โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

หนิง ปณิตา เล่าแล้วปมโพสต์แฉตำรวจ ยอมรับเป็นคนใจร้อน คิดเร็วทำเร็วไปหน่อย

The Bangkok Insight

อัพเดต 22 ต.ค. 2562 เวลา 06.59 น. • เผยแพร่ 22 ต.ค. 2562 เวลา 06.42 น. • The Bangkok Insight
หนิง ปณิตา เล่าแล้วปมโพสต์แฉตำรวจ ยอมรับเป็นคนใจร้อน คิดเร็วทำเร็วไปหน่อย

กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียล สำหรับกรณีของพิธีกรและนักแสดงสาว “หนิง – ปณิตา ธรรมวัฒนะ” ออกมาโพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมหลังถูกตำรวจจับ โดยยอมรับว่าตัวเองทำผิดกฎจราจร แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมเขียนใบสั่ง แถมยังเดินไปเดินมาทั่วรถและถามนั่นถามนี่ จนทำให้เจ้าตัวมองว่าตำรวจจะเรียกรับเงิน

จนกระทั่ง  “ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร – บก.02”  ได้ออกมาโพสต์ข้อความตอบโต้กลับแบบหนังคนละม้วนว่า สาเหตุที่ตำรวจเดินไปเดินมา เพราะไม่ทราบว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถยี่ห้ออะไร และเมื่อดูแผ่นป้าย ก็พบว่ารถยังไม่ชำระภาษีประจำปี อีกทั้งรถยังถูกสวมทะเบียน โดยเอาทะเบียนของรถ BMW มาใส่รถ Maserati จนเกิดเป็นกระแสตีกลับไปยังดาราสาวในแง่ลบมากมาย

ล่าสุด (22 ต.ค.) หนิง ปณิตา ได้มีการโฟนอินผ่านรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ เพื่อชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “ในส่วนของเราอะไรที่ผิดเราก็ยอมรับ เรารู้ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ เรายอมรับตรงนั้นอยู่แล้ว นอกจากเรื่องขับทับเส้นทึบ และเรื่องไม่พกใบขับขี่ คุณตำรวจก็ได้เดินวนแล้ววนอีกรอบรถ บอกว่าป้ายภาษีต้องโดนด้วยนะ ซึ่งเราก็ยอมรับผิดทุกประเด็น ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ”

“สำหรับประเด็นเรื่องการเรียกรับเงิน เขาไม่ได้เรียก ไม่ได้พูด แต่สาเหตุที่เราโพสต์ เพราะในสถานการณ์ตรงนั้น เราเชื่อว่าใครเจอ ก็จะทำให้คิดไปแบบนั้นว่าทำไมเขียนใบสั่งให้เราช้าจัง ทำไมต้องถามเยอะ ซึ่งเราก็ใจร้อนตัดสินใจด้วยความรู้สึกตัวเอง คือคุณตำรวจเขาก็ทำถูกต้องทุกอย่าง ยอมรับว่าเราอาจจะคิดเร็วทำเร็วเกินไป”

“สำหรับโซเชียลที่ออกมาถล่มเรา ก็ถือว่าเป็นกระจกชั้นดีที่สะท้อนให้เราปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ส่วนประเด็นเรื่องป้ายทะเบียนคนละอัน จริงๆ เราซื้อรถคันนี้ต่อมาจากคนรู้จัก ซึ่งเจ้าของรถมีความจำเป็นที่จะต้องเอาทะเบียนรถคันนี้คืนแล้ว ขั้นตอนของเราคือรอสลับเลขทะเบียนอยู่ ก็ถือเป็นความผิดพลาดที่ว่าเราเอาเลขที่ไม่ได้ใช้มาใส่ไว้ก่อน ในส่วนตรงนี้สามารถเช็กได้ว่าไม่ใช่รถผิดกฎหมายอะไรทั้งสิ้น”

“ในมุมของเรา เราแค่มองว่าเรายอมรับผิดทุกอย่างแล้ว ทำไมถึงเขียนช้าแค่นั้นเอง มันก็ตีความได้ว่า เขาอาจจะรอบคอบในการที่จะต้องตรวจสอบก่อน แต่เราดันใจร้อนไปเอง ส่วนการลบโพสต์ดังกล่าว ตอนแรกเราก็คิดว่าจะลบโพสต์ แต่เราก็เห็นเขาแชร์กันไปหมดแล้ว เราเลยไม่ได้ลบ และตอนนี้คนขับรถก็ได้ไปเสียค่าปรับตามใบสั่งแทนให้ที่ธนาคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0