โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หนุ่มดวงกุด นั่งชิลก๊งเหล้า ริมป่าน้ำมูล ถูกช้างตกมันกระทืบดับอนาถ

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 26 ม.ค. 2563 เวลา 08.57 น. • เผยแพร่ 26 ม.ค. 2563 เวลา 08.57 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ช้างสีดอตกมัน กระทืบหนุ่มบุรีรัมย์ กะโหลกแตก-สมองเละ ดับคาป่าละเมาะริมน้ำมูล เพื่อนเล่านาทีหนีตาย เผยชวนกันไปชิลก๊งเหล้ากลางดึก ด้านเจ้าของช้างเผย นำไปล่ามเลี้ยงประจำ ไม่คาดคิดจะมีคนไปนั่งดื่ม จนเป็นเหตุถูกทำร้ายเสียชีวิต

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 26 ม.ค.63 ร.ต.อ.ธนดร ภักษารัมย์ รอง สารวัตรเวร สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิต ที่บริเวณถนนเลี่ยงเมือง สตึก-ชุมพลบุรี ทางโค้งบ้านโรงเลื่อยหมู่ที่ 9 บ้านโรงเลื่อย ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซอยไปมูลลีรีเวอร์รีสอร์ตก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำมูลสร้างใหม่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.สตึก และเจ้าหน้าที่กู้ภัยวังกรูสตึก

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณไหล่ถนน พบศพ นายนพดล ชูแสง อายุ 48 ปี อาชีพขายแก๊ส อยู่บ้านเลขที่ 292/5 ม.1 ต.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ สภาพศพกะโหลกศีรษะแตก เปลือยกายเหลือเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว ใกล้กันบนถนนพบเศษมันสมองตกเกลื่อน และพบกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสภาพเปื้อนดินตกอยู่ข้างถนน

จากการสอบถาม นายอ๊อด อิ่มสำราญ เพื่อนผู้ตาย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124/6 หมู่ที่ 7 ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ผู้รอดชีวิต เล่าว่า ช่วงค่ำก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมผู้ตายได้ชักชวนกันขี่จักรยานยนต์มานั่งดื่มเหล้าแกล้มก้อยปลา ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำมูลแห่งใหม่ จนถึงเที่ยงคืนเกิดฝนตก จึงพากันหักกิ่งไม้ใบไม้มารองนั่ง ขณะนั่งอยู่นั้นได้เหลือบเห็นช้างเดินมาด้านหลังประชิดตัว ไม่ทราบมาจากไหน แล้วใช้งวงสะกิด ก่อนใช้เท้าเตะผู้ตาย ตนตกใจมากเห็นผู้ตายจึงยกมือไหว้ช้างพูดวิงวอนขอชีวิต บอกว่าพวกตนเพียงมานั่งเล่น ไม่ได้มาลบหลู่เจ้าที่เจ้าป่าแต่อย่างไร อย่าทำอะไรเลย ครั้นเห็นท่าไม่ดีตนจึงรีบลุกขึ้นก่อนวิ่งหนีตาย เลาะตามริมแม่น้ำมูลรีบมาแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำรถยนต์เข้าไปที่เกิดเหตุได้ เนื่องจากฝนตกถนนลื่น พอรุ่งเช้าเจ้าหน้าที่พบศพ และแจ้งให้ทราบว่าเสียชีวิตแล้วเพราะถูกช้างทำร้าย

จากการสอบสวน นายบุดดา ศาลางาม อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.1 ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เจ้าของช้าง เล่าว่า ตนมีอาชีพเลี้ยงช้าง มีช้างจำนวน 3 ตัว พ่อ แม่ ลูก ช่วงเย็นได้นำช้างมาเลี้ยงบริเวณที่เกิดเหตุ โดยล่ามโซ่ไว้กับต้นไม้ ก่อนตนกลับไปบ้านพัก พอรุ่งเช้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ช้างของตนได้ทำร้ายคนจนเสียชีวิต ตนตกใจและเสียใจมาก เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เลย สำหรับช้างที่ทำร้ายนั้นชื่อ พลายคำมูน เป็นช้างเพศผู้ ช้างสีดอ (ไม่มีงา) ชื่อเล่น เจ้าดุ่ย อายุ 13 ปี อยู่ในช่วงวัยคึกคะนอง กำลังตกมัน มีความต้องการผสมพันธุ์ จึงทำให้ดุร้าย มักทำร้ายคนแปลกหน้า

นายบุดดา เล่าต่อว่า เมื่อทราบเหตุดังกล่าวจึงพาลูกชายออกตามหาช้างดังกล่าว จนพบเห็นกำลังกินอาหารตามป่าเลาะเมาะริมแม่น้ำมูล จึงเข้าไปนำโซ่ที่มัดติดเท้าช้างมาล่ามไว้กับต้นยูคาลิปตัสใหญ่ ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เพื่อให้ช้างสงบสติอารมณ์

ตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ที่ทำให้มีคนเสียชีวิต ตนไม่ทราบว่าจะมีคนมานั่งดื่มเหล้าบริเวณนี้ เพราะปกติตนจะนำช้างมาเลี้ยงไว้เป็นประจำ โดยช้าง พ่อ แม่ ลูก ได้นำกลับมาจาก จ.พังงา เมื่อไม่นานมานี้ อีกไม่กี่วันทางศูนย์คชสาร (เลี้ยงช้าง) อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ก็จะนำช้างทั้ง 3 ตัวไปเลี้ยงไว้ที่ศูนย์ แต่ก็มาเกิดเหตุไม่คาดคิดดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา "กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือผู้ใดควบคุมสัตว์ดุหรือร้ายปล่อยปละละเลย ได้นำสัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์"

ด้าน น.ส.เอื้อมพร ชูแสง อายุ 25 ปี ลูกสาวผู้ตาย เล่าว่า ช่วงเย็นพ่อมักออกไปตกปลาเป็นประจำ จนกระทั่งดึกก็ยังไม่เห็นพ่อกลับบ้าน รู้ว่าพ่อถูกช้างไล่แต่ไม่รู้ชะตากรรม เมื่อโทรศัพท์หาก็ไม่รับสาย พอรุ่งเช้ามาทราบว่าพ่อถูกช้างทำร้ายเสียชีวิต จึงรีบเดินทางไปดู ก่อนนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0