เมื่อหนังบางเรื่องผ่านระยะเวลาที่นานมากพอ สัก 15-20 ปีที่กำลังพอดิบพอดีกับการบ่มเพาะความเป็นตำนาน ก็จะได้ฤกษ์สำหรับการรีเมกหนังอีกครั้ง เพราะแฟน ๆ ดั้งเดิมก็จะได้พาลูก ๆ ของเขาพวกเขาไปสนุกกับหนังอีกครั้ง และถือเป็นการสร้างฐานแฟนหนังที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหม่ด้วย นั่นก็เป็นเหตุผลที่หนัง Scream 5 จะกลับมาสร้างความหวีดให้กับคอหนังในยุค 2020s อีกครั้ง
Scream ภาคแรกออกฉาย ปี 1996 เป็นต้นตำหรับหนังหวีดสยองที่ตัวร้ายจะใส่หน้ากากยางไล่ฆ่าตัวละครไปที่ละคร จนเกิดหนังหวีด-เชือด-สยองทำนองนี้ตามมาอีกมากมายในยุค 90s ความสำเร็จของหนัง Scream ไม่เพียงทำให้มีภาคต่อออกมาอีกในปี 1997, 2000 และ 2011 รวมเป็นทั้งหมด 4 ภาค
ภาคต้นฉบับยังถือเป็นหนังแนวเชือดสยองที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาลอยู่หลายปี จนกระทั่งถูก Halloween ฉบับใหม่ที่ออกฉายในปี 2018 โค่นแชมป์ไป เฉพาะภาคแรกทำรายรับรวมทั่วโลก 173 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 14 ล้านเหรียญฯ และหากนำรวมทุกภาค หนังก็ทำกำไรจากรายรวมทั่งโลกทำไป 603 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 119 ล้านเหรียญฯ
หนังทั้ง 4 ภาคแรกกำกับโดยเจ้าพ่อหนังสยองขวัญผู้ล่วงลับ Wes Craven ผู้กำกับ A Nightmare on Elm Street (1984) และ Red Eye (2005) รวมถึงหนังสยองขวัญเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่เขาเขียนบท ทั้ง Freddy vs. Jason (2003), The Hills Have Eyes (2006) และThe Last House on the Left (2009) ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตไปในปี 2015 ภาคนี้จึงเป็นครั้งแรกที่ Scream จะเปลี่ยนมือผู้กำกับเป็นคนอื่น
ซึ่งผู้กำกับที่จะมารับไม้ต่อก็เป็นหน้าใหม่ที่น่าจับตาอย่าง Matt Bettinelli-Olpin และTyler Gillett จาก Ready or Not (2019) และ Devil’s Due (2014) โดยได้ Kevin Williamson มือเขียนบทภาคแรกกลับมาเป็นที่ปรึกษางานสร้างด้วย ส่วนมือเขียนบทภาคใหม่จะเป็น James Vanderbilt จากMurder Mystery และ Zodiacและ Guy Busick จาก Ready or Not และซีรีส์สยองขวัญ Castle Rock
เรื่องราวจะเป็นตอนต่อจากภาค 4 อย่างแน่นอน เพราะนักแสดงที่เป็นตัวหลักและมีบทบาทมาทุกภาค 3 คนอย่าง David Arquette, Neve Campbell และ Courteney Cox อยู่ในรายชื่อของนักแสดงที่ค่ายหนังกำลังเจรจาให้กลับมา David Arquette ได้ยืนยันการกลับมารับบทนายอำเภอ “ดิวอี ไรลีย์” เรียบร้อย ส่วน Neve Campbell นักแสดงวัย 46 ปีที่ดังจากหนังเรื่องนี้แค่เรื่องเดียว ก็ให้สัมภาษณ์ว่า *“พวกเขามาติดต่อฉัน และเราเพิ่งเริ่มคุยกันเมื่อสักเดือนครึ่งมานี้ คงอีกพักนึงที่เราจะตกลงบทสรุปกันได้ค่ะ แต่ใช่เรากำลังเจรจากันอยู่”* ซึ่งดูจากคำสัมภาษณ์ของเธอแล้ว ก็เป็นไปได้ว่า Courteney Cox จะอยู่ระหว่างการพูดคุยให้กลับมารับบทเช่นกัน
หนังมีแผนเปิดกล้องที่เมืองวิลมินตัน รัฐนอร์ธแคโรไลนาของสหรัฐฯ ภายในปีนี้ เมื่อมาตรการล็อกดาวน์จากโควิด-19 ผ่อนคลายแล้ว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส
