โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ส.ส.สิระ โต้เดือด นายกเทศมนตรีกะรน ปม นส.3 ก.หมดอายุ สร้างคอนโดได้ไง

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 19 ส.ค. 2562 เวลา 13.10 น. • เผยแพร่ 19 ส.ค. 2562 เวลา 13.10 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

ส.ส.สิระ เข้าพบ ผวจ.ภูเก็ต และนายกเทศมนตรีตำบลกะรน ก่อนเปิดฉากโต้เถียงกันเดือด ต่างไม่พอใจ เหมือนไม่ให้เกียรตินักการเมืองท้องถิ่น ขณะจังหวัดตั้งคณะทำงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงคอนโดหรู ใน 30 วัน

วันที่ 19 ส.ค. ที่ห้องรับรองชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายศาสตรา ศรีปาน นายพยม พรหมเพชร และ ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา พรรคพลังประชารัฐ และคณะ ได้เข้าพบนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.ภูเก็ต นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รอง ผวจ.ภูเก็ต และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ที่ดินจังหวัด โยธาธิการและผังเมือง ท้องถิ่นจังหวัด เป็นต้น เพื่อหารือกรณีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่กะตะน้อย ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต ว่า ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการคอนโดมิเนียมหรูและการครอบครองเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว คือ นส.3 ก. หลังศาลปกครองชั้นต้นนครศรีธรรมราช ได้มีคำสั่งให้เพิกถอน แต่เทศบาลตำบลกะรน ยังอนุญาตให้มีการก่อสร้างโครงการ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนรับฟังแต่อย่างใด

ต่อจากนั้นที่ห้องประชุมชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสิระ พร้อมคณะ ได้มาพบปะและพูดคุยกับ นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีกะรน พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง โดยได้มีการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อสรุปที่ได้จากการหารือกับ ผวจ.ภูเก็ต ว่า ทางจังหวัดจะแต่งตั้งคณะทำงานในการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยมีรอง ผวจ.ภูเก็ต เป็นหัวหน้าคณะทำงานและจะตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในเวลา 30 วัน โดยจะตรวจสอบในประเด็นที่มองว่า ยังไม่มีความชัดเจน เช่น การศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ว่า ดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ เพราะได้รับข้อมูลว่ากำนันผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และกรณีที่ทางเทศบาลอ้างว่า มีลำรางสาธารณะ แต่จากการตรวจสอบในเอกสารสิทธิ ไม่มีลำรางแต่อย่างใด การออกใบอนุญาตก่อสร้างถูกต้องหรือไม่ และทราบว่า ใบอนุญาตหมดอายุแล้ว ทำไมยังก่อสร้างอยู่

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ชาวบ้านร้องเรียนว่า ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้าง เนื่องจากในช่วงฝนตกหนักจะมีน้ำไหลลงมาด้านล่าง ท่วมพื้นผิวจราจรและบ้านเรือน ขอให้เทศบาลสั่งระงับการก่อสร้าง แต่ยังไม่มีคำสั่งแต่อย่างใด และในการขออนุญาตก่อสร้างเป็นที่พักอาศัยรวม แต่เมื่อก่อสร้างจริงกลับเป็นการสร้างอาคารคอนโดมิเนียม เพื่อขายให้คนต่างชาติและเป็นไปตามแบบที่ขออนุญาตหรือไม่

“จากข้อมูลความผิดปกติดังกล่าว หากยังปล่อยให้มีการก่อสร้างต่อไปอีกจะกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ เพราะคอนโดมิเนียม จำนวนกว่า 400 ห้อง มีการขายให้คนต่างชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการผ่อนดาวน์ หากมีคำสั่งศาลปกครองถึงที่สุด ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ ผู้เสียหาย คือ คนต่างชาติ เมื่อเป็นเช่นนั้น จะมีฟ้องร้องรัฐ เพื่อเรียกร้องค่าชดเชย ซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี ถามว่าคนไทยทั้งประเทศจะยอมหรือ”

นายสิระ กล่าวด้วยว่า หากผลการตรวจสอบของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นโดยจังหวัดนั้น พบว่ามีความผิด ได้เสนอ ผวจ.ขอให้มีคำสั่งให้นายกเทศมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้ย้ายผู้อำนวยการกองช่างออกจากพื้นที่ทันที รวมทั้งจะไปแจ้งกับ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการทำงานของนายกเทศมนตรีและผู้อำนวยการกองช่าง ที่ปล่อยปละละเลยหรือเข้าข่ายละเว้นหรือไม่ รวมทั้งยื่นเรื่องให้ ปปง.ตรวจสอบทรัพย์สินของข้าราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย

ขณะที่ นายทวี ทองแช่ม นายกเทศมนตรีตำบลกะรน กล่าวชี้แจงว่า การอนุญาตก่อสร้างโครงการดังกล่าวนั้น เทศบาลตำบลกะรนได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากมีการยื่นเอกสารต่างๆ มาอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งได้ขอให้ทางนิติกรชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ นายสิระ ได้ตั้งคำถามเพิ่มว่า กรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการดังกล่าวนั้น และใบอนุญาตหมดอายุ นายกเทศมนตรีทราบเรื่องนี้หรือไม่ ซึ่งนายกเทศมนตรีตำบลกะรน ชี้แจงว่า เทศบาลได้มีคำสั่งระงับการก่อสร้างไปแล้วเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้ไม่เกิดผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยนายสิระได้สวนกลับว่า เพราะรู้ว่าตนและคณะจะลงมาพื้นที่ใช่หรือไม่ ซึ่งนายทวีได้โต้กลับไปว่า ไม่ใช่ เนื่องจากเทศบาลได้รับการร้องเรียนเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา และได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่าชาวบ้านได้รับผลกระทบจริง จึงได้มีคำสั่งระงับการก่อสร้างชั่วคราว และให้ทางโครงการไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชาวบ้านตามมาตรการผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งขณะนี้ทางโครงการดำเนินการอยู่

นายทวี กล่าวต่อว่า ตัวเองเป็นคนกะรนและอยู่ในพื้นที่มามากว่า 70 ปีแล้ว ทราบดีว่าปัญหาน้ำท่วมที่บริเวณหาดกะตะน้อยนั้น ที่ผ่านมามีปัญหามาโดยตลอด ก่อนที่จะมีโครงการ และหลังจากมีโครงการ อาจจะมีในเรื่องของดินไหลลงมาด้วย ซึ่งสั่งการให้แก้ไขแล้ว แต่สาเหตุอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้น้ำท่วมขังคลองบางรัก ซึ่งเป็นคลองสาธารณะถูกออกเอกสารสิทธิทับ และมีการถมจนน้ำไม่มีทางไป จนเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น

นอกจากนี้ นายสิระ ยังได้สอบถามถึงใบอนุญาตที่หมดอายุแล้ว แต่ทำไมยังให้ก่อสร้างอยู่ ซึ่งนายทวีได้ชี้แจงว่า การออกใบอนุญาตเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และสามารถที่จะต่อได้อัตโนมัติ ยืนยันว่า ดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย และที่ดินแปลงนี้ ทางเจ้าพนักงานที่ดินได้ยืนยันว่าออกโดยชอบด้วยกฎหมาย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการฟ้องร้องที่ศาลปกครอง ซึ่งเจ้าของกรรมสิทธิ์ยังคงมีสิทธิจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะชี้ชัด ดังนั้นเทศบาลจึงต้องต่อใบอนุญาตให้ หากไม่ต่อใบอนุญาตจะถูกเจ้าของที่ดินฟ้องร้องได้ และเทศบาลจะเอาเงินจากไหนมาจ่ายค่าฟ้องร้อง ซึ่งการดำเนินการทุกอย่าง เราทำด้วยความระมัดระวังเช่นกัน ทุกขั้นตอนมีการหารือกับนิติกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ขณะที่นายสิระกำลังสอบถามนายทวี ในประเด็นต่างๆ ที่ยังสงสัย จะมีการใช้น้ำเสียงที่ค่อนข้างดัง และพยายามจี้ให้ตอบในประเด็นต่างๆ ทั้งเรื่องใบอนุญาต ใบอนุญาตหมดอายุ นส 3 ก.อนุญาตให้ก่อสร้างคอนโดฯ ได้อย่างไร ทั้งที่โฉนดที่ดินยังไม่ออกและอีกหลายๆ เรื่อง จนทำให้เกิดการโต้เถียงกันขึ้น และในระหว่างนั้นมีรองนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภามาร่วมชี้แจงด้วย และแสดงอาการไม่พอใจกับพฤติกรรมของนายสิระด้วย ซึ่งมองว่า มีลักษณะเหมือนข่มเหงนักการเมืองท้องถิ่น ทั้งๆ ที่เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งมาเหมือนกัน เพียงแต่คนละสนามเท่านั้น พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบลำรางที่ถูกถม ซึ่งอยู่ด้านข้างโรงแรมแห่งหนึ่งด้วย

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0