วันนี้ ( 7 ธ.ค. 62 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 16 ของฤดูกาล "เดอะ เชอร์รี่ส์" บอร์นมัธ เปิดสนาม ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงทำการแข่งขันเวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
09/02/19 ลิเวอร์พูล 3-0 บอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก)
08/12/18 บอร์นมัธ 0-4 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
14/04/18 ลิเวอร์พูล 3-0 บอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก)
17/12/17 บอร์นมัธ 0-4 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
06/04/17 ลิเวอร์พูล 2-2 บอร์นมัธ (พรีเมียร์ลีก)
04/12/16 บอร์นมัธ 4-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
บอร์นมัธ
03/12/19 แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
30/11/19 แพ้ สเปอร์ส 2-3 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
23/11/19 แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
09/11/19 แพ้ นิวคาสเซิ่ล 1-2 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
02/11/19 ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูล
04/12/19 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 5-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
30/11/19 ชนะ ไบรท์ตัน 2-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
27/11/19 เสมอ นาโปลี 1-1 (เหย้า, แชมเปี้ยนส์ ลีก)
23/11/19 ชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
10/11/19 ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
ความพร้อมล่าสุด
บอร์นมัธ
เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือ "เดอะ เชอร์รี่ส์" พาทีมแพ้คริสตัล พาเลซ 0-1 ในเกมล่าสุดทั้งๆที่ทีมเยือนเล่นแค่ 10 คนทำให้เป็นการแพ้ 4 นัดติดต่อกัน
ความพร้อมเกมนี้ยังมีลิสต์แข้งเจ็บเป็นหางว่าวทั้งสตีฟ คุ้ก, โจชัว คิง, เดวิด บรู๊ค, ชาร์ลี ดาเนียลส์ และ จูเนีร์ สตานิสลาส ที่ยังต้องรักษาตัวกันต่อไปรวมทั้งจะชวดใช้งาน แฮร์รี่ วิลสัน ปีกที่ยืมมาจากหงส์แดงติดสัญญายืมตัว
นอกจากนี้ยังต้องเช็กความฟิตลอยด์ เคลลี่ กองหลังดาวรุ่ง และ แอนดรูว์ เซอร์แมน กองกลางจอมเก๋า ขณะที่อดัม สมิธ ลงซ้อมได้เต็มพิกัดแล้วพร้อมช่วยทีม
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (4-4-2) : อารอน แรมส์เดล - อดัม สมิธ, คริส เมแฟม, นาธาน อาเก้, ดีเอโก้ ริโก้ - อาร์โนต์ ดานยูม่า โกรเนเฟลด์, ฟิลิป บิลลิ่ง, เจฟเฟร์ซอน เลร์มา, ไรอัน เฟรเซอร์ - โดมินิค โซลันเก้, คัลลัม วิลสัน
ลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล พาทีมชนะเอฟเวอร์ตัน 5-2 ในเกมล่าสุดจนทำสถิติไร้พ่ายยาวนานสุดในประวัติศาสตร์สโมสร 32 เกมและเป็นชัยเกมลีกนัดที่ 100 ของคล็อปป์
ความพร้อมเกมนี้ยังชวดใช้งาน โฌแอล มาติป ปราการหลังตัวเก่ง และ ฟาบินโญ่ กองกลางบราซิเลียน ที่ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งคู่
แต่มีข่าวดีได้อลิสซอน เบ็คเกอร์ พ้นโทษแบนกลับมาเฝ้าเสาทำให้อาเดรียนกลับไปนั่งสำรองตามเดิม ส่วนแกนหลักบางรายที่ได้พักเมื่อกลางสัปดาห์ทั้งจอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่ จะคัมแบ็กทีมตัวจริง
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่
TNNSPORTS ชี้ขาดผลการแข่งขัน
บอร์นมัธกำลังฟุบหนักเกมรุกมีปัญหาหลังขาดโจชัว คิง กับ เดวิด บรู๊ค ส่วนเกมรับก็ไม่เหนียวแน่นเหมืนเดิม เกมนี้ได้เล่นในรังก็จริงแต่ต้องเจอลิเวอร์พูลที่กำลังฮอตแม้มีเกมยุโรปรออยู่แต่เชื่อว่าเจเคจัดเต็มก่อนเก็บตัวครึ่งหลังดูแล้วความมั่นใจและความฮึกเหิมอยู่ที่ทีมเยือนไม่น่าพลาดเก็บชัย
บอร์นมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
