โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หนุ่มคลั่งตายแล้ว จุดไฟเผาเมีย ญาติอโหสิ เผยนาทีหนีรอด แฉสุดโหดขู่ฆ่ายกครัว (คลิป)

Amarin TV

เผยแพร่ 15 ต.ค. 2561 เวลา 19.10 น.
หนุ่มคลั่งตายแล้ว จุดไฟเผาเมีย ญาติอโหสิ เผยนาทีหนีรอด แฉสุดโหดขู่ฆ่ายกครัว (คลิป)
จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 61 นายณัฐพล ลิมปิติรังสี อายุ 26 ปี ก่อเหตุใช้น้ำมันราดจุดไฟเผานางสาวปิติพร พิกุล ภรรยา วัย 31 ปี ได้รับบาดเจ็บสา

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 61 นายณัฐพล ลิมปิติรังสี อายุ 26 ปี ก่อเหตุใช้น้ำมันราดจุดไฟเผานางสาวปิติพร พิกุล ภรรยา วัย 31 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งเด็กหญิง อายุ 3 ปี และนางสาวยุพา ช้างพันธ์ รวมทั้ง นายณัฐพลก็ได้รับบาดเจ็บ และถูกจับกุมได้ พร้อมของกลางขวดบรรจุน้ำมัน สาเหตุเกิดจากความหึงหวงจึงเกิดบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ ทำให้ห้องพักถูกเพลิงไหม้ มีผู้บาดเจ็บ ซึ่งรวมทั้งผู้ก่อเหตุด้วย 4 ราย (อ่าน : เปิดนาทีผัวโหด จุดไฟเผาเมีย ฉุนง้อไม่สำเร็จ ลามไหม้บ้าน สาหัสคู่ หวิดวอดทั้งอาคาร )

นายณัฐพล ลิมปิติรังสี ผู้ก่อเหตุ
นายณัฐพล ลิมปิติรังสี ผู้ก่อเหตุ

วันที่ 15 ต.ค. 61 ร.ต.อ.พชรพล ตอรบรัมย์ พนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ให้ข้อมูลว่า หลังจากนายณัฐพลถูกอายัดตัวได้ไม่นานก็เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ศพของนายณัฐพล อยู่ระหว่างชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังได้รับผลการชันสูตรก็จะติดต่อญาติให้มารับศพเพื่อไปดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

นางสมสวย ลิ่มวัฒนา เพื่อนบ้านห้องติดกับที่เกิดเหตุ
นางสมสวย ลิ่มวัฒนา เพื่อนบ้านห้องติดกับที่เกิดเหตุ

โดยนางสมสวย ลิ่มวัฒนา เพื่อนบ้านห้องติดกับที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า น.ส.ปิติพร และนายณัฐพล มาเช่าอาศัยอยู่ข้างห้องของตนประมาณ 1 เดือนแล้ว โดยปกติทั้ง 2 คนผัวเมีย มักจะมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง โดยนายณัฐพลมักจะกินเหล้าเมา และทะเลาะกับ น.ส.ปิติพร ซึ่งนายณัฐพลมักจะชอบนั่งเล่นโทรศัพท์ พร้อมกับกินเหล้าที่เชิงบันไดชั้น 5 และบางครั้งก็ลงไปนั่งกินที่ใต้อาคาร เมื่อมีอาการเมา ก็จะเริ่มเดินไปเคาะประตูห้อง แต่น.ส.ปิติพร ก็จะล็อกห้อง นายณัฐพลก็จะยืนง้ออยู่นาน จนน.ส.ปิติพรให้เข้า และในบางวันจะได้ยินเสียง น.ส.ปิติพร ถีบประตู เนื่องจากทั้งคู่ทะเลาะกัน และนายณัฐพลมักจะล็อกห้อง ขัง น.ส.ปิติพรไว้ในห้อง ซึ่งจะมีเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำ และไม่มีใครอยากไปยุ่ง เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องของสามีภรรยา แต่ช่วงหลังเริ่มทะเลาะกันรุนแรงขึ้น เพราะนายณัฐพลจะกินเหล้าเมา และเริ่มตบตีทำร้าย น.ส.ปิติพร เนื่องจากน.ส.ปิติพรพยายามขอเลิก เพราะนายณัฐพลเป็นคนอารมณ์รุนแรง

นอกจากนี้ ขณะเกิดเหตุไฟไหม้ ตนกลัวมากเนื่องจากห้องอยู่ติดกัน ถ้าดับไฟไม่ทัน ก็อาจต้องลามมาถึงห้องตนแน่นอน ส่วนตัวผู้ก่อเหตุ ตนเห็นว่ามักจะกินเหล้า และนั่งเหม่อลอยบริเวณบันได ซึ่งตนก็ไม่มั่นใจว่าติดยาเสพติดด้วยหรือไม่ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อมีคนข้างห้องตาย ยอมรับว่ากลัว และเสียใจ อยากให้ไปสู่สุขติ

น.ส.ยุพา ช้างพันธ์ น้าของน.ส.ปิติพร
น.ส.ยุพา ช้างพันธ์ น้าของน.ส.ปิติพร

ขณะที่น.ส.ยุพา ช้างพันธ์ อายุ 63 ปี น้าของน.ส.ปิติพร เปิดเผยว่า นายณัฐพล รู้ว่าน.ส.ปิติพร เลิกรากับสามีเก่า จึงมาขอคบหาดูในกับ น.ส.ปิติพร และเก็บเสื้อผ้ามาอยู่ที่ห้องด้วย ซึ่งช่วง 2-3 วันแรกนั้น นายณัฐพลก็ปกติดี แต่หลังจากนั้นก็เริ่มซื้อเหล้าเบียร์มากินในห้อง ซึ่งตนและ น.ส.ปิติพร ก็เตือนว่า ไม่ให้ทำพฤติกรรมแบบนี้ในห้อง เนื่องจากอยู่ในห้องมีทั้งเด็กและคนแก่ ทำให้นายณัฐพลไม่พอใจอย่างมาก ในช่วงหลังจึงมีเรื่องทะเลาะกันตลอด กระทั่งน.ส.ปิติพร ขอเลิกกับนายณัฐพล  และให้นายณัฐพลกลับไปอยู่กับพ่อแม่ ซึ่งหลังจากที่กลับไปได้เพียงไม่กี่วัน นายณัฐพลก็โทรมาพูดว่า “กูมีปืนนะ เดี๋ยวกูจะไปหามึงและลูก” ซึ่ง น.ส.ปิติพรได้พูดเกลี้ยกล่อมดี ๆ กระทั่งนายณัฐพลยอมขอโทษ แต่น.ส.ปิติพร ก็ไม่ยอมคืนดี

กระทั่งในคืนเกิดเหตุ แม่ของนายณัฐพล ได้โทรมาขอให้ น.ส.ปิติพร ยอมคืนดี เพราะนายณัฐพลบอกกับครอบครัวว่า จะฆ่าตัวตาย ถ้าหาก น.ส.ปิติพรไม่ยอมคืนดี แต่น.ส.ปิติพร ทนพฤติกรรมของฝ่ายชายไม่ได้ และได้ตอบกลับไปว่า “ถ้าจะฆ่าตัวตายจริง ๆ ก็คงช่วยอะไรไม่ได้”

สถานที่เกิดเหตุ
สถานที่เกิดเหตุ

กระทั่งเวลา 21.30 น. นายณัฐพลได้มาที่หน้าห้อง และยื่นมือมาราดน้ำมันมาทางประตูเหล็กดัด ซึ่ง น.ส.ปิติพร พยายามเข้าไปจับนายณัฐพลไม่ให้เปิดประตูเข้ามา และพยายามปัดมือของนายณัฐพลที่ถือไฟแช็กอยู่ด้วย จึงเกิดการต่อสู้ชุลมุนอยู่สักพัก แต่นายณัฐพลก็สามารถจุดไฟและทำให้ไฟลุกลามไปทั่วห้อง

น.ส.ยุพา กล่าวต่อว่า ขณะที่ไฟลุก ตนก็รีบอุ้มหลานสาววัย 3 ขวบ แล้วยืนหันหน้าชิดกำแพง ใช้ร่างของตัวเองบังเปลวไฟ ไม่ให้ถูกร่างกายของหลาน ขณะนั้นไฟก็ได้ลุกท่วมขาของนายณัฐพล จากนั้นนายณัฐพลก็วิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ ส่วนตนและน.ส.ปิติพร วิ่งฝ่าเปลวไฟเอาชีวิตรอดออกจากห้องไปขอความช่วยเหลือ

นอกจากนี้ ตนไม่คิดว่าสิ่งที่แม่ของนายณัฐพลบอกว่า ลูกจะฆ่าตัวตายนั้น คือจะมาเผาที่ห้องของตน และตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก และไม่คิดว่านายณัฐพลจะกล้าทำ แต่ยอมรับว่าค่อนข้างอึดอัด ที่อยู่ร่วมกับนายณัฐพล เพราะเขาเป็นคนมีอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ชอบมองตาขวางใส่คนในบ้าน ทั้งที่ไม่ได้มีเรื่องขุ่นเคืองกัน แต่เมื่อนายณัฐพลตายไปแล้ว ตนก็พร้อมที่จะอโหสิกรรมให้ จะได้หมดเวรกรรมกันในชาตินี้ และไม่ขอพบเจอกันในชาติอื่นอีก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0