"หนิง ปณิตา" ออกตัวโพสต์คำคมเกี่ยวกับความรักที่ไม่ซื่อสัตย์ ไม่เกี่ยว "จิน" แต่โบ้ยถามสามีเรื่องข่าวลือจับได้ซุกกิ๊ก บอกครอบครัวยังแฮปปี้ แต่โยนให้ถามสามีแฮปปี้ด้วยหรือไม่ มั่นใจไม่กระทบ "ณิริน" เลี้ยงลูกใกล้ชิด ปัดถูกซ้อมจนเข้ารพ. ลั่นต่อให้สตรองแค่ไหน หากมีความรุนแรงในครอบครัวก็ไม่เอา ไม่ได้ปลง ยกทุกอย่างเป็นบทเรียน
ถูกจับตามองหนักมาก ว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตคู่อีกหรือเปล่า ทั้งกรณีเข้ารพ. ท่ามกลางข่าวลือถูกสามี "จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ" ซ้อม ซึ่งหลังออกจากรพ. "หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ" โพสต์ดรามารัวๆ แถมถูกจับตามองเรื่องโพสต์คำคมเกี่ยวกับความรักที่ไม่ซื่อสัตย์ ตอกย้ำด้วยสื่อดังเผยข้อความทำนองหนิงจับได้สามีนอกใจ งานนี้เจ้าตัวขอเคลียร์ทุกเรื่องร้อนในงานแถลงข่าว "คุณหมอกุ๊กไก่" ต้นตำรับ "หมอปั้นเต้ายืน1" แห่ง "ณัฐชญา คลินิก" จับมือ "บัญชา เงินด่วน" เปิดแคมเปญฮอต "สวยก่อน… ผ่อนหลักพัน" ณ ณัฐชญา คลินิก ซ.เสรีไทย 61 แม้จะเปิดใจว่าคำคมที่โพสต์ไม่เกี่ยวกับสามี แต่เรื่องจับได้มีกิ๊ก กลับโยนให้สามีเป็นฝ่ายตอบ
"ที่โพสต์เรื่องความรักที่เกิดขึ้น เมื่อเช้าเพื่อนหนิงก็โทร.หาหลายคนว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ซึ่งต้องบอกว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือคุณยายจ๋าแม่ชีศันสนีย์ ซึ่งคุณยายได้มอบหนังสือให้หนิงอ่าน ก็รู้สึกว่ามันใช่เนอะ หนิงจะติดแฮชแท็กในโพสต์ในไอจีของหนิงว่าเรื่องราวดีๆ ที่ต้องแชร์ เวลาหนิงมีอะไรที่ดีๆ หนิงก็จะเอามาแชร์ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของเราค่ะ มันเป็นเรื่องในหนังสือค่ะ"
"คนก็โยงว่าที่ป่วยเพราะโดนสามีซ้อม หรือมีปัญหาครอบครัว แยกทีละประเด็นดีกว่า เพราะเดี๋ยวจับหลายๆ ประเด็นผูกกัน สุดท้ายก็จะโยงว่าคือปัญหาครอบครัว เอาเป็นว่าเรื่องที่โพสต์เกี่ยวกับคำคมดีๆ เกี่ยวกับเรื่องความรัก อันนี้บอกเลยว่าไม่ได้เกี่ยวกับครอบครัว เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ท่านแม่ชีศันสนีย์ท่านได้เขียนหนังสือเอง และรวบรวมเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวกับเรื่องความรัก ไม่ว่าจะความรักในครอบครัว ความรักระหว่างผู้หญิงผู้ชาย ความรักแม่ลูก ก็เป็นเรื่องราวดีๆ จากหนังสือธรรมะดีๆ ที่อ่านแล้วเข้าใจ แต่ในส่วนของหนิงรู้สึกว่าส่วนไหนที่เอามาแชร์แล้วมันเป็นตัวหนิงก็คือต้องเป็นแนวนี้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่บอกว่าหนิงเข้าโรงพยาบาลเพราะถูกซ้อม อันนี้ไม่ใช่ค่ะ หนิงก็ไม่รู้ว่าข่าวมาจากที่ไหน"
"ก็ตกใจนิดนึงเหมือนกันว่ามันมาจากไหน เพราะชีวิตคู่ของครอบครัวถ้ามีการใช้ความรุนแรงในเรื่องของการลงไม้ลงมือ หนิงว่าก็ไม่ควรใช้ชีวิตคู่แล้ว ซึ่งตรงนี้ต้องบอกเลยว่าไม่มีค่ะ"
ไม่ได้คุยกับสามี ยันสตรองแค่ไหนหากใช้ความรุนแรงในครอบครัวก็ไม่เอา อยู่ไม่ได้
"ไม่ได้คุยเรื่องนี้กับคุณจินเลยค่ะว่ามีเรื่องข่าวซ้อมหรืออะไร อย่างที่บอกว่าเรื่องการใช้ชีวิตคู่ ปัญหาของครอบครัวถ้ามีการใช้ความรุนแรง อันนี้หนิงคงไม่อยู่ค่ะ ต่อให้สตรองแค่ไหนก็อยู่ไม่ได้นะคะ"
ปัดตอบจับกิ๊กสามี โบ้ยถามอีกฝ่ายเอาเอง
"ถ้าในส่วนของกรณีอันนี้ หนิงต้องบอกเลยว่าต้องรอคุณจินเป็นคนตอบ หนิงคงตอบแทนคุณจินไม่ได้ แต่หนิงยืนยันครอบครัวหนิง ณ วันนี้ยังมีความแฮปปี้และยังมีความแข็งแรงดี ซึ่งหนิงไม่สามารถที่จะไปยืนยันแทนคุณจินได้ คือถ้าคุณจินมีโอกาสออกสื่ออันนั้นต้องถามคุณจินค่ะ"
"ถามว่านอยด์มั้ยประเด็นนี้กลับมาอีกแล้ว มันก็เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เป็นธรรมชาติที่ทำให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจชีวิตคู่มากขึ้น แล้วก็เข้าใจความเป็นผู้ชายมากขึ้น"
ไม่ได้ปลง แต่ทุกอย่างคือบทเรียน ยันสำหรับตัวเองครอบครัวยังอบอุ่น ส่วนสามีแฮปปี้หรือไม่ต้องถามอีกฝ่ายเอง
"คือจริงๆ ชีวิตเราก็คงไม่ได้ปลงอะไรถึงขนาดนั้น แต่ว่าทุกๆ บทเรียนของชีวิตมันก็ทำให้เกิดการเรียนรู้ในแต่ละวัน อยู่ที่ว่าเราจะมองมุมบวกหรือว่าจะมองมุมลบ เหมือนตอนที่หนิงไม่สบายอยู่โรงพยาบาลมันก็สอนอะไรหลายๆ อย่างให้หนิงได้คิดในเรื่องที่มันเกิดขึ้น (ตอนนี้ชีวิตครอบครัวถือว่าแฮปปี้มั้ย?) ก็อย่างที่หนิงบอกว่ารายละเอียดเนี่ย ถ้ามีโอกาสเจอคุณจินถามคุณจิน แต่ว่าในส่วนตัวหนิงเองหนิงถือว่าชีวิตครอบครัวหนิงวันนี้ก็ยังเป็นครอบครัวที่มีความสุขและอบอุ่น"
ยังไม่เข้าหู "น้องณิริน" แต่เชื่อปิดไม่ได้ เลี้ยงลูกใกล้ชิดไม่มีอะไรน่าห่วง พาหาจิตแพทย์เด็กตลอดเวลา
"ณ วันนี้ยังไม่ถึงหูน้องแต่ว่ามันปิดไม่ได้หรอก มันต้องถึงหูเขาในสักวันนึง ซึ่งตรงนี้หนิงไม่ค่อยเป็นห่วง เพราะหนิงเลี้ยงลูกค่อนข้างใกล้ชิด เลี้ยงลูกแบบที่มีอะไรเราพูดคุยกัน แล้วหนิงมีไปพบคุณหมอจิตแพทย์เด็กตลอดเวลาอยู่แล้ว ซึ่งตั้งแต่เด็กๆ ทุกคนจะรู้อยู่แล้วว่าเราเลี้ยงแบบนี้นะ ตรงนี้หนิงไม่เป็นห่วงเลย หนิงเชื่อว่าณิรินต้องได้ความสตรองจากตัวหนิงไปอย่างน้อยๆ ครึ่งนึงอ่ะค่ะ (เหมือนกับข่าวลือว่ามีกิ๊กแล้วหนิงก็โพสต์เรื่องซื่อสัตย์?) อย่างที่บอกง่าต้องแยกเป็นประเด็นๆ ไป เพราะว่าถ้าเอาทุกอย่างมารวมกันมันก็ยาก"
ไม่เหนื่อย ยืนหนึ่งตลอด แต่ก็มีเรื่องกิ๊กตลอด บอกเป็นบทเรียน
"ไม่นะคะ อย่างที่บอกว่าทุกๆ เรื่องราวในชีวิตมันคือบทเรียนดีๆ บทเรียนนึงที่มันผ่านเข้ามาแล้วถ้าเราทำความเข้าใจกับมันเราก็สามารถเอาสิ่งเหล่านี้ไปเป็นโยชน์กับคนอื่นได้ เหมือนที่เวลาหนิงอ่านข้อความหรืออะไรแล้วรู้สึกว่ามีประโยชน์ก็จะโพสต์แล้วติดแฮชแท็กของหนิงว่าเรื่องราวดีๆ ที่ต้องแชร์ มันมีเรื่องราวอะไรมากมายแต่พอมันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักปุ๊บ ทุกคนจะจับตามองว่าเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า”
ยัน "จิน" ยังเป็นคนที่ดี และน่ารัก
“เขาก็ยังเป็นคนที่ดี ที่น่ารักอยู่ค่ะ เดี๋ยวเขาก็คงอ่านว่าเรื่องราวโยงไปถึงเขาแล้ว”
ไม่ให้ค่าคนคอมเมนต์ด่าแกล้งป่วยเข้ารพ. จวกใครจะยอมเสียเงินครึ่งล้านป่วย ย้อนเอาใบรับรองพทย์มาแถลงเป็นทางการมั้ย
"มีโพสต์ว่ามีคนถามว่าแกล้งป่วยรึเปล่า อันนี้มันขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแล้วก็วิจารณญาณของคนๆ นั้น คือในขณะที่คนๆ นึงทุกข์อยู่ ทุกข์ในที่นี้คือไม่สบายอยู่ แล้วถ้าจะไปคอมเมนต์เขา หรือจะไปคิดแบบนั้นมันก็มองย้อนกลับไปให้เห็นถึงวุฒิภาวะของคนๆ นั้นว่าเป็นแบบไหน ฉะนั้นมันก็ดี ถ้าสมมติแบบว่ามีคนแบบนั้น แล้วคิดแบบนั้นจริงๆ แล้วสมมติเป็นคนที่เรารู้จัก เราก็จะได้รู้ว่าแค่กันคนๆ นั้นให้ห่างออกไปจากตัวเรา แล้วก็ไม่ต้องไปใส่ใจ เพราะเราก็ไม่ให้ค่าสำหรับคนแบบนี้เหมือนกัน คงจะไม่มีใครแบบว่าเสียเงินทีเกือบครึ่งล้าน ในขณะที่นอนป่วยอยู่โรงพยาบาล หรือเราต้องเอาใบรับรองแพทย์ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการ"
ยังมือไม้สั่น ไม่หายดี 100 เปอร์เซ็นต์ มีลูกจะล้มไม่ได้
"ก็อย่างที่เห็น หนิงแข็งแรง 100% มั้ย คือทุกคนเห็นหนิงทำงานได้ ทุกคนก็จะบอกว่า หนิงแข็งแรง 100% แต่ถ้าใครที่อยู่ใกล้ๆ หนิงจะรู้ว่ามือไม้หนิงหรืออะไรก็แล้วแต่ มันก็จะมีแบบสั่นๆ เล็กๆ อยู่ หนิงจะยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงได้ไม่นาน แต่ถามว่าทุกสิ่งทุกอย่าง ใจเรามันจะเป็นคนสั่งกาย ถ้าใจเราไม่ป่วย กายเราจะไม่มีวันป่วยเด็ดขาด แต่ถ้าหนิงนอนอยู่บนโรงพยาบาลนั้น หนิงว่าหนิงคงจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า เป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่ถัาหนิงได้ออกมาทำงาน พลังหนิงมี ที่สำคัญคือหนิงล้มไม่ได้ หนิงมีลูก หนิงมองหน้าลูกแล้วบอก ฉันต้องออกไปทำงาน แล้วงานมันคือความสุขของหนิง ลูกคือความสุขของหนิง ฉะนั้นก็ต้องทำ"
"ถ้าเทียบจากวันที่ป่วย หนิงว่าสัก 85% แล้วค่ะ เมื่อวานก็ยังไปกายภาพอยู่ค่ะ มันเริ่มมาจากไม่ได้นอน 2-3 คืน เพราะทำงานเกี่ยวกับเรื่องบทละครอยู่ คือเราก็หน้ามืดค่ะ พอหน้ามืดเสร็จก็ล้ม แต่โชคดีที่เรามีเบาะในห้องนอน รองอยู่บางๆ แต่ถ้าไม่มีเบาะรอง ตรงท้ายทอยคงกระแทกคงเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้มันก็เลยกลายเป็นว่า มันไปเป็นในส่วนที่อยู่ตรงกล้ามเนื้อตรงท้ายทอยค่ะ กล้ามเนื้อเหมือนตกใจ มันช็อก มันไปกดตรงปลายประสาท มันก็เลยทำให้เรามีอาการแขนชา ก็จะเวียนหัวค่ะ ก็พยายามทำอะไรให้ช้าลง"
เผยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ เชื่อหมอทุกอย่าง หวั่นส่งผลระยะยาว
"ถามว่ากลัวมีผลระยะยาวมั้ย หนิงเชื่อหมอทุกอย่าง หมอให้ทำกายภาพ ให้กินยา ให้ทำอะไร หนิงทำทุกอย่างตามที่หมอบอก เพราะไม่อยากให้ส่งผลในระยะยาว เพราะเรารู้เลยว่าเวลาป่วยแล้วนอนอยู่บนเตียงเป็นอาทิตย์ ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เรียกว่าโรคปลายประสาทอักเสบค่ะ"