตน ได้ไปอยู่ที่บ้านของนายนนท์ และนาฬิกาได้ไปอยู่ผู้ก่อเหตุ ซึ่งหลังจากตนได้คุยไกล่เกลี่ยกับนายนนท์ ก็ไม่ได้ติดใจเอาความ โดยนายนนท์ได้เข้ามาขอโทษตนที่ใจร้อน อยากได้เงิน ทั้งที่ตนกำลังจะนำทองคำไปจำนำเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ แต่ได้วางแผนมาปล้นก่อน ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตนก็เสียความรู้สึก แต่ก็ยังรักนายนนท์เหมือนเดิม เพราะรู้จักกันมานาน เคยทำงานที่เดียวกัน และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่ได้ตกใจมาก เพราะทั้งหมดดูผิดสังเกต คล้ายกับมีการวางแผนมาปล้น

ส่วนเรื่องที่นายนนท์บอกว่า ตนได้เอาเปรียบ และโยนความผิดให้จนถูกทำร้ายนั้น ตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมนายนนท์ถึงพูดเช่นนั้น เพราะตนไม่เคยโยนความผิดอะไรให้ อีกทั้งหลังจากตนย้ายออกมาทำงานต่างที่กับนายนนท์ ตนก็มีการพูดคุยกันแค่เรื่องพระ แต่ตนคิดว่าเรื่องการเอาเปรียบนั้น นายนนท์อาจจะเห็นว่าตนมีเงินทอง แต่ไม่ยอมจ่ายให้ และไม่ยอมให้ยืมเงิน จึงทำให้นายนนท์คิดว่าตนไปเอาเปรียบ ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุนั้น ตนคิดว่านายนนท์อาจจะร้อนเงิน เนื่องจากถูกไล่ออกจากงาน

ภาพวงจรปิดหน้าปากซอยไทยยานนท์ 17
ภาพวงจรปิดหน้าปากซอยไทยยานนท์ 17
ภาพวงจรปิดหน้าปากซอยไทยยานนท์ 17
ภาพวงจรปิดหน้าปากซอยไทยยานนท์ 17

นอกจากนี้ กล้องวงจรปิดหน้าปากซอยไทยยานนท์ 17 สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะรถเก๋งสีบรอนซ์เงิน ของผู้เสียหาย เลี้ยวเข้าซอยที่เกิดเหตุ ก่อนที่คนร้ายจะขับขี่มอเตอร์ไซค์ เลี้ยวเข้าซอยตามไป โดยคนร้ายสวมหมวกกันน็อกทั้ง 2 คน นายมอส คนขับขี่สวมแจ็กเก็ตสีกรมท่า ส่วนนายวชิระ คนซ้อนท้าย สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำแดง และเป็นคนพกปืนไปก่อเหตุ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0