โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

หนึ่งเดียวในโลก “ภาพปริศนาธรรม 3 มิติ” คติธรรมสอนใจ ที่วัดปัญญานันทาราม ปทุมธานี

Manager Online

เผยแพร่ 26 ก.พ. 2563 เวลา 08.22 น. • MGR Online

Youtube :Travel MGR

หากใครกำลังมองหาสถานที่ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ เพื่อไปนั่งคลายอารมณ์ให้รู้สึกสบายกายสบายใจ ขอแนะนำให้มุ่งไปที่ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีวัดแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงด้านสถานที่ปฏิบัติธรรม นั่นก็คือ “วัดปัญญานันทาราม” ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างอันโดดเด่น รวมทั้งยังมีภาพปริศนาธรรมแบบ 3 มิติ ที่ถือว่าเป็นหนึ่งเดียวในโลกเลยก็ว่าได้

ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ “วัดปัญญานันทาราม” ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเศษก็มาถึงยังหลักหก ปทุมธานี วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักว่าเป็นวัดที่หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ อดีตเจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ จังหวัดนนทบุรี เป็นผู้ก่อตั้งและสร้างขึ้นโดยมุ่งหวังให้เป็นมรดกธรรมและสถานที่ปฏิบัติธรรม

ไฮไลต์สำคัญของวัดแห่งนี้อยู่ที่ “ภาพปริศนาธรรมแบบ 3 มิติ” ซึงมีหนึ่งเดียวในโลกที่จัดแสดงอยู่ด้านล่างของเจดีย์พุทธคยา โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูป โดยแต่ละภาพจะมีความหมายแฝงไปด้วยคติธรรมสอนใจในเรื่องของอริยสัจ 4 ที่เปิดให้เข้าชมฟรี ภาพสามมิติเปิดให้เข้าชมเวลา 8.30-17.00น. หากใครเข้าไปก็เพียงแค่กรอกชื่อลงทะเบียนให้กับทางวัดเท่านั้น หรือใครอยากร่วมทำบุญก็สามารถหย่อนตู้รับบริจาคได้แล้วแต่กำลังศรัทธา

ภาพปริศนาธรรม 3 มิติ ภาพทั้งหมดเกี่ยวกับอริยสัจ 4 ได้รับความอนุเคราะห์ตรวจตีความก่อนที่จะวาดและติดตั้งดำเนินการจริงจากหลวงพ่อปัญญานันทมุนี (ส.ณ. สุภโร) เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษฏ์ และพระมหาเฉลิม ปิยทสฺสี เป็นเจ้าอาวาสวัดปัญญานันทาราม วาดโดยบุคลากรและนักศึกษา มทร.ธัญบุรี ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวอริยสัจ 4 ได้อย่างลงตัว

โดยภาพวาดทั้งหมดนี้จะสอดแทรกหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาในเรื่องอริยสัจ 4 เพราะการที่จะเข้าถึงปัญญาเพื่อรู้เท่าทันความทุกข์ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของโลก จะต้องเข้าใจในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องความจริงอันประเสริฐ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธและมรรค ซึ่งผู้เข้าชมสามารถสัมผัสผลงานศิลปะดังกล่าวนี้อย่างใกล้ชิด ทำให้เกิดประสบการณ์ร่วมไปกับภาพ ชวนให้คิดและตระหนักถึงหลักธรรมคำสอนอย่างเพลิดเพลิน สนุกสนาน และไม่น่าเบื่อ โดยทุกๆภาพของที่นี้จะมีคำอธิบายทางธรรมทุกรูป รวมถึงมุมกล้องและตัวอย่างการถ่ายภาพเพื่อเป็นแนวทางให้แก่ผู้เข้าชม

อย่างที่ภาพชุดที่ 1 ทุกข์ (สภาวะบีบคั้น) สมุทัย (เหตุแห่งทุกข์) จากภาพจิตรกรรม ช้าง เปรียบเหมือนกับมนุษยที่มีอวิชชา มีความอยากในตัณหาทั้ง 3 นำมาซึ่งความทุกข์และเหตุแห่งทุกข์

ต่อมาเป็นภาพแสดงถึงราหูอาฆาตแค้นด้วยการอมจันทร์ ทำให้เกิดความทุกข์ตกในสภาวะไร้อิสรภาพ เกิดความไม่สามัคคี ความอาฆาตแค้น ซึ่งเปรียบได้กับภาวะจิตที่เป็นโพธิปัญญา ถูกครอบงำด้วยความโกรธ ทำให้สูญเสียแสงสว่าง แสงธรรมถูกบดบัง สูญเสียความรู้ ความดี ความสามารถ และทิ้งความพินาศไว้เบื้องหลัง

ถัดไปจะพบกับภาพชุดที่ 2 ทุกข์นิโรธ (ความดับทุกข์) และทุกข์นิโรธ คามินีปฏิปทา (ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ เป็นภาพพระพุทธรูปที่กำลังนั่งสมาธิและมีบึงบัวอยู่บริเวณด้านหน้า โดยมีความหมายถึง การบำเพ็ญ คือ การเสพเสนาสนะอันสงบสุข ที่สัปปายะร่มเย็นพึงไปสู่บรรยากาศสภาพแวดล้อมที่มีต้นไม้ ท้องน้ำ ถ้ำ ลำธาร ป่า เขา และสระบัว เพื่อฝึกปฎิบัติให้จิตสงบดับกิเลส เกิดสมาธิและปัญญาด้วยสภาวะอยู่เหนือ ความทุกข์และความสุข โดยภาพจิตรกรรมแสดงถึงสถานที่มทร.ธัญบุรี เป็ฯที่สงบร่มเย็นและสัญลักษณ์พระพุทธรูปปางสมาธิแสดงการปฏิบัติมุ่งถึงพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน)

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพปริศนาธรรมแบบ 3 มิติ ที่ได้นำมาให้ชมกัน หากใครสนใจภาพวาดดังกล่าวก็ลองหาเวลาโอกาสเพื่อเข้าไปเยี่ยมชมกันได้

เมื่อชมภาพปริศนาธรรมจบแล้ว และเดินออกมาด้านนอก จะพบกับเจดีย์พุทธคยาจำลอง มีบ่อน้ำสี่เหลี่ยมขนาดเล็กตั้งอยู่ตรงกลาง เดินตรงเข้าไปมีบันไดทางขึ้นไปยังเจดีย์ ตรงกลางเจดีย์มีรูปหล่อของหลวงพ่อปัญญาประดิษฐานอยู่ด้านหน้าให้ได้กราบไหว้

ส่วนบรรยากาศโดยรวมของวัดปัญญานันทาราม มีความร่มรื่นท่ามกลางต้นไม้สีเขียว สมกับเป็นสถานที่เหมาะกับการปฏิบัติธรรม มีชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธามาร่วมกิจกรรมต่างๆ ทางพุทธศาสนาที่ทางวัดจัดกิจกรรม เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เข้ามาร่วม

สำหรับประวัติความเป็นมาของวัดปัญญานันทาราม เดิมเป็นที่ดินของ นายพิชิตและนางจำรัส ทองสีม่วง ต่อมาในปี พ.ศ. 2528 ได้ถวายที่ดิน 6 ไร่ แก่คณะสงฆ์โดยมีพระเฉลิม ปภสฺสโร เป็นผู้รับมอบ และก่อตั้งเป็น “สำนักสงฆ์สนเฒ่า” แต่ต่อมาขาดพระภิกษูดูแลไปช่วงระยะหนึ่ง นางบุญส่ง โพธิจันทร์ จึงได้ประสานงานและร่วมกันถวายที่ดิน และสำนักสงฆ์นี้แด่ พระเทพวิสุทธิเมธี (หลวงพ่อปัญญานันทะ) องค์ประธานศูนย์สืบอายุพระพุทธศาสนา วัดชลประทานรังสฤษฏ์ จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2535 และได้รับอนุญาตจัดตั้งวัดชื่อ วัดปัญญานันทาราม เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2537

ต่อมาและคณะศิษยานุศิษย์โดยศูนย์สืบอายุพระพุทธศาสนา ได้ร่วมใจ ซื้อที่ดินเพิ่มเติม เพื่อสร้างวัดปัญญานันทารามเป็นธรรมสมโภช 84 ปี พระธรรมโกศาจารย์ (ปัญญานันทภิกขุ) โดย พระมหาสง่า สุภโร (ปัจจุบัน : พระปัญญานันทมุนี) พระมหามานพ ปญฺญาวชิโรและ พระมหาสมโภช ฐิติญาโณ จากวัดชลประทานรังสฤษฏ์ ร่วมสนองงาน ก่อสร้างวัด และกิจกรรมงานเผยแผ่พระศาสนา โดยมุ่งเน้นการศึกษา อบรมปฏิบัติธรรม และเผยแผ่ธรรมะ จนได้รับการยอมรับจากสถานศึกษา หน่วยงานราชการและ เอกชนหลายแห่ง ส่งบุคลากรเข้ารับการอบรม อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

จากนั้นไม่นานวัดปัญญานันทารามได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ 2 พฤษภาคม 2545 ปัจจุบันมีเนื้อที่ 69 ไร่ 3 งาน 22 ตารางวา มีพระปัญญานันทมุนี (สง่า สุภโร) เป็นประธานสงฆ์ และพระมหาเฉลิม ปิยทสฺสี เป็นเจ้าอาวาส

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager

ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0