ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เห็นด้วยกับข้อเสนอของ แจ๊คหม่า ประธาน กลุ่มอาลีบาบา ที่ต้องการเปลี่ยนจากการเช่าเป็นซื้อที่ดินอีอีซีสร้างศูนย์กลางขนส่งสินค้า เชื่อไม่กระทบปัญหาความมั่นคง แต่เป็นผลดีทางเศรษฐกิจ ช่วย SME ไทยส่งออกสินค้า
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สุพันธุ์ มงคลสุธี บอกว่า จากกรณี ประธานกรรมการ อาลีบาบากรุ๊ป แจ็ค หม่า ได้ยื่นข้อเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็น Hub logistic โดยอาลีบาบาต้องการที่จะขอซื้อที่ดินในประเทศไทยแทนการเช่าที่ดินตามที่ตกลงเบื้องต้นกันไว้ ได้สร้างเสียงวิพากย์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ว่าจะคุ้มค่าหรือไม่นั้น ส่วนตัวเห็นว่าไม่มีปัญหาต้องกังวลเนื่องจากในหลายประเทศก็เปิดขายที่ดินเช่นกัน โดยไม่มีประเด็นปัญหาเรื่องความมั่นคง เพราะการขอซื้อที่ดินของแจ๊ค หม่า ซื้อเป็นจำนวนไม่มาก เพื่อสร้างเป็น Hub logistic หรือ ฐานการขนส่งของบริษัท ไม่ได้สร้างเป็นนิคมขนาดใหญ่โต ในทางตรงกันข้าม การเข้ามาตั้งฐานการขนส่งของอาลีบาบาในประเทศไทย จะส่งผลดีทางเศรษฐกิจ เปิดโอกาสในผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SME ในไทย ได้ขนสินค้าไปขายกับอาลีบาบาได้โดยตรง โดยที่ผ่านมา บ.อาลีบาบา กรุ๊ป ได้ทำข้อตกลงกับ บมจ ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA เพื่อขอเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมของ WHA ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา สำหรับพัฒนาเป็นเขตส่งเสริมธุรกิจอีคอมเมิร์ซและสมาร์ทโลจิสติกส์ แล้ว
ด้านเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก คณิศ แสงสุพรรณ บอกว่า ได้รับทราบข้อเสนอใหม่ของอาลีบาบาแล้ว โดยภายใต้ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 มาตรา 52 ไม่สามารถซื้อที่ดินลงทุนได้ แต่จะทำได้เพียงการเช่าพื้นที่ตามกฎหมายเท่านั้นรวมไม่เกิน 99 ปี ดังนั้นในกรณีที่ แจ๊คหม่าต้องการจะซื้อที่ดินจะต้องใช้กฎหมายฉบับอื่นที่ว่าด้วยเรื่องของการขายที่ดิน เพื่อนำมาพิจารณาการขอซื้อที่ดินแทนกฎหมาย EEC ส่วน พ.ร.บ. BOI ให้สิทธินักลงทุนต่างด้าวในการซื้อที่ดินได้ แต่จะได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามประกาศของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนตามประเภทกิจการนั้น ๆ เท่านั้น
