วันที่ 16 ก.ค. 62 ความคืบหน้าจากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Vipavan Kanjanabod ได้โพสต์แสดงความเสียใจถึงเรื่องราวอุบัติเหตุของเพื่อนชายคนหนึ่ง ที่คาดว่าน่าจะถูกลวดสายไฟเกี่ยวคอเสียชีวิต ขณะขี่รถจักรยานยนต์ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายพชร บุญญิศานนท์ อายุ 30 ปี เป็นพนักงานส่งของเอกชน โดยเหตุเกิดบริเวณซอยอิสรภาพ 25 เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
ล่าสุด นางสาวจิตรา จิตต์หาญ อายุ 52 ปี แม่ของนายพชร เล่าว่า เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) เวลาประมาณ 05.00 น. รพ.ศิริราชโทรศัพท์มาแจ้งข่าวว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุอาการสาหัส ตนจึงรีบออกไปดูลูก พอไปถึงก็เห็นรอยเลือดเป็นทางยาวไปจนถึงห้องผ่าตัด ตนก็คิดในใจว่าน่าจะเป็นรอยเลือดลูกชายแน่ ๆ ซึ่งหลังจากที่แพทย์ให้การรักษาสักพักก็แจ้งว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว ตนก็พยายามข่มใจไม่ให้ร้องไห้ ตามความเชื่อเพราะไม่อยากให้น้ำตาโดนศพลูกจะได้ไม่มีกังวล
โดยแพทย์แจ้งว่า มีบาดแผลฉกรรจ์ตั้งแต่บริเวณหลังหูยาวมาถึงลำคอ ตัวขดลวดโดนทั้งเส้นเลือดใหญ่ เส้นเลือดแขนง หลอดลมขาดหมดทำให้ไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ เพราะโดนแต่จุดสำคัญ ซึ่งตอนนั้นตนก็ยังไม่ทราบว่าขดลวดนั้นมาจากไหน สาเหตุอะไร
โดยวันนี้คนขับรถบรรทุกรถแบ็กโฮที่คาดว่าน่าจะเป็นต้นเหตุไปเกี่ยวสายไฟลงมานั้น ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหาตนแล้วแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รถของเขาจะเกี่ยวตัวสายไฟด้านบนลงมา แล้วปลอกหุ้มสายหลุดออกเหลือแต่ลวดที่มีความคม และร่วงลงมาบาดคอลูกชายตนที่กำลังขี่รถผ่านมาพอดี จนเสียชีวิต
ทั้งนี้ คู่กรณีได้เข้ามาขมาตนที่บ้าน และช่วยเหลือค่าทำศพเบื้องต้นเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท และหากเสร็จจากงานศพก็จะมีการนัดคุยเจรจากันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตนเองก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร มองว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น และอโหสิกรรมให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง เพราะคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปโกรธแค้นหรือผูกใจเจ็บ ส่วนในเรื่องของสาเหตุที่แน่ชัดว่าเป็นคนขับรถบรรทุกคนนี้ หรือตัวสายไฟต้นเหตุนั้นคือสายอะไรกันแน่ ต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางกอกใหญ่ ซึ่งขอเวลาในการตรวจสอบหลักฐานเพื่มเติมก่อน แล้วจะแจ้งกับครอบครัวให้ทราบต่อไป
สำหรับกระแสข่าวที่แชร์กันว่าลูกชายตนเสียชีวิตจากการฆาตกรรม เพระมีคนมาขึงลวดไว้นั้น ตนก็ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทุกอย่างเกิดจากอุบัติเหตุ เป็นเพียงการเข้าใจผิดเท่านั้น วอนหยุดแชร์ข้อมูลผิด ๆ ต่อไปด้วย
https://youtu.be/ky-03D68SY0