ช่วงนี้อากาศบ้านเราไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ เป็นเพราะ "ฝุ่นละอองและควันพิษ" ที่ลอยเต็มไปทั่วทั้งในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล ทำให้วันนี้เราต้องออก!!! ออกจากเมือง…ไปสูดอากาศดีๆ ที่ "ผาหินกูบ" จ.จันทบุรี กันดีกว่า
สำหรับ "ผาหินกูบ" อยู่ที่ ต.ตะเคียนทอง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ต้องบอกก่อนว่าที่นี่เปิดให้ขึ้นเพียงวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น เพราะอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวนั้นเอง
ในส่วนของเส้นทางขอบอกเลยว่าไม่ใช้ง่ายๆ นะจ๊ะ แต่ก่อนออกเดินทางเราต้องไปมารวมกันที่นี้ก่อนเลย "จุดรวมพล" ลานสำหรับจอดรถ เช็คตรวจสัมภาระก่อนขึ้นเขานั้นเอง
เมื่อตรวจเช็คทุกอย่างและถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว เราก็มาเริ่มเดินกันดีกว่าจ๊ะ แต่ๆ อยากแนะนำว่าก่อนขึ้นเขาเราควรทำธุระส่วนตัวและกินอาหารเช้าให้เรียบร้อยนะจ๊ะ และต้องเตรียมสำหรับอาหารเที่ยงด้วยนะ…ไม่งั้นจะหิว เพราะถึงระยะทางที่ขึ้นไป "ผาหินกูบ" จะแค่ 8 กิโล แต่ใช้เวลาเดินเท้าถึงครึ่งวันกันเลยทีเดียวขณะนี้ 9 โมงตรง…ได้เวลาแล้วไปค่ะ "Lets gooooooooo"
สำหรับเส้นทางที่ได้เดินขึ้นในช่วงแรกประมาณ 1 กิโลแรก จะเป็นป่าชื้นๆ นิดหน่อย มีความชันเล็กน้อย แต่ถ้าเดินไปถึง 1 กว่าๆ จะได้ยินเสียงของลำธารอยู่ไกลๆ เราจะมองไม่เห็น เพราะอยู่คนละเส้นทางกัน เราสามารถเดินลงไปตรงทางแยกได้ (ขอแนะนำขาขึ้นอย่างเพิ่มเดินไปดีกว่า…เอาเวลาไปเดินขึ้นให้ถึงผาข้างบนให้เร็วที่สุดจะดีกว่าน๊า)
เดินต่อไปอีกสักพักใกล้ถึงจุดพักจุดแรก ช่วงนี้จะชื้นๆ หน่อย คำแนะนำของเหล่าพี่ๆ เจ้าหน้าที่คือ "ระวังตัวทาก" นะ แต่เขาบอกว่า…โชคดีที่ช่วงเรามาฝนไม่ตก ตัวทากเลยไม่มี!!!และเราก็ถือว่าเป็นกรุ๊ปที่โชคดีมาก เพราะเราโดนทากเกาะ!!! เจอแบบนี้ก็ต้องร้องกรี๊ดดดดดลั้นป่าไปเลย….คุณผู้ชม ถือว่าโชคดีก็แล้วกันเนอะๆ ไปค่ะเดินต่อไม่รอเวลาแล้ววว…ว จุดพักแรกที่เรามาถึงประมาณเกือบๆ
จริงๆ แล้วการเดินป่าครั้งนี้ ถือว่าโชคดีมาก เพราะฝนไม่ตก อากาศไม่ร้อนมาก อาจจะเป็นเพราะบนเขายังอุดมสมบูรณ์อยู่นั้นเอง
และระหว่างทางที่เดินขึ้นก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นนะ เพราะที่นี้จะมีจุดพักอยู่ 2 จุดใหญ่ๆ ถือว่าเป็นจุดพ้อยท์ ที่ให้เราได้พัดกินข้าว เติมน้ำที่ไหลมาจากลำธาร(เย็นมากๆ เย็นเหมือนน้ำแช่เย็นเลยกินแล้วสดชื่น) เรียกว่า "หินแปดเหลี่ยม" แต่ถ้าเลยไปอีกนิด (หมายถึงอีก 1 กิโลกว่าๆ) ก็จะเป็นจุดที่เราได้พักแบบเต็มที่ก็คือ "ลำธาร" น้ำโคตรเย็น สดชื่น แถมมีปลากเล็กปลาน้อย นั่งห้อยขาลงไปในน้ำให้ปลาตอดเล่นนึกว่าร้านสปาดีๆ นี่เอง
เมื่อเราผ่านครึ่งทางมาได้แล้ว เราก็มาเดินต่ออีกครึ่งทางที่บอกเลยว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะอีกครึ่งทาที่เหลือเราต้องเจอกันความชั้นที่ขนาด เกือบๆ 90 องศา ไม่ได้เวอร์นะจ๊ะ แต่ยิ่งสูงยิ่งชันและยิ่งสูงเรายิ่งต้องคลานแทนเดินกันเลยทีเดียว และนั้คือสัญญาณที่จะบอกว่า "ใกล้แล้ว…ใกล้ถึงแล้วเว้ยยย!!!"
จากเวลาที่เราขึ้นมาตั้งแต่ 9 โมงตรงจนตอนนี้ก็ประมาณบ่าย 3 นิดๆ อีกประมาณ 500-600 เมตรก็จะถึงยอดแล้ว และระหว่างทางที่เราเดินขึ้นไปจุดที่พัก เราจะเห็นก็อกน้ำและถังพลาสติกสีเหลี่ยมที่เต็มไปด้วยน้ำและฝุ่น จุดนี้แหละคือ ที่สำหรับ อาบน้ำ, ล้างจาน และจุดน้ำดื่ม เรียกว่า จุดสาธารณ(ะ)สุข สุขที่ได้ใช้ยังไงละคะ
และหลังจากที่เราได้ไปเดินกันมาเกือบทั้งวันแล้ว เราก็มาถึงจุดหมายกันแล้ว และนี่ก็คือ "ผาหินกูบ" ผาที่เหมือนกับหลังช้าง ตรงกลางจะตัดด้วยเส้นสีขาว ถ้านั่งตรงนี้จะเห็นวิวรอบๆ ที่เต็มไปด้วยหุบเขา เหมาะที่จะนั่งรับลมยามเย็นตรงนี้อีกด้วย
ขอสูดอากาศเข้าเต็มๆ ปลอดหน่อยนะ
นอกจาก "ผาหินกูบ" แล้ว ยังมีจุดชมวิว ที่แค่เดินข้ามเขาอีกนิดก็จะเจอกับจุดชมวิวที่เรียกว่า "ผาหมี" เราจะสามารถเห็นวิวฝั่งตัวเมืองและเส้นทางที่เราใช้เดินมาเมื่อช่วงเช้านั้นเอง
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับทริปเดินป่าครั้งแรกแต่ถ้าใครอยากรู้ว่าสนุกและเหนื่อยแค่ไหนก็อยากให้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเอง แต่ขอบอกก่อนว่าทริปนี้จะคล้ายๆกันเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีสมัยประถมเลยทั้งได้เดินป่าและทำกับข้าวกินเองบอกเลยฟินสุดๆ
อีกอย่างที่อยากจะบอก… ที่นี่ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีห้องพักต้องเอาเต้นมาเองและถ้าปวดหนักก็เลือกจุดได้เลยจ๊ะข้างทางในป่าเดินเข้าลึกๆหน่อยนะเดี๋ยวจะซ้ำลอยกันคนอื่น
แล้วมาพบกันจะไปที่ไหนละก็…"ตาม….กวางมาเลยคะ"
